ความเคลื่อนไหวที่บ้านหนองหญ้าแก้วช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังอยู่ในสถานการณ์ปกติ และไม่พบความวุ่นวายจากของกัมพูชา แต่การจากตรวจสอบภาพมุมสูงของกองกำลังบูรพา พบว่าทางกัมพูชายังคงมีการตั้งเพิงพักอยู่ในพื้นที่ และไม่มีท่าทีที่จะยอมอพยพออกจากพื้นที่ของไทยแต่อย่างใด แม้ว่าในวันนี้จะเป็นวันครบกำหนด 15 วัน ที่กรมป่าไม้ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีตรวจยึดพื้นที่คืนจากชาวกัมพูชาที่รุกล้ำ และประกาศให้อพยพออกจากบ้านหนองหญ้าแก้วภายในวันนี้
โดยนายธีรวัฒน์ อ่อนสำลี ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 สาขาปราจีนบุรี ให้ข้อมูลว่า สำหรับบ้านหนองหญ้าแก้วที่ครบกำหนดแล้วในวันนี้ จากนี้ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ขอย้ำว่าทางป่าไม้เองมีความพร้อม แต่การลงพื้นที่เข้าไปด้านในบ้านหนองหญ้าแก้วต้องประสานฝ่ายความมั่นคงก่อน ซึ่งตอนนี้ได้ประสานฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ไปแล้ว ทั้งในเรื่องความปลอดภัย ของการลงพื้นที่ ก่อนเข้าดำเนินการในขั้นตอนต่อไป และยืนยันว่าหากมีความพร้อมเมื่อไหร่ ทางป่าไม้จะเข้าพร้อมดำเนินการทันที แต่ไม่ขอแจ้งวันและเวลาในการปฏิบัติ
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว บอกกับทีมข่าวว่าตอนนี้แม้กัมพูชาจะไม่ได้เกณฑ์ม็อบมาก่อความวุ่นวายนานแล้ว แต่เชื่อว่าอย่างไรก็ตาม กัมพูชาจะไม่ยอมออกจากพื้นที่ง่ายๆ แม้กรมป่าไม้จะมีการติดป้าย 3 ภาษา บริเวณแนวลวดหนาม แต่ชาวบ้านก็ยังคงให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ขอให้เอาพื้นที่คืนมาให้กับชาวบ้านให้ได้ ชาวบ้านพร้อมสนับสนุนอยู่ตลอด
พันเอกชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ได้ลงพื้นที่มายังบ้านหนองจาน และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงความคืบหน้าของแผนการเดินหน้าปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ในพื้นที่บ้านหนองแก้วและบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว
โดยบอกว่าตามที่กรมป่าไม้ได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.โคกสูงตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2568 ว่าให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อพยพออกจากพื้นที่ภายใน 15 วัน ซึ่งวันนี้ 3 ตุลาคม ก็ครบกำหนดแล้ว ดังนั้นหลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนตามกฏหมาย เช่นเดียวกับในพื้นที่บ้านหนองจาน ที่กรมป่าไม้มีการแจ้งความไว้เมื่อ 25 กันยายน 2568 ก็จะครบกำหนดที่ชาวกัมพูชาต้องอพยพออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 10 ตุลาคมนี้
แต่ในส่วนของกองกำลังบูรพา ก็ต้องรอฟังคำสั่งจากกองทัพภาคที่ 1 อีกที ถึงจะดำเนินการอะไรได้ ดังนั้นการจะดำเนินการผลักดันได้ จะต้องทำร่วมกันหลายส่วน ทั้งด้านของจังหวัดสระแก้วและกรมป่าไม้ด้วย
แต่ดูเหมือนว่าทางกัมพูชาจะมีการเตรียมตัว อย่างเช่นเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ก็มีการนำคณะ IOT กับเหล่ากาชาดกัมพูชาและเด็ก เข้ามาอยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ดังนั้นคล้ายกับว่าเขากำลังจะสร้างให้เกิดภาพความรุนแรงจากฝั่งไทยอยู่แล้ว
ส่วนท่าทีการอพยพของชาวกัมพูชาในพื้นที่ที่มีการบุกรุกทั้งบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว ปัจจุบันยังไม่ได้มีท่าทีจะอพยพออกไป และทางผู้นำก็ไม่ได้มีการส่งแผนอพยพกลับมาด้วย
ซึ่งอย่างไรก็ตามหากทางชาวกัมพูชาที่มีการบุกรุกแผ่นดินไทย ไม่ปฏิบัติตามข้อความที่มีการปักป้าย ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และ พ.ร.บ.ป่าไม้ ได้ตามอำนาจหน้าที่ทางกฎหมาย อย่างพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จริงๆแล้วก็สามารถดำเนินคดีได้เลย นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แต่ก็ต้องอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมและเน้นย้ำอีกครั้งว่าทางกองกำลังบูรพาก็จะต้องรอคำสั่งการจากแม่ทัพภาคที่ 1 ให้ดำเนินการตามกรอบอีกที
“พันเอกชัยณรงค์” ยังบอกอีกว่า ตอนนี้กองกำลังบูรพาได้มีการเตรียมการไว้หมดแล้ว หากพูดกันแบบภาษาชาวบ้านคือพร้อมปฏิบัติทุกอย่าง แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกรอบแม่ทัพภาคที่ 1 และแม่ทัพภาคที่ 1 ก็ต้องรอคำสั่งจากกองทัพบก แล้วกองทัพบกก็ต้องฟังรัฐบาลอีกที
ส่วนกับคำพูดของแม่ทัพภาคที่ 1 ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อวานว่า “จะดำเนินการทันทีเมื่อได้เปรียบ” ด้านของ “พันเอกชัยณรงค์ กาสี” ก็ขยายความว่า "ถ้าเราปฏิบัติไปแล้ว ถ้าเราชนะและไม่เสียเชิงทั้งในด้านของการเอาพื้นที่คืนและในด้านของเวทีโลก ก็ทำได้"
Advertisement