แค่ "กินจุบจิบ" ไม่ใช่เรื่องเล็ก! เตือนภาวะแทรกซ้อนที่ตามมาของโรคกินไม่หยุด หรือ Binge Eating Disorder : BED
เคยเป็นไหม? อยากกินอะไรทุกอย่างอยู่ตลอดเวลา แม้จะกินบางอย่างไปแล้วแต่ก็ยังอยากกินหรือสามารถกินได้อีกเรื่อยๆ ไม่รู้จักจบสิ้น ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เสี่ยงเป็นโรคกินจุบจิบ หรือโรคกินไม่หยุด (Binge Eating Disorder) ได้
โรคกินจุบจิบ หรือ โรคกินไม่หยุด (Binge Eating Disorder : BED) เป็นโรคที่เกิดจากการกินอาหารในปริมาณที่มากผิดปกติ ไม่สามารถคุมตัวเองได้ แม้ไม่รู้สึกหิวก็ยังกิน เป็นความผิดปกติทางพฤติกรรมที่มีลักษณะเด่นคือการกินมากเกินไปอย่างเรื้อรังและย้ำคิดย้ำทำ หลายคนอาจแสดงอาการหรือสัญญาณของการรับประทานอาหารแบบกินจุบจิบเป็นครั้งคราว แต่เมื่ออาการเหล่านี้เริ่มเกิดขึ้นเป็นประจำ (สัปดาห์ละครั้งหรือมากกว่านั้น) อาจมีความผิดปกติทางพฤติกรรมและปัจจัยแวดล้อมอื่น เช่น ความเครียดและความสัมพันธ์ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมและสุขภาพจิต ปัจจัยเหล่านี้อาจรวมกับสาเหตุอื่นๆ ที่ผลักดันให้เปลี่ยนจากพฤติกรรมการกินแบบกินจุบจิบเป็นครั้งคราว ไปสู่ภาวะ BED ได้
ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นโรคกินจุบจิบ เป็นโรคการกินไม่อิ่ม กินไปเรื่อย ๆ กินได้ตลอดเวลา ถือเป็นโรคการกินผิดปกติที่พบได้บ่อยที่สุด อาการและสัญญาณของโรคอาจรวมถึง
โรคกินจุบจิบต่างจากโรคบูลิเมียเนอร์โวซาหรือโรคล้วงคอ โดยโรคกินจุบจิบไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขับแคลอรีออก เช่น การอาเจียนอย่างรุนแรง การใช้ยาระบายในทางที่ผิด หรือการออกกำลังกายมากเกินไปหลังรับประทานอาหาร แต่อาการกินจุบจิบจะจบลงด้วยการกิน ในทางกลับกันผู้ป่วยโรคกินจุบจิบบางรายมักควบคุมอาหารแบบเรื้อรัง พยายามจำกัดปริมาณแคลอรีก่อนที่จะเริ่มกินจุบจิบ หรืออาจพยายามควบคุมอาหารหลังจากกินจุบจิบเพื่อชดเชย
ปัจจัยหลายอย่างมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการกิน รวมถึงจิตวิทยา ชีววิทยา และนิสัยที่สั่งสมมา สิ่งที่กระตุ้นให้เกิดการกินจุบจิบอาจแตกต่างจากสิ่งที่กระตุ้นให้คนอื่นกิน การกินสามารถหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขในสมอง ได้แก่ เซโรโทนินและโดพามีน ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดแนวโน้มการเสพติดการกิน อีกทั้งยังอาจเป็นวิธีหลีกหนีหรือระงับความรู้สึกไม่สบาย หรือชดเชยความต้องการที่ไม่ได้รับการตอบสนอง
โรคทางจิตเวชทุกชนิดอาจทวีความรุนแรงขึ้นและก่อให้เกิดความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมที่ทำลายสุขภาพมากขึ้นเรื่อยๆ โรคการกินจุบจิบอาจนำมาซึ่งภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพที่มาพร้อมกับภาวะอ้วนได้ แม้ว่าผู้ป่วย BED จะไม่ได้เป็นโรคอ้วนทุกคน แต่การรวมกันของโรคทั้งสองนี้อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ การกินจุบจิบและน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลซึ่งกันและกัน ให้เกิดความทุกข์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
รวมถึงภาวะแทรกซ้อนจากโรคทางจิตที่ไม่ได้รับการรักษาอาจรวมถึงพฤติกรรมต่อต้านสังคมที่เพิ่มมากขึ้น เช่น
การใส่ใจกับแรงกระตุ้นที่กระตุ้นพฤติกรรมการกินของคุณมากขึ้น อาจเป็นประโยชน์ต่อโรคนี้ การใส่ใจกับแรงกระตุ้นเหล่านี้จะช่วยให้คุณเรียนรู้ที่จะแยกแยะความหิวที่แท้จริงออกจากความอยากกินจุบจิบได้ รวมถึงฝึกการกินอย่างมีสติเมื่อกำลังคิดจะกินหรือกำลังเตรียมจะกิน ให้ช้าลง หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ เรียนรู้ที่จะรู้จักความหิวและอาการหิวทางร่างกาย รวมถึงการกินเมื่อหิว เรื่องนี้สำคัญพอๆ กับการเรียนรู้ที่จะหยุดกินเมื่อไม่ได้หิว อย่ารอจนหิวจัด ไม่เช่นนั้นคุณจะควบคุมตัวเองไม่ได้และกินจุบจิบมากขึ้น
Advertisement