จากกรณีมีผู้โพสต์ภาพไฟชอร์ตเด็กนักเรียนลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก ซึ่งนักเรียนนอนคว่ำอยู่ในน้ำที่ท่วมถนน บริเวณประตูหลังโรงเรียนสตรีราชินูทิศ ถนนศรีชมชื่น เขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยมีคนเข้าไปช่วยยกร่างเข้าไปในโรงเรียน และแจ้งหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีนำส่งโรงพยาบาล
เนื่องจากก่อนหน้านี้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้น้ำท่วมถนนทุกสายในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ยังพบว่ามีนักเรียนโดนไฟชอร์ตอีกรวม 5 ราย เหตุเกิด 16.30 น. วันที่ 16 ก.ย. 65
ล่าสุด วันที่ 17 ก.ย. 65 ทีมข่าวได้เดินทางไปที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ด.ช.ชยุต หรือ น้องโซดา อายุ 12 ปี ม.1 ผู้ประสบเหตุ มีอาการตาบวมแดง เปิดใจว่า ตอนนี้อาหารของตนเองดีขึ้นมากแล้ว แต่ยังรู้สึกปวดตามตัวอยู่ เมื่อวานนี้ตนเองเดินออกมาจากโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล แต่จุดที่ตนต้องขึ้นรถกลับบ้านน้ำท่วมหนักมาก ตนจึงต้องเปลี่ยนเส้นทางเดินมาทางหลังโรงเรียนสตรีราชินูทิศ ที่เกิดเหตุแทน
โดยตอนแรก แม่ของตนบอกให้ตนข้ามถนนมาอีกฝั่ง ยังไม่สามารถที่จะข้ามถนนออกไปได้ ตนจึงเดินเลาะริมฟุตพาทไปก่อน จนกระทั่งไปถึงจุดที่เสาไฟตั้งอยู่ ตนไม่ทราบว่าไฟรั่วจากนั้นตนเองก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย พอตื่นอีกครั้งก็อยู่ รพ. แล้ว ตนจำอะไรไม่ได้เลย จนแม่ต้องเปิดคลิปที่ นายอรรถชัย หรือ บาส ช่วยชีวิตตนไว้ให้ดู
ตอนนี้ตนเองไม่ค่อยตกใจกับเกิดเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว แต่หลังจากนี้ก็คงจะไม่เดินแถวนั้นอีก ไม่ว่าฝนจะตกหรือไม่ก็ตาม ตนรู้สึกดีใจที่รอดชีวิต ขอขอบคุณนายอรรถชัย หรือ พี่บาส อย่างมาก
นายอรรถชัย อาจอุดม หรือ น้องบาส อายุ 19 ปี นักเรียนเทคนิค ปวส. แผนกเทคนิคคอมพิวเตอร์ ฮีโร่เสื้อกันฝนสีม่วงในคลิป เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนเองได้ไปเเถวโรงเรียนสตรีราชินูทิศ เพราะเป็นเส้นทางกลับบ้านอยู่เเล้ว ตนจึงได้จอดรถ จยย. เดินไปดูเส้นทางข้างหน้าก่อนว่าจะสามารถฝ่าไปได้หรือไม่
หลังจากนั้นตนยืนอยู่สักพัก ก่อนจะเห็นว่ามีน้องจิดาภาโดนไฟชอร์ตจนจมน้ำเเล้ว เห็นแต่ขา ตอนนั้นน้ำลึกประมาณเข่า ประมาณ 50 ซม. ตนก็พยายามจะเข้าไปช่วย แต่ไปไม่ทัน มีคนมาช่วยก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากนั้น ประมาณ 15 นาที ตนก็ยังยืนดูเหตุการณ์ต่อ ก่อนจะได้ยินเสียงคนตะโกนขอความช่วยเหลือ บอกว่า "มีคนถูกไฟชอร์ตอีก" ตนจึงรีบวิ่งฝ่าน้ำเข้าไปจับน้องชยุต แต่ตนก็ถูกไฟชอร์ตที่ขาไปด้วย ตนรู้สึกชาตั้งแต่ขาขึ้นมา ต้องถอยออกมาก่อน หลังจากนั้นน่าจะเป็นคนที่ถ่ายคลิปวิ่งเอาร่มเข้ามาให้ตน ตนก็พยายามเอาร่มเกี่ยวน้องจนสุดแรง จนร่มหัก หลังจากนั้นก็มีคนเอาผ้าขนหนูมาให้
