ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบ 2 หนุ่มอดีตโปรแกรมเมอร์ เขียนระบบเเฮ็กข้อมูลรหัสชิงโชคของบริษัทเอกชน กว่า 6,000 ครั้ง
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ร่วมกันจับกุม นายวัชนันท์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 824/2566 ลงวันที่ 21 มี.ค. 2566 จับได้ที่บ้านพักบริเวณ ซอยนวมินทร์ 1 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ จังหวัดกรุงเทพมหานคร และนายสมประสงค์ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 825/2566 ลงวันที่ 21 มี.ค. 2566 จับได้ที่บ้านพักบริเวณ ซ.เสรีไทย 43 แยก 3 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม จังหวัดกรุงเทพมหานคร
ในข้อหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน, ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน , ร่วมกันกระทำการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ และร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร” ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 5, 7, 10(1), 14(1) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334, 335(1)
ตรวจยึดของกลาง คอมพิวเตอร์ แบบตั้งโต๊ะ จำนวน 6 เครื่อง คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก จำนวน 4 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน จำนวน 13 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม ซิมโทรศัพท์ จำนวน 15 หมายเลข บัตร ATM จำนวน 1 ใบ
พฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้รับเรื่องร้องทุกข์กรณี บริษัทพาวเวอร์ไทเทเนียม ร่วมกับ บริษัททรูมันนี่ จัดแคมเปญนำรหัสใต้ฝาเครื่องดื่มพาวเวอร์ไทเทเนียมวิตามิน มาแลกรับเงินสดผ่านระบบทรูมันนี่วอเลท (โดย 1 รหัสใต้ฝา สามารถนำมาแลกเป็นเงินในระบบทรูมันนี่ได้ 10 บาท)
ต่อมา บริษัททรูมันนี่ ได้ทำการตรวจพบว่ามีการใช้งานระบบแม่ข่ายหรือเซิฟเวอร์ของบริษัทมากจนทำให้ระบบการประมวลผลทำงานได้ช้าลงอย่างมาก และไม่สามารถเข้าใช้งานตามปกติได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ทำการตรวจสอบโดยละเอียด จึงพบว่าในช่วงวันที่ 11-13 ธันวาคม 2565 ได้มีคนร้ายโจมตีเข้าระบบข้อมูลจำนวนมากกว่า 300,000 ครั้ง อย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้ระบบทำงานช้าลง นอกจากนี้คนร้ายยังสามารถแฮกเอาโค้ดรหัสแลกรางวัลจำนวนมากกว่า 6,000 โค้ด เพื่อนำไปแลกเป็นเงินสด คิดเป็นเงินกว่า 60,000 บาท
ต่อมาวันที่ 23 มี.ค.2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายวัชนันท์ และนายสมประสงค์ จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมตรวจยึดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบข้อมูลเชื่อมโยงไปยังกลุ่มผู้ต้องหารายอื่น ซึ่งจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นายสมประสงค์ ผู้ต้องหาให้การว่า ตนเรียนจบและมีความรู้ทางไอที จึงได้ทดลองแฮกเว็บไซต์กิจกรรมดังกล่าว โดยในครั้งแรกสามารถแฮกเข้าระบบได้ จึงได้ชักชวนนายวัชนันท์เพื่อนสนิทมาร่วมกระทำความผิดในครั้งนี้ด้วย
