Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
รู้จัก "Family Therapy" ศาสตร์บำบัดบาดแผลในครอบครัว อย่าอดทนจนแตกสลาย

รู้จัก "Family Therapy" ศาสตร์บำบัดบาดแผลในครอบครัว อย่าอดทนจนแตกสลาย

11 ต.ค. 68
11:00 น.
แชร์

Family Therapy บำบัดครอบครัว เรื่องปกติในโลกตะวันตก แต่อาจยังไม่คุ้นในสังคมที่สอนให้อดทน=กตัญญู?

ในสังคมตะวันตก การไปพบ นักบำบัดครอบครัว (Family Therapist) เพื่อพูดคุย ปรับความเข้าใจ หรือเยียวยาบาดแผลทางใจระหว่างสมาชิกในบ้าน เป็นเรื่องปกติพอ ๆ กับการไปหาหมอฟัน

แต่ในสังคมไทย ถ้าใครบอกว่าจะ “ไปบำบัดครอบครัว” อาจถูกขมวดคิ้ว หรือเกิดคำถาม ไปทำไม แค่ปัญหาลิ้นกับฟัน

ความต่างนี้สะท้อนรอยต่อบางอย่างระหว่าง “วิธีคิดเรื่องสุขภาพจิต” ของโลกสมัยใหม่ กับ “กรอบวัฒนธรรมครอบครัวไทย” ที่ยังคงมีรากจากความเชื่อเรื่องหน้าที่ บทบาท และความอดทน

Family Therapy คืออะไร

Family Therapy หรือ “การบำบัดครอบครัว” คือแนวทางการเยียวยาทางจิตใจที่มองว่า ครอบครัวไม่ใช่เพียงกลุ่มคนที่อยู่ร่วมบ้าน แต่เป็น “ระบบความสัมพันธ์” ที่ทุกคนเชื่อมโยงกันเหมือนเส้นใยประสาทในสมอง ถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งเจ็บปวด ส่วนอื่นก็จะได้รับผลสะเทือน

ต่างจากจิตบำบัดทั่วไปที่เน้นรักษาปัญหาของคนใดคนหนึ่ง Family Therapy จะพาทุกคนในบ้านมานั่งร่วมวงกัน เพื่อเข้าใจว่าปัญหานั้นเกิดขึ้นได้อย่างไรในบริบทของความสัมพันธ์ เช่น ลูกที่ต่อต้านอาจสะท้อนความรู้สึกไร้อำนาจในบ้าน หรือพ่อแม่ที่ทะเลาะกันบ่อยอาจเกิดจากการไม่เข้าใจกันในระดับอารมณ์ที่ลึกกว่าคำพูด

นักบำบัดจึงไม่ใช่ “ผู้พิพากษา” ว่าใครผิด แต่เป็น “ผู้นำทาง” ที่ช่วยให้ครอบครัวกลับมามองเห็นกัน ฟังกัน และค่อย ๆ เยียวยากันด้วยความเข้าใจ

ทำไมสังคมตะวันตกถึงเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ

ในประเทศอย่างสหรัฐฯ แคนาดา หรือยุโรป การบำบัดครอบครัวเป็นบริการสุขภาพจิตกระแสหลักมานานกว่า 50 ปี มีการเรียนเฉพาะทางในระดับปริญญาโท–เอก ภายใต้สาขา Marriage and Family Therapy (MFT)

การไปบำบัดไม่ได้แปลว่าครอบครัว “พัง” แต่คือการดูแลสุขภาพจิตของระบบครอบครัวให้สมดุล เช่นเดียวกับที่คนออกกำลังกายเพื่อป้องกันโรคหัวใจ การเข้าบำบัดก็เพื่อ “ป้องกัน” การสะสมของความไม่เข้าใจ ซึ่งหากปล่อยไว้นานอาจกลายเป็นความร้าวลึก

ในสังคมเหล่านี้ พ่อแม่คู่หนึ่งอาจพาลูกวัยรุ่นไปคุยกับนักบำบัดเพื่อหาวิธีพูดกันโดยไม่ทะเลาะ คู่รักอาจเข้ารับการบำบัดก่อนแต่งงานเพื่อเตรียมใจสำหรับการอยู่ร่วม หรือแม้แต่ครอบครัวที่มีสมาชิกป่วยทางจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า ก็จะมีการทำบำบัดร่วมทั้งบ้าน เพื่อเรียนรู้วิธีสนับสนุนกันโดยไม่กดดัน

