กรณีผู้เสียหายได้ร้องเรียนผ่านทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี โดยเรื่องราวเกิดขึ้นในพื้นที่จ.ชลบุรี หลังจากที่ "น้องมอส" สาวประเภทสองรายหนึ่ง ได้ไปนั่งสังสรรค์กับเพื่อน จู่ ๆ ก็มีนายตำรวจแต่งกายนอกเครื่องแบบถือขวดเหล้ามา ลักษณะคล้ายคนเมาแล้วสั่งให้น้องมอสนั่งลง ก่อนจะถูกเท้าเตะเข้าที่ใบหน้า ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพขณะที่เกิดเหตุการณ์ได้
ล่าสุดวันที่ 10 พ.ย.64 นายพายุวัฒน์ ดีหอมศิล อายุ 18 ปี สาวประเภทสองผู้เสียหายที่ปรากฏในคลิป เล่าให้ฟังว่า เมื่อวานนี้ (9 พ.ย.64) ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ตนพร้อมกับเพื่อนสนิทได้เดินทางไปที่ร้านสะดวกชื้อแห่งหนึ่ง ย่านบางแสนสาย 4 ใต้ เพื่อไปหาทางคนนางสาวยุวรัตน์ สียา หรือ เจ๊จ๋า เจ้าของร้านสะดวกชื้อดังกล่าว ซึ่งพอไปถึงกลับพบว่าเจ๊จ๋า กำลังมีปากเสียงอยู่กับนายตำรวจคนก่อเหตุ ซึ่งตนก็นั่งรออยู่ที่หน้ารถยังไม่เข้าไป ต่อมาตำรวจคนนี้ก็ได้เดินมาชี้หน้าตน ก่อนจะพูดว่า "มึงอย่านั่งตรงนั้น ให้ลงมานั่งข้างล่าง มานั่งที่พื้น" ตนก็ทำตามที่เขาบอก พอจังหวะที่ตนกำลังนั่งลง ผู้ก่อเหตุก็ได้เตะเข้าที่ใบหน้าของตน ก่อนที่เขาจะพูดว่า "กูไม่กลัวใครหรอกนะ กูเป็นตำรวจขนาดยิงคนตายยังไม่เป็นไรเลย" หลังจากนั้นตนก็ตัดสินใจขี่รถออกมาจากจุดเกิดเหตุกับเพื่อนทันที เพราะเขาขู่ว่ามีปืน
ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่รู้จักกับผู้ก่อเหตุมาก่อน แต่เคยเห็นหน้าแค่ครั้งเดียวช่วง 4-5 วันก่อน ที่เจ๊จ๋า ไปหาที่สภ.แสนสุข แต่ตนไม่ทราบว่าเขาคือใคร ซึ่งก่อนเกิดเรื่องตนก็ไม่ได้มีปัญหาหรือมองหน้าอีกฝ่ายแต่ที่ติดใจคือคำพูดของนายตำรวจคนดังกล่าว ระบุว่า "ไม่ชอบกะเทย" ทั้ง ๆ ที่ตนไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้กับเขามาก่อน ทำไมเขาถึงมาทำแบบนี้
"วันที่เกิดเหตุเขาใส่ชุดเครื่องแบบครึ่งท่อน มีลักษณะคล้ายคนมึนเมา ไม่มีสติ เบื้องต้นหนูเจ็บที่หน้า มีอาการฟกซ้ำ และปากแตก ยอมรับว่าหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลัวว่าเขาจะใช้อำนาจมาทำร้าย หนูอยากฝากถึงผู้มีอำนาจในพื้นที่ เพราะคุณเองก็เป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่กลับมารังแกประชาชน ทั้งที่ไม่ได้มีเรื่องมีราวมาก่อน หนูยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด" นายพายุวัฒน์ กล่าว
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ น้องทาทา (นามสมมติ) อายุ 16 ปี กล่าวฟัง ในฐานะคนที่อยู่ในเหตุ ตนกับ นายพายุวัฒน์ ได้ขี่รถมาหาเจ๊จ๋า พอถึงร้านที่เกิดเหตุ จู่ ๆ ผู้ก่อเหตุก็โยนขวดเบียร์ใส่เจ๊จ๋า พอผู้ก่อเหตุเห็นนายพายุวัฒน์ ก็เลยเรียกให้ลงจากรถจักรยานยนต์ จากนั้นเหตุการณ์ก็เป็นไปตามคลิปดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเจ๊จ๋ากับผู้ก่อเหตุ น่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว เพราะเจ๊จ๋า กับทางตำรวจรายดังกล่าวมีลักษณะหึงหวงกัน ไม่อยากให้เจ๊จ๋าออกไปข้างนอก หรืออาจจะมองว่านายพายุวัฒน์ จะไปหลอกเอาเงินของเจ๊จ๋า หรือไม่
ทีมข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณถนนเลี่ยงเมืองหนองมน ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงได้มีโอกาสพูดคุยกับ นางสาวยุวรัตน์ สียา หรือ เจ๊จ๋า อายุ 30 ปี คนที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนกับน้องมอส รู้จักกันได้ประมาณ 1 สัปดาห์กว่า ๆ จากการที่ไปเที่ยวเเถวหาดบางแสนด้วยกัน แล้วบังเอิญเจอกันและรู้สึกถูกชะตา เลยชักชวนมาทำงานที่ร้านสะดวกชื้อของตนจนสนิทสนมกัน
