ไม่ใช่ "ขี้เกียจ" แต่อาจเป็น "โรคสมาธิสั้นในวัยผู้ใหญ่" อาการสำคัญ งานไม่ทำ ชอบผัดวันประกันพรุ่ง ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ มีปัญหากับคนรอบข้างบ่อยๆ รักษายังไงได้บ้าง
ในอดีต โรคสมาธิสั้น หรือที่รู้จักกันว่า ADHD (Attention-Deficit/Hyperactivity Disorder) มักถูกมองว่าเป็นปัญหาของเด็กเท่านั้น เด็กที่อยู่ไม่นิ่ง วอกแวกง่าย หรือไม่สามารถจดจ่อกับการเรียนได้ มักถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงของโรคนี้
แต่เมื่อเวลาผ่านไป วงการแพทย์และจิตเวชศาสตร์ได้ค้นพบว่า ADHD ไม่ได้หายไปเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยยังคงมีอาการต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อชีวิตการทำงาน ความสัมพันธ์ และคุณภาพชีวิตโดยรวม
มีการประมาณการว่า ประมาณ 2.5–4.4% ของผู้ใหญ่ทั่วโลก อาจมีภาวะสมาธิสั้น แต่หลายคนไม่รู้ตัว บางคนถูกมองว่า “ขี้ลืม วอกแวก จัดการงานไม่เป็น” โดยไม่เคยได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง
โรคสมาธิสั้น หรือ ADHD เป็นภาวะที่เกิดจากสมองส่วนหน้า ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมสมาธิและพฤติกรรมมีการทำงาน ซึ่งมีจุดเด่นคือ ความบกพร่องในการควบคุมสมาธิ การยับยั้งพฤติกรรม และการควบคุมแรงกระตุ้น โดยอาการหลักแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่
1. กลุ่มสมาธิสั้น/ขาดสมาธิ (Inattentive type) – ลืมง่าย จัดการงานไม่เป็น วอกแวกบ่อย
2. กลุ่มสมาธิสั้น/ซน-หุนหันพลันแล่น (Hyperactive-Impulsive type) – อยู่ไม่นิ่ง พูดมาก ตัดสินใจเร็วโดยไม่คิด
3. กลุ่มผสม (Combined type) – มีทั้งอาการสมาธิสั้นและหุนหันพลันแล่น
อาการ ADHD ในเด็กมักเห็นชัด เช่น ลุกจากที่เรียนบ่อย ไม่ฟังครู ทำการบ้านไม่เสร็จ ส่วนในผู้ใหญ่ อาการมักเปลี่ยนรูปแบบและแสดงออกในมิติที่ซับซ้อนกว่า เช่น
• ความยากลำบากในการจัดการเวลา
• ลืมนัดหมายหรือสิ่งสำคัญ
• รู้สึกสมอง “ไม่เคยหยุดนิ่ง” แม้ร่างกายจะไม่ซุกซน
• มีความสัมพันธ์ที่เปราะบางเนื่องจากความหุนหันพลันแล่น
• ประสบปัญหาในการทำงาน เช่น ทำงานไม่เสร็จตามกำหนด ชอบผัดวันประกันพรุ่ง ไม่ยอมเริ่มทำงาน
ผู้ใหญ่บางคนเรียนจบ ทำงานเก่ง แต่มีอาการ ADHD ที่ซ่อนอยู่ ส่งผลให้ชีวิตประจำวันเต็มไปด้วยความเครียดโดยไม่รู้สาเหตุ
งานวิจัยพบว่า ADHD มีสาเหตุหลายด้าน ทั้งพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม
1. พันธุกรรม – หากพ่อแม่มีประวัติสมาธิสั้น ลูกมีโอกาสเป็นสูงกว่าคนทั่วไป 4–5 เท่า (NIMH, 2022)
2. สมองและสารสื่อประสาท – มีความผิดปกติของสมดุลสารโดพามีนและนอร์อิพิเนฟริน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบคุมสมาธิและแรงจูงใจ
3. สิ่งแวดล้อม – การคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักแรกเกิดต่ำ การสัมผัสสารพิษ เช่น ตะกั่ว หรือการได้รับสารนิโคติน/แอลกอฮอล์ระหว่างตั้งครรภ์
4. ปัจจัยทางจิตสังคม – ความเครียดในวัยเด็ก การเลี้ยงดู และประสบการณ์ในโรงเรียน
