วันที่ 16 ก.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศตำรวจภูธรภาค 5 (ศปอส.ภ.5)และเจ้าหน้าที่สืบสวนภาค 5 ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ท.กฤตธา พลยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และคณะได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 7 ราย ซึ่งเป็นขบวนการถอนเงินข้ามชาติที่เชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเครือข่ายจีนเทาคิงโรมัน
ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ที่ให้สืบสวนจับกุมกลุ่มอาชญากรรมเทคโนโลยี ที่สร้างความเสียหายอย่างหนักแก่ประชาชน โดยพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จะหลอกลวงเหยื่อให้โอนเงินเข้าบัญชีม้า จากนั้นจะรีบถอนเงินสดทันที เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกติดตามจากการสืบสวนเจ้าหน้าที่ทราบว่ามีกลุ่มคนจีนและคนลาวที่มาจากคิงโรมันสปป.ลาว ร่วมกับคนไทยที่ทำหน้าที่หาบัญชีม้ามีการเคลื่อนไหวถอนเงินในจังหวัดลำพูน
เจ้าหน้าที่ได้สะกดรอยตามรถยนต์ต้องสงสัยยี่ห้อฟอร์ดรุ่นเอเวอร์เรสทะเบียน จย 8425 เชียงใหม่ ไปยังธนาคารแห่งหนึ่งในตำบลเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน พบว่ามีผู้ต้องหา 2 คน คือนายเอกชัย และน.ส.สายรุ้ง เข้าไปทำธุรกรรมถอนเงินที่เคาน์เตอร์ เมื่อทั้งสองออกมาจากธนาคารเพื่อนำเงินไปส่งต่อให้น.ส.นันท์ธนัษฐ์ ที่รออยู่ในรถ เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัวและขอตรวจสอบ
จากการตรวจสอบพบเงินสดจำนวน 549,000 บาท พร้อมสมุดบัญชีที่ใช้ในการถอนเงิน จึงได้เชิญตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คนมาสอบสวนและขยายผลที่ศปอส.ภ.5 ซึ่งประกอบด้วย
-นายศรัณย์พงศ์ อายุ 51 ปี ทำหน้าที่ขับรถและควบคุมม้ากดเงิน
-น.ส.นันท์ธนัษฐ์ อายุ 48 ปี ทำหน้าที่ควบคุมม้ากดเงินและหาบัญชีม้า
-MR.KEOMOUNSEELAVONG อายุ 25 ปี สัญชาติลาวทำหน้าที่ควบคุมม้ากดเงินและตรวจสอบบัญชี
-น.ส.สายรุ้ง อายุ 43 ปี ทำหน้าที่ควบคุมม้ากดเงิน
-นายเอกชัย อายุ 40 ปี ทำหน้าที่ม้ากดเงินและเจ้าของบัญชี
-นายณัฐภัทร อายุ 27 ปี ทำหน้าที่จัดหาบัญชี
-นายวิทูล อายุ 43 ปี เป็นเจ้าของบัญชีม้ารับเงิน
ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกตั้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น,ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์และร่วมกันเป็นอั้งยี่
เจ้าหน้าที่เผยว่าเหยื่อส่วนใหญ่ ถูกหลอกให้ทำภารกิจเพื่อรับรางวัลตอบแทน และจากการสอบสวนขยายผลยังพบข้อมูลการติดต่อ และเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับกลุ่มจีนเทาในคิงโรมัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะรวบรวมหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไป
Advertisement