กระทั่งในวันเกิดเหตุ ตนกับน้องมอส และน้องอีกคนได้ชวนกันไปทานข้าว แต่จังหวะที่กำลังจะขับรถออกจากบ้าน จู่ ๆ ด.ต.คนดังกล่าว ก็มาทำร้ายร่างกายน้องมอสโดยไร้เหตุผล เป็นเรื่องที่ตนรับไม่ได้และไม่ถูกต้อง ต่อให้เป็นตำรวจ ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ต้องไปรับโทษตามกฎหมาย ตนยืนยันว่าก่อนเกิดเหตุน้องมอสก็ไม่ได้มีปากเสียงกับด.ต.คนดังกล่าว
เมื่อถามว่าส่วนตัวรู้จักกับ ด.ต.คนดังกล่าวหรือไม่ ตนยอมรับว่ารู้จักกันจริง ไม่ถึงคบหาดูใจกัน แม้ว่าที่ผ่านมา ด.ต.คนดังกล่าว จะเข้ามาตีสนิทและมีลักษณะจะจีบตน แต่ตนไม่ได้ชอบ และไม่ได้คิดอะไรเกินเลยในลักษเชิงชู้สาว
"จริง ๆ แล้วสาเหตุที่เกิดขึ้น คาดว่าน่าจะมาจากการที่ด.ต.คนดังกล่าวชอบ แล้วเกิดความหึงหวง อาจทำให้ไม่พอใจที่เห็นไปเที่ยวกับน้องมอสหรือไม่ อันนี้ไม่ทราบ" เจ๊จ๋า กล่าวให้ฟัง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เจ๊จ๋า ได้ไปดื่มเหล้าจนเมา และขับรถก่อความวุ่นวายในบริเวณหาดบางแสน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสกัดจับกุม และแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ ทั้งนี้ ด.ต.คนดังกล่าว ก็ต้องเอาเงินสดไปประกันตัวออกมา
ด้านนางปาริชาติ มาตรกรแก้ว อายุ 50 ปี แม่ของเจ๊จ๋า เปิดเผยว่า จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเพิ่งมาทราบภายหลัง เขาทั้ง 2 คนคบหาดูใจกัน แต่ช่วงหลัง ๆ ลูกสาวของตนเริ่มมีอาการผิดปกติ หลังจากที่รู้จักกับน้องมอส ซึ่งตนก็เพิ่งจะเห็นหน้า ลักษณะคล้ายว่าชวนกันไปมึนเมา ไม่สนใจ และไม่เอาอะไรทั้งสิ้น รวมไปถึงลูกสาวของตนเริ่มมีอาการผิดปกติทางสมอง เพราะช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ก็เคยก่อเหตุขับรถย้อนศร ซิ่งรถแหกด่าน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องควบคุมตัวไปที่โรงพัก ซึ่งก็ได้ทาง ด.ต.คนดังกล่าวมาช่วยประกันตัวออกมา ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด.ต.คนดังกล่าว น่าจะมีความเป็นห่วงลูกสาวของตน ที่เกรงว่าน้องมอส จะมาหลอกเอาเงินและชักชวนให้ลูกสาวของตนเสียคน
ต่อมาเวลา 12.00 น. นายพายุวัฒน์ พร้อมด้วยนางวริศรา แซ่เอี๊ยว อายุ 52 ปี ผู้เป็นแม่ ชาว จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางมายัง สภ.แสนสุข พร้อมด้วยหลักฐานกล้องวงจรปิดขณะที่เกิดเหตุ และใบรับรองแพทย์ เพื่อเข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.ชัฎ บรรทัดเที่ยง รองผกก. (สอบสวน) สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.สุรสิทธิ์ เนื่องจำนงค์ ผกก.สภ.แสนสุข ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นนายตำรวจคนดังกล่าวเป็นตำรวจสังกัด สภ.แสนสุข ประจำห้องวิทยุสื่อสาร ก่อนหน้านี้เป็นตำรวจประจำศาลจังหวัดชลบุรี แต่ถูกเรียกกลับมาให้ประจำการห้องวิทยุสื่อสารโงพัก ประมาณ 1-2 เดือน โดยในช่วงเกิดเหตุตำรวจรายนี้ไม่ได้อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ เป็นเวรพัก ส่วนสาเหตุที่ทราบเป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวและหึงหวง หากสืบทราบแล้วว่ากระทำความผิดจริง ก็จะเรียกตัวมาสอบ และดำเนินการทางวินัย ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ผิดว่าไปตามผิดแน่นอน
