Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ส่องวิศวกรรมการออกแบบเสียง EV ที่ให้ทั้งความปลอดภัยและความเร้าใจ

ส่องวิศวกรรมการออกแบบเสียง EV ที่ให้ทั้งความปลอดภัยและความเร้าใจ

15 พ.ย. 68
16:00 น.
แชร์

ในโลกของยานยนต์ที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคไฟฟ้า (EV) เรามักจะเฉลิมฉลองให้กับความเงียบสงบที่มาพร้อมกับการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ความเงียบนั้นกลับกลายเป็นความท้าทายครั้งใหม่สำหรับวิศวกรและนักออกแบบรถยนต์ เพราะมันได้พราก "เสียง" และ "ความรู้สึก" ที่ฝังรากลึกใน DNA ของการขับขี่ไป

ดังนั้น การออกแบบ เสียงเครื่องยนต์เทียม (Active Sound Control - ASC) และ ระบบจำลองเกียร์ จึงได้กลายเป็นศาสตร์และศิลป์แขนงใหม่ที่สำคัญยิ่งกว่าแค่ฟังก์ชัน แต่คือการสร้างสรรค์อารมณ์และบุคลิกเฉพาะตัวให้กับรถยนต์ไฟฟ้า

วิกฤตแห่งความเงียบ ทำไมต้องมีเสียงในรถ EV?

ในมุมมองของผู้ขับขี่รถยนต์สันดาป (ICE) เสียงเครื่องยนต์ไม่ได้เป็นเพียงแค่เสียงรบกวน แต่คือ "การตอบสนองเชิงฟิสิกส์" ที่ผู้ขับใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการควบคุมรถยนต์ เช่น

  • ข้อมูลความเร็วและกำลัง เสียงเครื่องยนต์ที่คำรามขึ้นเมื่อเร่งความเร็ว บอกให้ผู้ขับรู้ว่ารถกำลังใช้กำลังในระดับใด
  • จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ เสียงและแรงกระชากที่สัมพันธ์กับการเปลี่ยนเกียร์ เป็นตัวกำหนดจังหวะการควบคุมที่แม่นยำ
  • ความตื่นเต้นทางอารมณ์ สำหรับรถสมรรถนะสูง เสียงเครื่องยนต์คือส่วนสำคัญที่สร้างความเร้าใจและความรู้สึก "เป็นหนึ่งเดียวกับรถ"

เมื่อรถ EV เข้ามาแทนที่ด้วยความเงียบสนิท ข้อมูลเชิงฟิสิกส์เหล่านี้ก็หายไป ทำให้ผู้ขับรู้สึกขาดการเชื่อมต่อ (Disconnection) กับยานพาหนะ โดยเฉพาะในจังหวะที่ต้องการสมรรถนะสูงหรือการควบคุมที่แม่นยำ

นอกจากนี้ ในเชิงความปลอดภัย กฎหมาย ในหลายประเทศ (เช่น สหรัฐฯ และยุโรป) ยังกำหนดให้รถยนต์ไฟฟ้าต้องมี ระบบเตือนคนเดินเท้า (Acoustic Vehicle Alerting System - AVAS) ซึ่งเป็นเสียงสังเคราะห์ความถี่ต่ำที่ดังเมื่อรถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำ (มักต่ำกว่า 20 กม./ชม.) เพื่อเตือนผู้พิการทางสายตาหรือคนเดินถนนที่อาจไม่ได้ยินเสียงรถที่กำลังเข้ามาใกล้

ศาสตร์แห่ง Active Sound Control (ASC) การสร้างบุคลิกผ่านคลื่นเสียง

Active Sound Control (ASC) หรือเสียงเครื่องยนต์เทียม คือเทคโนโลยีที่ใช้ลำโพงภายในและภายนอกรถเพื่อสังเคราะห์เสียงที่ตอบสนองต่อการกระทำของผู้ขับขี่ (เช่น การเหยียบคันเร่ง) แทนที่เสียงเครื่องยนต์จริง

การออกแบบเสียง ASC เป็นงานที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อน โดยแบ่งออกเป็นสองแนวทางหลัก

การออกแบบเสียงเชิงอัตลักษณ์

ค่ายรถยนต์ชั้นนำใช้เสียง ASC เป็นเครื่องมือในการสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์และรุ่นรถ โดยเสียงที่สังเคราะห์ขึ้นมาจะต้องมี "บุคลิก" ที่ชัดเจน

  • เสียงแบบ Sci-Fi/อนาคต บางแบรนด์เลือกเสียงที่มีลักษณะเป็นคลื่นความถี่สูง หรือเสียงสังเคราะห์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนขับยานอวกาศ เน้นย้ำถึงความเป็นยานยนต์แห่งอนาคต
  • เสียงแบบ Heritage/สมรรถนะสูง บางแบรนด์พยายามจำลองหรือสร้างแรงบันดาลใจจากเสียงเครื่องยนต์ในตำนานของตนเอง เพื่อรักษาความเร้าใจแบบสปอร์ตไว้ แม้จะไม่ได้มาจากเครื่องสันดาปจริง
  • การปรับเสียงตามโหมดขับขี่ ผู้ขับสามารถเลือกโหมดขับขี่ (Normal, Sport, Track) เพื่อเปลี่ยนระดับความดังและโทนเสียงของ ASC ได้ เพื่อให้สอดคล้องกับอารมณ์ที่ต้องการ

