Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
16 ตุลาคม "วันอาหารโลก" ตระหนักรู้ความมั่นคงทางอาหารเพื่อโลกที่ยั่งยืน

16 ตุลาคม "วันอาหารโลก" ตระหนักรู้ความมั่นคงทางอาหารเพื่อโลกที่ยั่งยืน

16 ต.ค. 68
11:14 น.
แชร์

16 ตุลาคม "วันอาหารโลก" (World Food Day) วันเตือนใจว่าภาวะขาดแคลนอาหารและภาวะทุพโภชนาการ ยังคงมีอยู่ตลอดเวลา

16 ตุลาคมของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น วันอาหารโลก (World Food Day) ซึ่งก่อตั้งองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations : FAO) ในการประชุมใหญ่ครั้งที่ 20 ขององค์การเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2522 คณะผู้แทนฮังการี นำโดย ดร. Pál Romány อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและอาหารของฮังการี เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการประชุมครั้งนั้น และได้เสนอแนวคิดในการเฉลิมฉลองวันอาหารโลกทั่วโลก

นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา มากกว่า 150 ประเทศทั่วโลกได้ร่วมและเริ่มตระหนักถึงประเด็นความยากจน ความอดอยาก และสร้างความตระหนักถึงความไม่มั่นคงทางอาหารและภาวะทุพโภชนาการทั่วโลก ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ภาวะเงินเฟ้อของราคาอาหาร ทำให้ยังเห็นภาวะขาดแคลนอาหารกลายเป็นภาวะที่เปราะบางมากขึ้น การบรรลุเป้าหมายด้านความมั่นคงทางอาหารจึงต้องอาศัยการดำเนินการร่วมกันในระดับโลก จึงกำหนดให้วันที่ 16 ตุลาคม เป็นวันเตือนใจทุกปีว่าภาวะขาดแคลนอาหารและภาวะทุพโภชนาการยังคงมีอยู่ตลอดเวลา

วันอาหารโลกสำคัญอย่างไร?

องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้จัดตั้งวันอาหารโลกขึ้นในปี พ.ศ. 2522 โดยมีเป้าหมายคือการสร้างความตระหนักรู้และระดมกำลัง เพื่อแก้ไขปัญหาความหิวโหยและภาวะทุพโภชนาการของประชากรโลกจำนวนมาก มีการทำกิจกรรมและโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวันอาหารโลก เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาและรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ ตลอดจนส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารระดับโลกสำหรับทุกคน หลักสำคัญอยู่ที่การทำให้ระบบอาหารและการเกษตรมีความยืดหยุ่นต่อความท้าทายต่างๆ ที่ต้องเผชิญ ตั้งแต่สภาพอากาศสุดขั้วไปจนถึงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ระบบเกษตรและอาหารต้องเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เพาะปลูก น้ำ หรือความหลากหลายทางชีวภาพ ด้วยเหตุนี้ FAO จึงต้องการเพิ่มผลผลิตอาหารอย่างยั่งยืน การปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน การลดขยะและการสูญเสียอาหาร และการพัฒนาโภชนาการที่ดี

นับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ ความหิวโหยทั่วโลกได้ลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปอีกครั้ง จาก 8.7% ของประชากรโลกในปี พ.ศ. 2565 เหลือ 8.2% ในปี พ.ศ. 2567 หรือคิดเป็น 1 ใน 12 ของประชากรโลก ตามรายงานประจำปี 2568 ว่าด้วยความมั่นคงทางอาหารขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ

แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้คนอีกประมาณ 700 ล้านคนที่ประสบปัญหาความหิวโหย นอกจากนี้ มากกว่า 1 ใน 4 หรือเกือบ 2.3 พันล้านคน ประสบปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหารระดับปานกลางถึงรุนแรงในปีที่แล้ว และมีเพียง 34% ของทารกอายุระหว่าง 6 ถึง 23 เดือนเท่านั้นที่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำด้านวิตามินและแร่ธาตุ

ระบบอาหารยังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสภาพภูมิอากาศ โดยคิดเป็นประมาณ 30% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดทั่วโลก ทำให้กลายเป็นผู้มีส่วนให้เกิดการละเมิดขอบเขตทั้ง 5 ของโลกมากที่สุด ซึ่งได้แก่ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ , การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ , วัฏจักรไนโตรเจนและฟอสฟอรัส , การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน และการใช้น้ำจืด โดยการละเมิดเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและเสถียรภาพของโลก ตามข้อมูลล่าสุดของคณะกรรมาธิการ EAT-Lancet

5 ปีหลังการระบาดใหญ่ ราคาอาหารทั่วโลกยังคงสูงกว่าก่อนเกิดโควิด-19 ถึงสามเท่า การผลิตอาหารและเกษตรกรรมต่างได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จากสถานการณ์เช่นนี้อาจเพิ่มภาวะทุพโภชนาการในชุมชนที่เปราะบางเพิ่มอีก 20% บวกกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงดำเนินอยู่อาจทำให้ภาวะตกต่ำนี้รุนแรงยิ่งขึ้น เศรษฐกิจที่มีรายได้ต่ำกำลังแบกรับภาระที่ไม่สมส่วน แม้ว่าจะมีความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ และอเมริกาใต้ แต่ปัญหาความหิวโหยกลับเพิ่มสูงขึ้นในส่วนอื่นๆ ของโลก ภาวะทุพโภชนาการเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ในแอฟริกาในปี พ.ศ. 2567 และเพิ่มขึ้น 12.7% ในเอเชียตะวันตก

การบรรลุความมั่นคงทางอาหาร จึงเป็นเป้าหมายหลักของ FAO ในการทำให้ประชาชนมีอาหารที่ปลอดภัย และมีคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอต่อการเจริญเติบโตตามปกติและดำรงชีวิตอย่างมีสุขภาพดี เพราะอาหารเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ตามมาตรา 25 ของปฏิญญาสากลสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า

"ทุกคนมีสิทธิในมาตรฐานการครองชีพที่เหมาะสมต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของตนเองและครอบครัว รวมทั้งอาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัยและการดูแลทางการแพทย์ และบริการสังคมที่จำเป็น และมีสิทธิในความมั่นคงในกรณีที่ว่างงาน เจ็บป่วย ทุพพลภาพ หม้าย ชราภาพ หรือขาดแหล่งยังชีพอื่นๆ ในสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของตน"

ที่มา : Food and Agriculture Organization of the United Nations , World Food Day

Advertisement

แชร์
16 ตุลาคม "วันอาหารโลก" ตระหนักรู้ความมั่นคงทางอาหารเพื่อโลกที่ยั่งยืน