ตนจึงยอมเสี่ยงใช้มือจับผ้าขนหนูแล้วจับตัวน้องชยุต ลากน้องออกมา พยายามพาน้องให้หน้าพ้นน้ำ เพราะกลัวน้องจะจมน้ำ แต่ตอนนั้นตนเองก็แทบจะไม่มีแรงเเล้ว หลังจากนั้น ก็มีคนพาพวกตนมาที่ รพ. ตอนมาถึงตอนแรกตนใจสั่นจะวูบ แต่ตอนนี้อาการดีขึ้น คาดว่าน่าจะออกจาก รพ. ได้ในวันพรุ่งนี้
อย่างไรก็ตาม ตนอยากขอขอบคุณทุกคนและทุกกำลังใจที่มีให้ตน อยากฝากเคสนี้เป็นอุทาหรณ์ ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก หากเกิดน้ำท่วม อย่าพยายามลงไปเล่นน้ำ ให้อยู่ให้ห่างจากเสาไฟฟ้า ต้องรักษาระยะห่างจากเสาไฟ
นางกนกรัตน์ เลยชัยภูมิ อายุ 45 ปี แม่น้องโชดา ผู้ประสบเหตุ เล่าทั้งน้ำตาว่าเมื่อวานนี้ได้ขับรถมารับลูก แต่น้ำท่วมหาที่จอดไม่ได้ เห็นลูกแล้วจึงโทรศัพท์หาลูก เพื่อนัดจุดที่จะมารับหน้าร้านอาหารญี่ปุ่น ขณะคุยกันโทรศัพท์ลูกก็ตัดไป โทรหาไม่รับ ตนจึงเดินตามหาลูก พอจอดรถมีคนมาบอกว่าไฟชอร์ตเด็ กและกู้ชีพพาไปโรงพยาบาลแล้ว ตอนแรกตกใจ
ตอนนี้รู้สึกโชคดี ขอบคุณที่ช่วยน้อง ถ้าไม่ดึงน้องออกมา ลูกแม่ต้องจมน้ำนานกว่านี้ เหตุการณ์นี้ลูกจะได้ประสบการณ์ ให้รู้จักสังเกตและระมัดระวัง ควรจะอยู่จุดไหนที่ไม่อันตราย ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ป้องกันได้
ต่อมานายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี เป็นตัวแทน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบกระเช้าผลไม้ให้น้องใบเตย และน้องข้าวหอม จากนั้นเดินทางไปที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี มอบกระเช้าผลไม้ให้ ด.ช.ชยุต เลยชัยภูมิ อายุ 12 ปี และ น.ส.จิดาภา เปรมปรีดิ์ อายุ 15 ปี นักเรียนที่โดนไฟดูดจนหมดสติ
และมอบกระเช้าผลไม้ และเงินให้นายอรรถชัย อาจอุดม หรือ น้องบาส ฮีโร่ที่เข้าไปช่วย โดยพลเอกประวิตรวงษ์ ได้วิดีคอลเข้าโทรศัพท์นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี เพื่อพูดคุยกับนายอรรถชัย "ในฐานะตัวแทนประชาชนชาวไทยขอขอบคุณบาสที่ได้ช่วยชีวิตไว้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ขอให้หายไว ๆ กลับบ้านไปเรียนหนังสือ ขอให้โชคดี" พลเอกประวิตร กล่าว
ด้านนายปรัชญา ใจบุญ หรือ น้องบอส อายุ 17 ปี เรียน ม.5/4 โรงเรียนอุดรพิชัยรักษ์พิทยา พลเมืองดีชุดนักเรียน ที่ช่วยปั๊มหัวใจให้น้องจิดาภา เปิดใจว่า ตอนนั้นตนเองกำลังขี่รถกลับบ้าน ผ่านเส้นหลังโรงเรียนสตรีราชินูทิศ ก่อนจะเห็นคนมุงดูอะไรบางอย่างอยู่จึงได้จอดรถดู ก่อนจะตัดสินใจวิ่งเข้าไปช่วย เห็นแขนน้องลอยอยู่ในน้ำ ตอนนั้นตนเข้าใจว่าน้องเป็นตะคริวแล้วจมน้ำ ไม่ได้ว่าถูกไฟชอร์ต ซึ่งตอนนั้นก็มีสาวหล่อคนหนึ่งอยู่ก่อนเเล้ว ตนจึงดึงร่างน้องมาช่วยปั๊มหัวใจให้
รอบเเรกหัวใจน้องไม่เต้น ตาค้าง เลือดออกปาก หลังจากนั้นก็มีคุณป้าคนหนึ่งเข้ามาตบหน้าอกน้อง ตนเกรงว่าจะเกิน 4 นาที แล้วน้องจะเสียชีวิต หลังจากนั้นพวกตนก็ช่วยกันปั๊มหัวใจอีก จนน้องมีสติขึ้นมา พูดแต่คำว่า "แม่" อย่างเดียว น้ำตาก็ไหลออกมา จนกระทั่งมีคอนตะโกนว่า "น้องถูกไฟชอร์ต ตรงน้ำท่วม" ตนตกใจจึงกระโดดเกาะประตูรั้ว หรือต่อให้ตนจะรู้ว่าที่ตรงนั้นมีไฟรั่วตนก็จะเข้าไปช่วยน้องอยู่ดี แต่ก็จะหาไม้หรืออะไรมาช่วยเขี่ยเเทน
