จากกรณีคณะกรรมการวัดคนหนึ่งที่มีอำนาจในการเบิกเงินวัดเพ็ญญาติ ต.กะเปียด อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ออกมาเปิดเผยกับสื่อว่า ก่อนหน้าที่กาโตะจะสึกจากพระ 2-3 วัน กาโตะมาอ้างว่าจะเบิกเงินจำนวน 600,000 บาทเพื่อนำมาจ่ายค่าก่อสร้างเสนาสนะในวัด ตนกับอดีตพระกาโตะจึงร่วมกันเซ็นเบิกเงินดังกล่าวออกมาจากธนาคาร
หลังจากตนติดตามข่าวว่ามีการจ่ายเงินเคลียร์ยุติเรื่องให้สาวตอง 300,000 บาท และจ่ายนักข่าวอีก 300,000 บาท ผ่านทางพระผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ชื่ออาจารย์ดอน วัดวังตะวันตก ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
โดยเงิน 300,000 บาทจ่ายให้สาวตองไปแล้ว อีกส่วนที่จะเคลียร์นักข่าวเพื่อปิดข่าว แต่นักข่าวเขาไม่ยอมรับ และยืนยันจะเปิดโปงเพื่อสึกพระกาโตะให้จนได้ เงินจำนวนดังล่าวจึงยังอยู่ที่พระอาจารย์ดอน อีกทั้งพระดอนเองก็มีหมายจับด้วยนั้น
ล่าสุด วันที่ 4 พ.ค. 65 ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนายโชคดี นุมาศ อายุ 76 ปี หนึ่งในคณะกรรมการเงินบัญชีวัดเพ็ญญาติ เปิดเผยว่า ตนเองไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นจ เพราะการจะเบิกเงินวัดจะต้องมีการเซ็นอนุมัติจากกรรมการวัด 2 ใน 3 คน ซึ่งตนเองไม่ทราบเรื่องที่กาโตะ แเละนายสันติ ไปร่วมกันเซ็นชื่ออนุมัติเบิกเงินวัด
ตนเองเพิ่งจะทราบเมื่อวานว่ามีการเบิกเงินวัดออกไปจริง โดยเอาไปใช้จ่ายส่วนตัว มีการนำเงินมาคืนภายในวันนี้ 4 พ.ค.65 จำนวนเงิน 600,000 บาท เรื่องการบวชแล้วทำความผิดถูกสึกเรื่องก็จบแล้ว
ส่วนเรื่องเงินวัดที่เอาไปใช้ส่วนตัวนั้น ตนมองว่าไม่ใช่เรื่องที่น่าผิดหวัง เพราะกาโตะทำประโยชน์ให้กับวัดมากมาย ซึ่งเงินจำนวนนี้กาโตะก็เป็นคนหามาเข้าวัดเอง การเอาเงินออกไปครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการยืมเอาไปใช้เท่านั้น สุดท้ายกาโตะเอาเงินมาคืนวัดอยู่ดี เมื่อคืนเงินแล้วทุกอย่างก็จบ ตนไม่ติดใจแจ้งความ เพราะกาโตะแค่ยืม
ส่วนการคืนเงินในวันนี้จะมีตนเป็นหนึ่งคนที่กาโตะจะเอาเงินมาคืน ยังมีคนอื่น ๆ อีกที่ร่วมกันเป็นพยาน ตนไม่ขอบอกว่าจะมีการคืนเงินกันที่ไหน เวลาใด
ทีมข่าวได้รับรายงานข้อมูลว่า เมื่อช่วง 13.00 น. วัดมังคลาราม ต.พิปูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช นายพงศกร จันทร์แก้ว หรือ กาโตะ ได้นำเงินจำนวน 600,000 บาท มาคืนให้กับคณะกรรมการวัดเพ็ญญาติ มีพยานคือ พระครูอรรคธรรมโกวิท (พระอุปัชฌาย์) เจ้าคณะอำเภอฉวาง (ธรรมยุต) วัดวังม่วง, พระครูบุญการโกศล เจ้าคณะตำบลพิปูน วัดมังคลาราม, นายบำรุง ยอดมณี นายกอบต.กะเปรียด, นายกิตติ หนูเนตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3, นายจีรัชญ์ เกษเพชร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2, นายโชคดี นุมาศ คณะกรรมการเงินวัด, นายสันติ จงราช คณะกรรมการเงินวัด
