เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น. วันที่ 16 ต.ค. 65 ตำรวจ สภ.เขาชัยสน จ.พัทลุง รับแจ้งเหตุพ่อใช้ไม้ตีลูกชายคลั่งยาเสียชีวิต ภายในบ้าน หมู่ 9 ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง
ภายในบ้านพักพบศพ นายรัตนะศักดิ์ วาสุเทพ หรือ บอย อายุ 38 ปี ลูกชายของเจ้าของบ้านนอนเสียชีวิต เลือดนองพื้นอยู่ในห้องโถงของบ้าน สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำเงิน-ขาว สวมกางขาสั้นสีฟ้า สภาพศพถูกตีด้วยของแข็งเข้าบริเวณใบหน้า ศีรษะ และหน้าผากจนเละ พบบาดแผลคล้ายรูกระสุนจำนวน 9 รู บริเวณเหนือราวนมซ้ายอีกด้วย
ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายชำนาญ วาสุเทพ หรือ ตานาญ อายุ 70 ปี ผู้เป็นพ่อของผู้ตาย หลังก่อเหตุได้ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ ยอมรับว่าตนเองเป็นคนลงมือฆ่าลูกชายเอง ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ยิงใส่ไป 1 นัด ใช้ไม้หน้าสามตีเข้าศีรษะจนเสียชีวิตคาที่ ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาสอบสวนต่อที่โรงพัก
จากการสอบปากคำนายชำนาญ ผู้ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้ลงมือฆ่าลูกชายจริง ใช้ไม้หน้าสามทุบหัว ใช้ปืนยิงลูกชาย 1 นัดจนเสียชีวิต เพราะสุดจะทนกับพฤติกรรมของลูกชายแล้ว ที่หลอนยาบ้าหนัก และไถ่เอาเงิน ทำร้ายพ่อแม่เกือบทุกวัน
ซึ่งปัจจุบันลูกชายได้เข้ารับยาบำบัดที่โรงพยาบาลพัทลุง แต่ก็ยังไม่หายขาด เพราะลูกชายไม่ยอมกินยา หันกลับไปเสพยาบ้าหนักขึ้น เพราะทุกวันนี้ยาบ้าหาซื้อง่าย และถูกมาก กำลังจะหาทางพาลูกชายไปรักษาที่สถานบำบัดบ้านไม้เสียบ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช แต่ค่าบำบัดยามีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป ตนเองไม่มีเงิน และกำลังรอหาที่บำบัดลูกชายที่อื่นอยู่ แต่ลูกชายเกิดอาการคลั่งและทำร้ายภรรยาก่อน จึงจำเป็นต้องช่วยชีวิตภรรยา
เบื้องต้นตำรวจ แจ้งข้อหาฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และคดีครอบครองอาวุธโดยไม่รับอนุญาต โดยในวันพรุ่งนี้จะนำตัวฝากต่อศาลจังหวัดพัทลุงต่อไป
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่ สภ.เขาชัยสน หลังเกิดเหตุ ตำรวจชุดสืบสวนได้นำตัวนายชำนาญ ผู้เป็นพ่อมาสอบปากคำที่ห้องสืบสวน ใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 5 ชั่วโมงตั้งแต่เช้า ขณะตำรวจพานายชำนาญขึ้นไปสอบปากคำต่อบนโรงพักถึงเหตุผลที่ลงมือยิงลูกชาย เจ้าตัวยังคงปิดปากเงียบ ไม่ยอมพูดกับนักข่าว แต่จากการสังเกตสีหน้าแววตาของนายชำนาญ มีสีหน้าที่เศร้าหมอง ดวงตาแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พานายชำนาญ สอบปากคำต่อหน้าพนักงานสอบสวน ระหว่างสอบปากคำ มีลูกสาวคนกลาง เดินทางมาร่วมรับฟังการสอบสวนด้วย
นายไชยเลิศ รัตนรังษี อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้านควนยวน หมู่ 9 ต.โคกม่วง ให้ข้อมูลว่า นายบอยมีประวัติเสพยาบ้าอย่างหนักมานานหลายปีแล้ว ก่อนหน้านี้ตัวนายชำนาญ และนางพัว เคยพาลูกไปรักษาส่งไปบำบัดหลายครั้ง แต่พอกลับมาบ้านก็หันมาเสพยาอีก แก้ไม่หาย ล่าสุดกลับมาเสพหนักกว่าเดิม เพราะยาบ้าถูกมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ในหมู่บ้านเม็ดละ 10 บาท แถมหาซื้อง่าย ทำให้นายบอยยิ่งซื้อยามาเสพได้มากขึ้น
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 65 ก่อนจะเกิดเรื่อง นายชำนาญ และนางพัว ยังได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ซ้อนท้ายกันมาที่บ้านตนเอง เพื่อมาขอให้ตนเองช่วยหาทางพาลูกชายไปบำบัดยาเสพติดอยู่เลย เพราะสุดทนกับลูกชายแล้ว ตอนแรกจะพาไปบำบัดที่สถานฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด วัดไม้เสียบที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช แต่พบว่าราคาค่าบำบัดสูงถึง 20,000 บาท ทำให้ไม่มีเงินพาลูกชายไปบำบัด และที่อื่นก็แพงพอกัน
ซึ่งตนเองก็แนะนำไปว่าถ้าไม่มีเงินพาไปบำบัด ตนเองเอานายบอยเข้าคุก หรือไปบำบัดไม่ได้เหมือนกัน ถ้านายบอยยังไม่มีความผิด จะมีก็แต่ให้นางพัวไปแจ้งความจับลูกตัวเอง เพราะเคยถูกนายบอยทำร้ายร่างกาย แต่ทั้ง 2 คนผัวเมียก็หันมองหน้ากัน และไม่ขอทำตามขอเสนอตนเอง เพราะกลัวว่าลูกชายจะมีความผิดต้องติดคุก ซึ่งนางพัวรักลูกชายมาก ตนเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเกิดเหตุสลดขึ้น
นางพัว อายุ 73 ปี แม่ผู้ตาย บอกว่า ลูกชายติดตามานานหลานปีแล้ว ทางครอบครัวก็พยายามพาไปรักษา และล่าสุดรับยาบำบัดจากรพอยู่เวลาเมายา กลางคืนเขาก็จะไม่นอนเลย เมาหนักก็อาละวาดโวยวาย ถึงขั้นทำร้ายร่างกายของพ่อและแม่ ทั้งมีการขอเงินทุกวัน ครั้งละ 140-160 บาท ตกวันละ 300 บาท เพื่อไปซื้อยา พูดอะไรไม่ได้ ทะเลาะตลอดเวลา ไม่ให้ก็จะไม่พอใจ
โดยก่อนเกิดเหตุมาขอเงินตน 400 บาท เพื่อจะไปซื้อยา แต่ตอนบอกว่าไม่ได้กรีดยาง ไม่มีเงิน เขาเลยโวยวายเตะตน ต่อยตน นายชำนาญ สามีตนเห็นก็เข้ามาช่วย แต่ไม่คิดว่าลูกจะเสียชีวิต สามีทำไปเพราะความโกรธที่ลูกมาทำร้ายตน
ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปที่วัดควนยวน จ.พัทลุง สถานที่บำเพ็ญกุศลศพนายบอย มีญาติและชาวบ้านเดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจเป็นจำนวนมาก ทีมข่าวพยายามขอเข้าไปสอบถามนางพัว ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เจ้าตัวยังไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูลใด ๆ บอกว่าตอนนี้ยังทำใจไม่ได้
Advertisement