วันที่ 16 ก.ย. 68 นางเอ (นามสมมติ) อายุ 39 ปี แม่ค้าขายผักในอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ช่วงต้นเดือน ตนเป็นงูสวัดบริเวณท้ายทอย และหลังใบหู จึงไปซื้อยากินยาทาเอง จากนั้นอาการไม่ดีขึ้น เพื่อนที่รู้จักกันจึงแนะนำให้ไปพบหมอพื้นบ้านรายหนึ่ง ด้วยความเชื่อ ตนจึงไปทำการรักษาพื้นบ้านด้วยวิธีการหมอพื้นบ้าน คือใช้ปากเคี้ยวหมากพลู และมีการท่องคาถาแล้วพ่นใส่บริเวณแผลบริเวณศีรษะลงมาที่คอ
ช่วงเย็นรู้สึกเจ็บแสบทั่วร่างกาย และมีไข้ จึงไปซื้อยาแก้ปวดแก้ไข้กินเป็นเวลา 7 วัน แต่อาการไม่ได้ขึ้น กลับมีแผลพุพองที่ผิวหนังทั่วร่างกาย เจ็บระบมไปทั้งตัว และมีไข้ขึ้นสู งจึงไปคลินิกข้างบ้าน เปิดแผลให้ดู ขาทั้งสองข้างบวมแดงตุ่มเต็มตัว พนักงานที่ร้านบอกไม่สามารถให้ยาได้ เพราะมีอาการติดเชื้อแล้ว ขอให้ไปโรงพยาบาลจะดีกว่า
จากนั้นจึงโทรศัพท์ที่หมายเลข 1669 ขอความช่วยเหลือให้รถพยาบาลมารับ เนื่องจากไม่สามารถช่วยตัวเองได้แล้ว เมื่อมาถึงโรงพยาบาลแพทย์ได้ให้เข้าห้องฉุกเฉินให้น้ำเกลือ เบื้องต้นบอกว่าติดเชื้อในกระแสเลือด แพทย์เวรบอกว่า หากมาช้ากว่านี้จะเกิดอาการช็อก เนื่องจากไข้สูงถึง 39.2 องศาเซลเซียส
ผู้ป่วยเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้าที่มาถึงมือหมอ ผิวหนังทั่วร่างเป็นแผลพุพองบวมแดง ลักษณะน่ากลัว เมื่อผ่านการรักษาโดยแพทย์โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์นอนพักฟื้นได้ 1 อาทิตย์ มีอาการดีขึ้นเป็นลำดับ ไข้ลดลงผิวหนังเริ่มแห้ง และแผลตกสะเก็ด
“เป็นบทเรียนราคาแพง เกือบเอาชีวิตไม่รอด เนื่องจากรักษาผิดวิธี ผู้ที่เป็นโรคงูสวัดขอให้มารักษากับแพทย์ที่โรงพยาบาล ช่วยรักษาให้ตรงจุด และได้ผลชัดเจน ปลอดภัยต่อชีวิต ดีกว่าไปซื้อยากินเองรักษาตามความเชื่อที่ไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์รองรับ”
ด้าน นายแพทย์ธนกร ศรัณยภิญโญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า เริมกับงูสวัดเป็นเชื้อกลุ่มเดียวกัน แต่เป็นเชื้อคนละตัวในกลุ่มเชื้อเหล่านี้ หากร่างกายเรามีภูมิต้านทานดีก็จะไม่มีปัญหา ความรุนแรงของอาการจะเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้สูงอายุผิวหนังของมนุษย์เราทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าไปสู่ร่างกาย ซึ่งโรคเหล่านี้ทำให้เกิดพุพองเป็นตุ่ม และเกิดแผลขึ้นมามันก็เหมือนเปิดประตูให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นหากเราดูแลความสะอาดไม่ดีก็จะมีเชื้อโรค โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติมเข้าไป หากเป็นมากๆ ก็จะลุกลามไปจนทั่วร่างกาย หรือที่เรียกว่าติดเชื้อในกระแสเลือดได้ และเกิดอาการรุนแรง
โรคเหล่านี้แพทย์แผนปัจจุบันเรามียารักษาเป็นยาฆ่าเชื้อไวรัสตัวนี้โดยตรง เพราะฉะนั้นเวลาเป็น และได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่เริ่มแรกจะสามารถให้ยาแล้วทำให้โรคไม่ลุกลามอาการไม่เยอะ มีระยะเวลาในการรักษา 7–10 วัน สูงสุดไม่เกิน 14 วันจะหายได้ แม้ว่าโรคนี้จะรักษาไม่หายขาด แต่จะทำให้โรคสงบได้ยาวนาน
Advertisement