ทำไมสังคมไทยยังไม่คุ้นชิน

ในวัฒนธรรมไทย “ความทุกข์ในครอบครัว” มักถูกมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นสิ่งที่ต้องอดทนหรือเก็บไว้ในบ้าน การพูดถึงปัญหาพ่อแม่หรือลูกกับคนแปลกหน้าอาจถูกมองว่า “ไม่ให้เกียรติ” หรือ “ไม่รู้จักกตัญญู”

อีกด้านหนึ่ง ครอบครัวไทยจำนวนมากยังมีโครงสร้างแนวดิ่ง พ่อแม่คือผู้ตัดสิน ลูกคือผู้ฟัง ทำให้การบำบัดซึ่งต้องอาศัยการสื่อสารอย่างเท่าเทียมดู “ขัดวัฒนธรรม” อยู่ลึก ๆ แม้จะไม่ได้ตั้งใจขัดขืนก็ตาม

นอกจากนี้ สังคมไทยยังขาดระบบสนับสนุนทางจิตวิทยาอย่างเป็นรูปธรรม นักบำบัดครอบครัวที่ได้รับการอบรมตามมาตรฐานยังมีไม่มาก และการเข้ารับบริการมักอยู่ในเขตเมืองใหญ่หรือในคลินิกเอกชน ทำให้ครอบครัวส่วนใหญ่ไม่รู้แม้กระทั่งว่ามีบริการนี้อยู่จริง

“การไม่พูดถึง” ก็เป็นการส่งต่อบาดแผล

หนึ่งในสิ่งที่นักบำบัดครอบครัวพบเสมอคือ “ความเงียบ” บ้านที่เงียบเพราะไม่กล้าพูดถึงปัญหา กลายเป็นบ้านที่เต็มไปด้วยความเข้าใจผิดสะสม คนรุ่นหนึ่งส่งต่อความเงียบและบาดแผลทางใจให้คนรุ่นต่อมาโดยไม่รู้ตัว

การบำบัดครอบครัวจึงไม่ได้หมายถึงการเปิดแผลเพื่อโทษกัน แต่เพื่อ “ทำให้แผลนั้นได้รับการรักษา” เพื่อให้มันหายจริง ไม่ใช่เพียงการปิดทับด้วยคำว่า “ไม่เป็นไร”

บำบัดครอบครัว มีที่ไหนบ้าง

• โรงพยาบาลและคลินิกเอกชน

• สถานพยาบาลของรัฐ เช่น โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อ สายด่วนสุขภาพจิต 1323 เพื่อขอคำแนะนำและข้อมูลสถานบำบัดที่ใกล้เคียงได้

โดยทั่วไปการบำบัดแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 1 – 1.5 ชม. ส่วนต้องใช้การบำบัดจำนวนกี่ครั้ง หรือ ใช้ระยะเวลายาวนานเท่าไรนั้นขึ้นกับความซับซ้อนของปัญหาของแต่ละครอบครัว แต่โดยส่วนใหญ่มักจะมากกว่า 1 ครั้ง

บำบัดครอบครัวไม่ใช่เรื่องของคนอ่อนแอ แต่คือความกล้าที่จะรักษาความสัมพันธ์ ในสังคมไทย เรามักชื่นชมคนที่ “อดทน” แต่ในทางจิตวิทยา ความกล้าที่จะยอมรับว่าครอบครัวเรามีสิ่งที่ต้องเยียวยา คือสัญญาณของความเข้มแข็งที่สุดรูปแบบหนึ่ง เพราะมันต้องอาศัยทั้งความซื่อสัตย์ ความเปิดใจ และความรัก Family Therapy จึงไม่ใช่เรื่องของ “คนมีปัญหา” แต่มันคือการเรียนรู้ศิลปะแห่งการอยู่ร่วมกันในโลกที่ซับซ้อนขึ้นทุกวัน

Advertisement

แชร์
รู้จัก "Family Therapy" ศาสตร์บำบัดบาดแผลในครอบครัว อย่าอดทนจนแตกสลาย