รายละเอียดของการคืนเงินวัด ตามที่อดีตทิดกาโตะ ได้เบิกเงินวัดเพ็ญญาติไป เป็นเงินจำนวน 600,000 บาท จึงเป็นที่สนใจต่อสังคมอย่างมาก โดยในวันนี้ ทิดกาโตะ นายพงศกร จันทร์แก้ว ได้นำเวินมาคืนที่วัดมังคลาราม เป็นเงินจำนวน 600,000 บาท มีพยานรับทราบ 5 ท่าน
ส่วนผู้ที่ได้รับมอบหมายให้นำเงินจำนวน 600,000 บาท เพื่อนำเข้าธนาคารบัญชีวัดเพ็ญญาติ ในวันพรุ่งนี้ 5 พ.ค.65 มี 3 ท่าน คือ
1. นายบำรุง ยอดมณี นายกอบต.กะเปรียด
2. นายโชคดี นุมาศ คณะกรรมการเงินวัด
3. นายสันติ จงราช คณะกรรมการเงินวัด
พระครูอรรคธรรมโกวิท (พระอุปัชฌาย์) เจ้าคณะอำเภอฉวาง (ธรรมยุต) วัดวังม่วง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลก็พบว่า นายพงศกรยอมรับอย่างสุภาพบุรุษว่ามีการเบิกเงินวัดไปจริง ด้มีการนำเงินมาคืน ตอนแรกจะมีการนำเงินไปคืนที่วัดเพ็ญญาติ แต่ไม่มีกรรมการ ตนจึงได้รับการติดต่อให้มาเป็นสักขีพยานช่วงเวลาก่อน 12.00 น. เมื่อตนมาถึงช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. ก็พบว่านายพงศกรรออยู่ก่อน ตนก็ได้มานั่งเป็นพยานเท่านั้น
ส่วนสาเหตุของการที่จะต้องมีการยืมเงินวัดนั้น เป็นเพราะว่าในช่วงที่เกิดปัญหา นายพงศกรคิดไม่ออกว่าจะต้องจัดการปัญหาอย่างไร จึงได้ยืนเงินวัด ไม่ได้ตั้งใจที่จะยักยอกเงิน ทั้งนี้นายพงศกรยังคงเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะออกมายอมรับ ซึ่งหลังจากคืนเงินแล้ว ตนก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีก ส่วนเรื่องจะมีการดำเนินคดีอะไรหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่พระราชวรญาณ ตาที วัดบุพผาราม เขตธนบุรี รักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ ส่วนตัวนายสันติ จงราช หนึ่งในคณะกรรมการวัดที่มีการเซ็นอนุมัติเบิกเงินนั้น ก็คงจะไม่ต้องมีการตรวจสอบอีกแล้ว เพราะมีการคืนเงินแล้วเรียบร้อย
หลังจากนี้ก็จะมีการคืนเงินนำกลับเอาเข้าบัญชีธนาคารต่อไป เมื่อดำเนินการเสร็จแล้วก็จะนำรายงานส่งเจ้าคณะจังหวัดต่อไป ส่วนตัวของกาโตะหลังจากมีการมีการคืนเงินเสร็จแล้วก็ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันเป็นการส่วนตัว ตนในฐานะที่เป็นพระอุปัชฌาย์หลังจากทราบเรื่องราวทั้งหมด ก็ยังทำใจไม่ค่อยได้ หัวใจเต้นแรง ด้วยความที่กาโตะอายุยังน้อย และขาดการอบรม
นายบำรุง ยอดมณี อายุ 59 ปี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกะเปียด เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. กาโตะโทรมาหาตนบอกว่าจะมีการคืนเงินที่เบิกเงินวัดไปใช้ จำนวน 600,000 บาท หลังจากนั้นก็มีคณะกรรมการวัดเข้ามาปรึกษาตน ตนก็ถือว่าหากกาโตะมีความประสงค์จะคืนเงินให้กับวัด ก็ถือว่าเป็นการดีกับวัดเพ็ญญาติ จากนั้นก็มีการนัดเเนะการคืนเงินกันที่วัดมังคลาราม ตนไปถึงวัดประมาณ 14.00 น. ก็มีกาโตะเเละทีมงานอีกประมาณ 4-5 คนรออยู่ก่อนเเล้ว โดยเดินทางมาด้วยรถกระบะ เอ็มจี ตอนครึ่ง สีดำ ทะเบียน สงขลา
