กรณีทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กถึงประเด็นการพบลิ่มเลือดบริเวณบาดแผลของสาวแตง และอัปโหลดคลิปดังกล่าวลงในยูทูบ กระทั่งพญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ โพสต์เฟซบุ๊กยืนยันว่า “ไม่ได้พูด” ตามที่รายการ “ทนายคู่ใจ” นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ นำเสนอเรื่องหยดเลือดพลิก! “คดีแตงโม” เป็นการฆาตกรรม?
ล่าสุดวันที่ 20 มี.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี มีโอกาสพูดคุยกับ รศ.นพ.วีรศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช มศว กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้น ทนายทนายรณณรงค์ได้มีการโทรศัพท์มาสอบถามส่วนตัวว่า ได้ยินเรื่องหมอพรทิพย์ พูดถึงลิ่มเลือดบริเวณปากแผลของสาวแตงโมหรือไม่ ขณะนั้นตนก็ไม่แน่ใจ เนื่องจากยังไม่ได้เช็กข่าวกับสื่อมวลชน แต่ได้อธิบายกลไกการเกิดลิ่มเลือด ถ้าหากว่าข้อมูลนี้มีจริง ก็เกิดขึ้นได้ แต่ไม่ทราบว่ามีการบันทึกคลิปวิดีโอไปเผยแพร่ด้วย ตนจึงได้โทรศัพท์ไปหาหมอพรทิพย์ ซึ่งท่านบอกว่าข้อมูลดังกล่าวท่านไม่ได้พูด
ส่วนกลไกของการเกิดลิ่มเลือดนั้น เกิดจากเลือดที่ไหลออกมาแล้วเกิดกระบวนการของ Prothrombin time ซึ่งเป็นการแข็งตัวจนเป็น Clotting time หรือ ก้อนเลือด โดยมีระยะเวลา 4-8 นาที แล้วแต่ภูมิคุ้มกันในร่างกายของแต่ละคน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเกิดขึ้นบนบก เพราะถ้าเกิดในน้ำโอกาสที่จะเกิดลิ่มเลือดเป็นไปได้ยากมาก ๆ เนื่องจากน้ำจะทำให้เลือดเป็นสารละลาย ไม่สามารถแข็งตัวได้ ถ้าเกิดขึ้นก่อนตกเรือจริงก็สามารถสืบหาความจริงจากศพได้ ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น ตนขอแนะนำว่าให้รอผลชันสูตรโดยละเอียดเสียก่อน
ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ผลการผ่าชันสูตรรอบ 2 เบื้องต้นเน้นในส่วนที่สังคมสงสัย โดยเฉพาะข้อสังสัยว่าสาวแตงโมถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่
1.ดวงตาที่สงสัยว่าผิดรูป อีกข้างเหมือนบวมช้ำ และอีกข้างดวงตาหรี่ นพ.ศราวุฒิ สุจริตธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนิติเวช และโฆษกสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เป็นคนแรกที่ชันสูตรร่าง จึงมีภาพถ่ายตั้งแต่พบร่าง จะเห็นว่าร่างถูกเคลื่อนไปสถานีตำรวจ ก่อนไปนิติเวชค่อนข้างใช้เวลา อากาศร้อน ทำให้สภาพศพเปลี่ยนได้ เพราะมีแบคทีเรียไปกินเม็ดเลือด ซึ่งช่วงก่อนผ่าชันสูตร นพ.ศราวุฒิ ได้เบิกดวงตาดูว่ามีเลือดในลูกตาขาวหรือไม่ พบว่าปกติดี อีกทั้งเมื่อผ่าชันสูตรศพแล้วทั้ง 2 รอบ ก็ไม่มีรอยกระแทก รอยช้ำ ทั้งในดวงตา และเปิดสมองดูก็พบว่าปกติดี