• ลืมสิ่งที่เพิ่งบอกไว้หรือนัดหมายสำคัญ
• รู้สึกยากในการจัดระบบชีวิต เช่น งานเอกสาร การเงิน
• ผัดวันประกันพรุ่ง เลื่อนงานออกไปจนวินาทีสุดท้าย
• สมองคิดหลายเรื่องพร้อมกัน รู้สึก “ฟุ้ง”
• อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย มีปัญหากับคนรอบข้าง
• ตัดสินใจหุนหันพลันแล่น เช่น การใช้เงินโดยไม่วางแผน
หากไม่ได้รับการรักษา ADHD ในผู้ใหญ่อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรง เช่น
• การทำงาน: ผลงานไม่เสร็จตามกำหนด มีความขัดแย้งกับหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงาน
• การเงิน: ใช้เงินไม่เป็นระบบ หนี้สินสะสม
• ความสัมพันธ์: คู่รักอาจรู้สึกว่า “ไม่ใส่ใจ” หรือ “ไม่รับผิดชอบ”
• สุขภาพจิต: ผู้ใหญ่ที่มี ADHD มีความเสี่ยงสูงต่อภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และการใช้สารเสพติด
การวินิจฉัยต้องทำโดยจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ ใช้หลักเกณฑ์ DSM-5 และการสัมภาษณ์เชิงลึก รวมทั้งอาจใช้แบบสอบถาม เช่น Adult ADHD Self-Report Scale (ASRS)
สิ่งสำคัญคือ ต้องพิสูจน์ว่าอาการเกิดขึ้นตั้งแต่วัยเด็ก และส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงในปัจจุบัน
การรักษา ADHD ในผู้ใหญ่เป็นการผสมผสานหลายวิธี
1. การใช้ยา – ยากลุ่มกระตุ้น (stimulants) เช่น methylphenidate และ amphetamines ช่วยเพิ่มระดับโดพามีนและนอร์อิพิเนฟริน ทำให้โฟกัสได้ดีขึ้น
2. ยาที่ไม่ใช่กระตุ้น (non-stimulants) เช่น atomoxetine ใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อยากระตุ้นหรือมีผลข้างเคียง
การบำบัดพฤติกรรมและการปรับตัว
• Cognitive Behavioral Therapy (CBT): ช่วยจัดการความคิดเชิงลบ ปรับพฤติกรรม
• การฝึกทักษะการจัดการเวลา: การใช้สมุดบันทึก แอปพลิเคชัน หรือการตั้งเตือน
• การจัดการสิ่งแวดล้อม: ลดสิ่งรบกวนขณะทำงาน
การดูแลตนเองและการสนับสนุนจากครอบครัว
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพิ่มสมาธิและลดความเครียด
• จัดตารางนอนและอาหารให้เป็นเวลา
• หลีกเลี่ยงคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ในปริมาณสูง
• ครอบครัวควรเข้าใจและช่วยสนับสนุน เช่น ช่วยเตือนนัดหมายสำคัญ
โรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่ไม่ใช่ “ความขี้เกียจ” หรือ “ความไม่มีวินัย” แต่เป็นภาวะทางสมองที่แท้จริง การเข้าใจสาเหตุ อาการ และวิธีรักษาเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
- American Psychiatric Association. Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders, Fifth Edition (DSM-5). (2013)
- National Institute of Mental Health (NIMH). Attention-Deficit/Hyperactivity Disorder in Adults. (2022)
- Mayo Clinic. Adult attention-deficit/hyperactivity disorder (ADHD). (2023)
- World Health Organization (WHO). ADHD fact sheet. (2023)
- Harvard Medical School. Adult ADHD: Symptoms, Diagnosis, Treatment. (2021)
Advertisement