คดีพลิก สาวฉะตำรวจเมินช่วยจับคนถ้ำมองที่แท้ลูกโวยแม่ป่วยอาละวาดพังบ้าน (คลิป)

สืบเนื่องจากกรณีเหตุการณ์ที่ผู้ใช้โซเชียลติ๊กต็อกรายหนึ่ง ได้มีการโพสต์คลิปลักษณะคล้ายว่าทางชาวบ้านรายหนึ่ง ร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจลงพื้นที่ไปตรวจสอบ หลังคนในบ้านนั่งดักขวางทางเข้าประตูห้องน้ำ ปัญหาดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหากเห็นในคลิปจะพบว่าได้ใข้ความพยายาและไกล่เกลี่ยให้ปัญหาที่เกิดขึ้น แต่หญิงสาวรายดังกล่าวกลับไม่ยอม และยังโวยวายเจ้าหน้าที่ตำรวจหาว่าไม่ช่วย ก่อนจะใช้นำเสียงจะโกนใส่

ล่าสุด 14 ม.ค. 66 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังที่เกิดเหตุ อยู่ในซอยย่านรัชดา-ท่าพระ รัชดาภิเษก 25 โดยบ้านหลังดังกล่าวนั้นเข้าไปภายในซอยไม่ไกล ห่างจากปากซอยประมาณ 300 เมตร ทีมข่าวเองได้พยายามเรียกและพูดคุยกับทางบุคคลภายในบ้านหลังดังกล่าว

นางอรอุมา (นามสมมติ) เล่าว่าคลิปดังกล่าวตนเองเป็นคนถ่ายและลงไปในโซเชียลเอง เป็นบุคคลภายในคลิปที่มีการพูดจาตามที่ปรากฏ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองอยากจะแยกเป็น 2 ประเด็น คือ ประเด็นแรกเหตุการณ์เริ่มต้นยอมรับว่ามาจากปัญหาภายในครอบครัว เนื่องจากบ้านหลังที่ตนอยู่นั้นพักอาศัยกันแค่ 2 คน คือตนและแม่วัย 97 ปี แม่มีอาการป่วยโรคชรา ประจวบกับอัลไซเมอร์และมีอาการป่วยทางจิตเวชมานานกว่า 4 ปี ทำให้ตนกับทางคุณแม่มักจะสื่อสารไม่ตรงกัน มีปัญหากันบ่อยครั้ง รวมถึงปัญหาพี่น้องของตนด้วยส่วนหนึ่งที่ทำให้ตนต้องมีปากเสียงกับทางคุณแม่

เหตุการณ์ในคืนวันที่เกิดเหตุการณ์นั้น แม่ของตนได้มีการทำลายข้าวของทุบตีกระจก และทุบป้ายไวบอร์ดที่ตนติดอยู่ที่หน้าบ้านทิ้ง ตนกลับมาก็มีการนำแม่กุญแจมาล็อกจากในบ้านไม่ให้ตนเข้าบ้านได้ เลยมีปากเสียงกัน กระทั่งตนเคลียร์จนสามารถเข้าไปในบ้านได้ แต่ทางคุณแม่ของตนกลับไม่ยอม มานั่งดักหน้าประตูทางเข้าห้องแต่งตัวที่จะทะลุไปห้องน้ำ จนทำให้ตนไม่สามารถอาบน้ำได้ ขอร้องและเคลียร์ อย่างไรแม่ก็ไม่ยอม ตนเลยตัดสินใจโทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้มาช่วยเจรจา จึงเป็นประเด็นที่ 2 หลังจากที่พลเองได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาช่วยเหลือเพื่อไก่เกลี่ยตนกับคุณแม่

แต่ปรากฏว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางมาถึง กลับไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ แต่กลับมาบอกว่าตนเองสามารถเดินเข้าไปห้องน้ำได้ ทั้งที่ไม่ไปจัดการแม่ของตน ตนเองเลยตัดสินใจอัดคลิปดังกล่าวลงโซเชียล ตามที่ปรากฎในคลิป เพราะมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่ได้มาช่วยเหลือแต่กลับตรวจสอบแล้วกลับไปโดยที่ไม่ได้มีการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด หนำช้ำยังปล่อยให้ตนต้องแก้ปัญหาเอง

เมื่อถามว่าสิ่งที่โพสต์ไปหลายคนเห็นต่างว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ผิด แต่ผิดที่ตนเอง ในส่วนนี้ตนอยากให้มองอีกมุมว่าสิ่งที่ตนต้องการคือต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาระงับเหตุ โดยใช้วิธีจิตวิทยา หรือกระทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ปัญหาที่เกิดขึ้นสามารถคลี่คลายได้ ไม่ใช่มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือปัญหาของครอบครัว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจหรือไม่มีสิทธิ์ที่จะไปยุ่งเกี่ยว เพราะหากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมองว่าเป็นเรื่องของครอบครัว ตนก็อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ย้อนกลับไปคิดว่าทุกวันนี้ปัญหาในครอบครัวที่มีการฆ่าแทงหรือทำร้ายร่างกายกัน จุดเริ่มต้นก็มาจากการที่ทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยหรือเคลียร์เจรจาไม่ลงตัวใช่หรือไม่

สุดท้ายเมื่อมีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ปล่อยให้คนที่มีปัญหาต้องเคลียร์กันเอง ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งระงับสติอารมณ์หรือควบคุมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่อยู่ เหตุการณ์ที่เลวร้ายก็อาจจะเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ ตนเองอยากฝากถึงชาวโซเชียลฯ หรือชาวเน็ต อย่าเพิ่งวิจารณ์หรือถกเถียงประเด็นดังกล่าว ถ้าหากยังไม่ทราบเรื่องหรือไม่ทราบข้อเท็จจริง