ก่อนหน้านี้ตนเองเคยเรียนรู้เรื่องการปั๊มหัวใจมาจากการเรียน รด. และที่โรงเรียนสอน ก็เพิ่งจะเคยใช้วิชาในชีวิตจริงเป็นครั้งแรก ตนยอมรับว่าตื่นเต้น และรู้สึกภูมิใจในตัวเองมากที่สามารถช่วยชีวิตคน ๆ หนึ่งได้ ส่วนที่มีกระแสผู้คนต่างชื่นชมนั้นก็ขอขอบคุณมาก ตนไม่คิดว่าการกระทำของตนจะได้ออกข่าว ตนเองไม่ได้ช่วยเพื่อหวังผล ตอนนั้นคิดอย่างเดียว ขอแค่ให้น้องรอดชีวิตก็พอ ตอนนี้ก็ขอให้น้องจิดาภาหายไว ๆ อยากฝากเคสนี้ให้เป็นอุทาหรณ์ ถ้าหากเกิดน้ำท่วมไม่ควรที่จะเดินเข้าใกล้บริเวณเสาไฟ และไม่ควรที่จะเอามือจับเสาไฟเด็ดขาด
หลังจากนั้นทีมข่าวได้วิดีโอคอลหาคุณแม่ของน้องจิดาภา โดยคุณแม่ก็ได้กล่าวกับน้องบอสว่าขอบคุณเป็นอย่างมาก และไว้โอกาสหน้าจะหาเวลา เพื่อที่จะมาหาน้องบอส มาขอบคุณอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
นอกจากนี้ เมื่อวานนี้ช่วง 17.30 น. ที่ จ.อุดรธานี เกิดเหตุบริเวณด้านหน้าโรงเรียนปัญญาภิวัฒน์ (ร้านปิยะมอเตอร์) ต.หมากเเข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งได้เกิดเหตุไฟชอร์ตกับน้องผู้หญิง 2 คน ได้แก่ เด็กหญิงณิชาภัทร อายุ 11 ปี และเด็กหญิงณิรดา (สงวนนามสกุล) อายุ 9 ปี เป็นพี่น้องกัน โดยเกิดขึ้นห่างจากเสาไฟฟ้าประมาณ 50 เซนติเมตร
โดยหลังจากเกิดเหตุ เด็กหญิงได้ล้มลงกองกับพื้นที่มีน้ำขังคุณยายของน้อง จึงได้ช่วยพยุงหลานทั้ง 2 คนขึ้นก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาลอุดรธานี เบื้องต้นอาการปลอดภัยสามารถที่จะกลับบ้านได้แล้ว
นางพันศรี บุญจำเนียร อายุ 58 ปี ยายของน้องทั้ง 2 คนที่ประสบเหตุ เปิดใจกับทีมข่าวว่า เมื่อวานนี้ 17.30 น. ยายไปรับหลานจะกลับบ้าน และได้มีการเดินข้ามถนนกัน ตอนนั้นตนเองรวมถึงหลานสาวคนเล็กทั้ง 2 คนของตน ได้มีการถอดรองเท้าแล้วเดินข้ามถนน เพื่อจะไปหาเเม่ของเด็ก
จนกระทั่งถึงจุดเกิดเหตุ หลานคนเล็กก็ได้ล้มลง ตนคิดว่าหลานลื่นล้มจึงดึงหลานลุกขึ้น เเละมานั่งอยู่ตรงฟุตพาท ต่อมาไม่นาน หลานสาวอีกคนก็ล้มลงอีกคน ทำให้ตนตกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้นตนจึงได้เข้าไปพยุงหลาน จนขาของตนจุ่มน้ำบริเวณใกล้ ๆ กับเสาไฟฟ้า และรู้สึกชาขึ้นมาจากเท้าขึ้นขา ลามขึ้นตัว ตนจึงรู้ได้ทันทีว่าเสาไฟรั่ว จึงได้ตะโกนบอกคนที่อยู่ใกล้ ๆ
หลังจากนั้น ก็ได้พาหลานทั้ง 2 คนไปนั่งอยู่บริเวณด้านหน้า โรงเรียนปัญญาภิวัฒน์ และ รปภ.ก็มาช่วย ตอนนั้นหลานสาวของตนทั้ง 2 คนยังไม่ทันได้สลบ แต่มีอาการตัวเหลืองซีด หน้าซีดและมือเท้าชา หลังจากนั้นก็ได้พาไปส่ง รพ. ตนตอนนี้ตนเองก็ยังนอนไม่หลับเลย เพราะเห็นหลานล้มไปต่อหน้าต่อตา ตนเองอยากจะฝากอุทาหรณ์ว่าฝนตก และน้ำท่วม อย่าไปเดินเข้าใกล้เสาไฟ อยากให้เคสนี้เป็นเคสสุดท้าย ตอนนี้ทางเทศบาลนครอุดรธานี ก็ได้เข้ามาเยี่ยมเเล้ว
หลังจากนั้น ทีมข่าวได้เดินทางไปดูที่เกิดเหตุ บริเวณหลังโรงเรียนสตรีราชินูทิศ โดยที่เกิดเหตุเป็นเสาไฟส่องสว่าง ในช่วงกลางคืน ไม่มีสายไฟด้านบน ตัวเสาทำมาเหล็กทั้งต้น ความสูงประมาณ 10 เมตร ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังประตูโรงเรียนสตรีราชินูทิศ
Advertisement