การออกแบบเสียงเชิงข้อมูล

หัวใจสำคัญของ ASC คือการให้ข้อมูลแก่ผู้ขับ

  • การตอบสนองต่อคันเร่ง เสียงที่สังเคราะห์ขึ้นจะมีความดังและระดับความถี่ที่แปรผันอย่างละเอียดอ่อนตามแรงกดคันเร่ง ทำให้ผู้ขับรู้สึก "เชื่อมต่อ" กับการตอบสนองของมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งปกติจะให้แรงบิดทันทีแต่ขาดการรับรู้ด้วยเสียง
  • เสียงที่ "ช่วยให้รู้" แทนที่จะใช้เสียงที่ดังจนรบกวน เสียง ASC ที่ดีจะทำงานร่วมกับความเงียบของ EV โดยจะดังขึ้นเฉพาะเมื่อจำเป็นต้องให้ข้อมูลแก่ผู้ขับเท่านั้น

ศิลปะการหลอกลวงที่ชาญฉลาด ระบบจำลองเกียร์

นี่คือจุดที่ความแปลกใหม่และความท้าทายทางวิศวกรรมมาบรรจบกัน โดยเฉพาะในรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงบางรุ่น เช่น Honda Super-ONE Prototype ที่ได้นำเสนอ ระบบจำลองเกียร์ 7 สปีด

โดยธรรมชาติ รถยนต์ไฟฟ้าไม่จำเป็นต้องมีเกียร์หลายอัตราส่วน (ส่วนใหญ่มีเพียงเกียร์เดียว) เพราะมอเตอร์ไฟฟ้ามีแรงบิดสูงตั้งแต่รอบต่ำ แต่การไม่มีจังหวะเกียร์ทำให้ผู้ขับรู้สึกขาด "การควบคุมแบบดั้งเดิม":

การสร้าง "แรงกระชาก" และ "จังหวะ"

ระบบจำลองเกียร์ 7 สปีดของ Honda หรือระบบที่คล้ายกันในแบรนด์อื่น ๆ ไม่ได้เปลี่ยนอัตราทดเกียร์จริง แต่เป็นการ จำลองพฤติกรรม ของรถยนต์สันดาปที่มีเกียร์หลายจังหวะ

  • การจำลองการคิกดาวน์ เมื่อผู้ขับกดคันเร่งอย่างรวดเร็ว ระบบจะจำลอง "แรงกระชาก" (Kickdown feeling) ที่มาจากการเปลี่ยนเกียร์ลง เพื่อให้ผู้ขับรู้สึกถึงการตอบสนองที่คุ้นเคย
  • Active Sound Synchronization เสียง ASC ที่สังเคราะห์ขึ้นจะถูกกำหนดให้สอดคล้องกับ "ตำแหน่งเกียร์จำลอง" และ "รอบเครื่องยนต์จำลอง" ที่ระบบคำนวณแบบเรียลไทม์
  • การควบคุมผ่าน Paddle Shift ผู้ขับสามารถใช้แป้น Paddle Shift บนพวงมาลัยเพื่อ "เปลี่ยนเกียร์" (แม้จะเป็นการจำลอง) ซึ่งเป็นการควบคุมแรงหน่วงหรือการเร่งความเร็วแบบเฉพาะเจาะจง ทำให้เกิดความรู้สึกของการขับขี่ที่สปอร์ตและแม่นยำ

ความสมบูรณ์แบบของการหลอกลวง

ระบบจำลองเกียร์ขั้นสูงจะพิจารณาข้อมูลที่ซับซ้อน ได้แก่

  • การควบคุมของผู้ขับ แรงกดคันเร่ง, การเบรก
  • สภาพการขับขี่ ความเร็วรถ, การเข้าโค้ง
  • พฤติกรรมรถยนต์สันดาป จำลองพฤติกรรมการตัดการจ่ายเชื้อเพลิงชั่วคราว (Fuel Cut) เพื่อปกป้องเครื่องยนต์และควบคุมรอบเครื่อง

ทั้งหมดนี้มีจุดมุ่งหมายเดียวคือการ ถ่ายทอดอารมณ์และเอกลักษณ์การขับขี่ ที่ Honda (หรือค่ายรถอื่น ๆ) มุ่งมั่นพัฒนามาตลอดหลายปีในยุคสันดาป ให้สามารถเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยไม่ทิ้ง "ความสนุกในการขับขี่" ไว้เบื้องหลัง

EV ที่ยังคงหัวใจของ Fun-to-Drive

ในที่สุด ความแปลกของการมี "เสียง" และ "เกียร์" ในรถยนต์ไฟฟ้าก็ไม่ใช่เรื่องตลกหรือความฟุ่มเฟือย แต่เป็น ความจำเป็นทางวิศวกรรมและจิตวิทยา ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเชื่อมช่องว่างระหว่างอดีตกับอนาคต

รถ EV ยุคใหม่ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องจักรที่เงียบและมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นผลงานศิลปะที่ผสมผสานความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีเข้ากับความต้องการทางอารมณ์ของมนุษย์ เสียงและจังหวะเกียร์จำลองคือบทพิสูจน์ว่า "ความสนุกในการขับขี่" จะยังคงอยู่ต่อไปในยุคไฟฟ้า เพียงแต่รูปแบบของการรับรู้จะถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ผ่านระบบดิจิทัลอย่างชาญฉลาด

แชร์
ส่องวิศวกรรมการออกแบบเสียง EV ที่ให้ทั้งความปลอดภัยและความเร้าใจ