2.ข้อสงสัยเรื่องฟัน ที่มีบางคนบอกว่าหัก พบว่าฟันซี่ที่ใกล้บริเวณกระพุ้งแก้ม มีเศษดินติดที่ฟัน และขณะนั้น นพ.ศราวุฒิ ยังดูไม่ละเอียด เพราะลิ้นของสาวแตงโมจุกปาก จึงนำตรวจแบบ CT scan ปรากฎชัดว่าฟันครบถ้วน เมื่อตรวจซ้ำไปพบร่องรอยการครอบฟันไว้ให้สวยงามขณะยังมีชีวิต แต่เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาอะไร
3.ข้อสงสัยลอยที่คอ ยืนยันได้ว่าศพขยายตัว แต่เพื่อคลายความสงสัยจึงผ่าเปิดคอด้านข้าง ก็ไม่พบการถูกบีบคอ อีกทั้งยังนำดีเอ็นเอที่ซอกเล็บไปตรวจด้วย แต่ก็ไม่พบดีเอ็นเอแฝงของใคร
4.ข้อสงสัยหน้าอกเป็นรอยไหม้ ในรูปภาพอาจจะเห็นสีผิวเปลี่ยนไป และหนังหลุดลอก ก็มีการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ ซึ่งก็ปกติดี แต่สภาพที่เห็นนั้น เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงของสภาพศพเท่านั้น
5.ข้อสงสัยที่ตรวจไม่เจอยูเรีย ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ น้องแตงโมใส่แผ่นคล้ายผ้าอนามัยมีคราบเลือดเป็นวงไม่มาก แต่การหลุดออกน่าจะมีจากการแช่น้ำนาน แต่มีการนำไปตรวจดีเอ็นเอแล้ว เป็นเลือดไม่มีสิ่งอื่นแฝง ส่วนยูเรียที่ไม่เจอ อาจจะต้องดูโปรตีนประกอบ เพราะสาเหตุที่ไม่พบคือแช่น้ำนาน ซึ่งยากที่จะพิสูจน์ว่าฉี่หรือไม่ฉี่ โดยเฉพาะกระเพาะก็ได้ผ่าเปิดดูแล้ว
ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต กล่าวด้วยว่า ส่วนประเด็นที่พบแผลบนร่างกายของสาวแตงโม 22 จุด ตนยืนยันว่าบางแผลเป็นบั้งปลา ที่อาจจะพอดีกับวัตถุบางอย่าง จุดนี้เป็นสาระสำคัญที่ทำให้บาดเจ็บเคลื่อนไหวไม่ได้ เป็นแผลที่เกิดก่อนเสียชีวิตแน่นอน เพราะพบเลือดเป็นก้อน ๆ และเป็นจุดแทรกซึม แต่หลังจากนี้จะจำลองขนาดแผลทุกแผลกับทุก ๆ วัตถุ และจะเชื่อมโยงกับแผลใหญ่ได้แน่นอนว่าเกิดจากวัตถุอะไร จากนั้นก็จะเป็นเรื่องของตำรวจที่จะสรุปออกมา สำหรับผลชันสูตรที่ออกมาเบื้องต้นต้องตรวจแผลให้ได้ว่าถูกบาดหรือตัดจากอะไร จึงจะชี้ว่าใครทำให้เสียชีวิต โดยเฉพาะแผลใหญ่ที่ขาทำให้ทรงตัวไม่ได้
ดังนั้น จะทำให้ทิศทางการสืบสวนเปลี่ยนไปหรือไม่ ตนเชื่อตำรวจมีหลักฐานหมดแล้ว ตนไม่อยากขี้นำ แต่ในฐานะนักกฎหมายมองได้ 2 ทาง คือ อุบัติเหตุ และฆาตกรรม ซึ่งสิ่งที่สงสัยคือกระโปรงสีขาวที่หายไป ซึ่งจุดนี้จะบอกได้ว่าถูกฆาตกรรมหรือไม่ เพราะจากสภาพศพเห็นเพียงสายที่ขาดอยู่ที่เอว แต่ไม่มีผ้าชุดอื่นที่เชื่อมโยงกับสายดังกล่าว ถ้าเจอกระโปงจะตอบอะไรชัดเจนขึ้น เช่น ถ้าโดนใบบัดต้องยุ่ย หรือถ้าทำร้ายร่างกายและถูกจับถอด คนทำจึงเอาไปทิ้ง อย่างไรก็ตาม ตนขอให้กำลังใจตำรวจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่สิ่งที่ลำบากที่สุดคือการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จลงในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งหากไม่ใช่เรื่องจริงก็จะถือว่ามีความผิด และทำให้ยากลำบากต่อการทำงาน ดังนั้น หากใครรักน้องแตงโมจริง ขอให้นำพยานหลักฐานที่เป็นข้อเท็จจริงมาช่วยกันพิสูจน์จะได้เร็วขึ้น