ในช่วงหนึ่งของการคืนเงินลักษณะท่าทางของกาโตะ ก็ดูไม่มีความเครียดใด ๆ พร้อมกับบอกกล่าวว่าตัวเองไม่มีเจตนาที่จะเอาเงินวัดไปใช้ แต่มีเหตุจำเป็นขอเงินวัดไปใช้ก่อน หลังจากนั้น 5-6 วัน ก็จะคืน ส่วนเงิน 600,000 บาทที่นำมาคืนในวันนี้ คือเงินส่วนตัวที่ฝากไว้ให้กับผู้ใหญ่ที่เขานับถือ ส่วนเงินที่ให้ตองไว้ 300,000 บาท กับเงินที่อยู่กับพระคนกลางอีก 300,000 บาท แล้วเงินนี่ที่นำมาคืนวัดอีก 600,000 บาท จะเท่ากับว่ากาโตะเสียเงินไปทั้งหมด 1,200,000 บาทหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบจริง ๆ
นายบำรุง กล่าวต่อว่า สำหรับเงิน 600,000 บาทในวันนี้ ที่ตนได้รับความไว้วางใจจากหลายฝ่ายให้นำมาเก็บรักษาไว้ก่อน เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดธนาคารปิด โดยในวันพรุ่งนี้ 5 พ.ค.65 ตนและทีมจะเดินทางไปฝากเงินกับธนาคารตั้งแต่เช้า หลังจากฝากเงินเสร็จแล้ว ตนจะมีการถ่ายเอกสารยอดล่าสุดในบัญชีไปไว้ที่เจ้าคณะอำเภอและที่วัดเพ็ญญาติ ให้ชาวบ้านได้มาดูความเคลื่อนไหวของเงินในบัญชีเล่มนี้ ซึ่งในเรื่องของคณะกรรมการเงินวัดที่ขณะนี้ขาดไป 1 คน ตนก็ได้รับคำเชิญให้เข้ามาเป็นแทนกาโตะ หลังจากนี้ก็จะมีการประชุมคณะกรรมการชุดเก่าก่อน เพื่อที่จะมีการแต่งตั้งให้ตนเป็นหนึ่งในคณะกรรมการต่อไป ส่วนเรื่องจำนวนของคณะกรรมการ โดยปกติแล้ว จะเป็นเรื่องที่วัดจะตกลงกับทางธนาคาร ก็มี 3 คน หรือ 5 คนก็ได้ แล้วแต่ความสะดวกของการเบิกเงิน
ส่วนเรื่องที่กาโตะสามารถเบิกเงินวัดออกไปถือว่าเป็นการยืม อย่างนี้ไม่ถือว่าเป็นความผิด เช่นนั้นคนอื่นก็จะสามารถยืมเงินได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่สามารถที่จะตอบเเทนได้ ส่วนมากพระเเต่ละวัดก็จะมีการเบิกเงินจากคณะกรรมการวัดเพื่อเอาออกมาใช้ทำประโยชน์เกี่ยวกับวัดอยู่เเล้ว ไม่เคยมีการยืมเงินมาก่อน ซึ่งหลังจากนี้หากทางคณะกรรมการของวัด และรักษาการเจ้าอาวาสไม่ติดใจเอาความ ก็ไม่ต้องเเจ้งความ แต่ในทางกฎหมายตนก็ไม่เเน่ใจว่ากาโตะจะมีความผิดหรือไม่ หากเขามีการนำเงินไป 600,000 บาท แล้วนำมาคืนทุกอย่างก็จบ เพราะกาโตะไม่ได้มีเจตนาที่จะเอาไปใช้ส่วนตัวอยู่แล้ว
ความคิดเห็นของตนและชาวบ้านในพื้นที่ที่ทราบมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็รู้สึกสงสาร ในทางความผิดของกาโตะเองก็มี แต่ตั้งแต่มีกาโตะ เข้ามาบวชที่วัด วัดได้พัฒนาไปเยอะมาก ชาวบ้านไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีเรื่องระหว่างอดีตพระกาโตะกับสีกาเลย
