น้ำมันเครื่องและน้ำยาหล่อเย็น ฤดูหนาวต้องเลือกและดูแลอย่างไร?
ฤดูหนาวและอากาศเย็นจัด ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่เพียงภายนอกรถยนต์เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อกลไกภายในของเครื่องยนต์อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับของเหลวสำคัญสองชนิด ได้แก่ น้ำมันเครื่อง ซึ่งทำหน้าที่หล่อลื่นและลดการสึกหรอ และ น้ำยาหล่อเย็น (Coolant) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิ หากเลือกใช้หรือดูแลของเหลวเหล่านี้ผิดพลาดในสภาพอากาศที่อุณหภูมิต่ำ อาจนำไปสู่การสตาร์ทติดยาก การสึกหรอที่รุนแรง และความเสียหายต่อเครื่องยนต์ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดังนั้น การทำความเข้าใจว่าความเย็นส่งผลต่อของเหลวทั้งสองนี้อย่างไร และควรเลือกใช้เกรดไหนจึงจะเหมาะสมที่สุด จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เครื่องยนต์ของคุณทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดช่วงฤดูแห่งการท่องเที่ยวนี้
ไขข้อสงสัยการเลือกใช้ของเหลวสำคัญสู้หนาว
น้ำมันเครื่อง เลือก "W" ให้ต่ำ เพื่อการไหลลื่นตั้งแต่สตาร์ท
น้ำมันเครื่องในฤดูหนาวมีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงจังหวะ "สตาร์ทเครื่องยนต์" (Cold Start) เนื่องจากความเย็นทำให้คุณสมบัติของน้ำมันเครื่องเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
ความสำคัญของค่าความหนืดที่อุณหภูมิต่ำ (ตัวเลขหน้า W)
- ความหนืดคือตัวปัญหา เมื่ออุณหภูมิลดลง ความหนืด (Viscosity) ของน้ำมันเครื่องจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก คล้ายกับน้ำผึ้งที่เย็นตัว ซึ่งน้ำมันเครื่องที่ข้นหนืดจะไหลไปหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนสำคัญต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ เช่น เพลาข้อเหวี่ยง, ลูกเบี้ยว และก้านสูบ ได้ช้าลง
- การสึกหรอรุนแรง การสตาร์ทเครื่องในขณะที่น้ำมันเครื่องยังหนืดและไปไม่ถึงจุดที่ต้องหล่อลื่นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการเสียดสีแบบโลหะกับโลหะ ซึ่งเป็นสาเหตุของการสึกหรอที่รุนแรงที่สุดในรอบการทำงานของเครื่องยนต์
- การเลือกเกรดที่เหมาะสม ให้พิจารณา ตัวเลขด้านหน้าตัวอักษร "W" (Winter) ในเบอร์น้ำมันเครื่อง (เช่น 5W-30) ตัวเลขยิ่งน้อย หมายถึงน้ำมันเครื่องนั้นยังคง ความข้นใสและสามารถไหลตัวได้ที่อุณหภูมิที่ต่ำกว่า0W: สามารถคงความข้นใสไว้ได้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า -30 องศาเซลเซียส5W: สามารถคงความข้นใสไว้ได้ที่อุณหภูมิต่ำถึงประมาณ -30 องศาเซลเซียส
- ข้อแนะนำสำหรับไทย ถึงแม้ในพื้นที่หนาวจัดของไทยอุณหภูมิอาจไม่ถึงจุดเยือกแข็ง แต่การเลือกใช้เกรด 5W (เช่น 5W-30 หรือ 5W-40 ตามที่คู่มือรถแนะนำ) ถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและช่วยให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดง่ายกว่า 10W หรือ 15W อย่างเห็นได้ชัด เพราะน้ำมันจะขึ้นไปหล่อลื่นได้เร็วขึ้น ลดภาระแบตเตอรี่และมอเตอร์สตาร์ท
ค่าความหนืดที่อุณหภูมิสูง (ตัวเลขด้านหลัง)
- ตัวเลขด้านหลัง (เช่น 30 หรือ 40) บ่งบอกถึงความหนืดเมื่อเครื่องยนต์ทำงานเต็มที่ที่อุณหภูมิสูง (100 องศาเซลเซียส) ซึ่งค่านี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฤดูหนาวโดยตรง แต่ควรเลือกตาม คู่มือผู้ผลิตรถยนต์ และสภาพรถยนต์ (รถใหม่/เก่า) เป็นหลัก
น้ำยาหล่อเย็น Antifreeze คือหัวใจสำคัญ
หลายคนเข้าใจผิดว่าน้ำยาหล่อเย็นมีไว้สำหรับระบายความร้อนในฤดูร้อนเท่านั้น แต่ในฤดูหนาว หน้าที่ของมันกลับมีความสำคัญไม่แพ้กัน
- ป้องกันการแข็งตัว (Antifreeze) น้ำยาหล่อเย็นมีสารเคมีที่ช่วย ลดจุดเยือกแข็ง (Freezing Point) ของน้ำในระบบระบายความร้อน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดในฤดูหนาว หากน้ำกลั่นในระบบแข็งตัว จะทำให้เครื่องยนต์เสียหายอย่างรุนแรง แม้ในสภาพอากาศของไทยจะไม่ถึงจุดเยือกแข็ง แต่สาร Antifreeze นี้ก็เป็นตัวช่วยที่สำคัญในการรักษาเสถียรภาพของอุณหภูมิของเหลว
- การควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ว่าอากาศภายนอกจะเย็นแค่ไหน น้ำยาหล่อเย็นจะช่วยรักษา อุณหภูมิการทำงานของเครื่องยนต์ (Operating Temperature) ให้คงที่และอยู่ในช่วงที่เหมาะสมอยู่เสมอ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์และลดการสึกหรอ
- การป้องกันสนิมและการกัดกร่อน น้ำยาหล่อเย็นทุกชนิดมีสารยับยั้งการกัดกร่อน (Corrosion Inhibitors) ซึ่งช่วยปกป้องชิ้นส่วนโลหะภายในระบบหล่อเย็น (เช่น หม้อน้ำ ปั๊มน้ำ) จากการเกิดสนิม ซึ่งความชื้นในช่วงหน้าหนาวอาจเร่งกระบวนการนี้ได้
- การดูแลที่ถูกต้อง ตรวจสอบระดับน้ำยาหล่อเย็นให้อยู่ในขีดที่กำหนดเสมอ และควรเปลี่ยนถ่ายตามระยะเวลาที่ผู้ผลิตกำหนด หากมีการเติมน้ำเปล่าหรือน้ำกลั่นเข้าไปมากเกินไป จะทำให้สัดส่วนของสาร Antifreeze เจือจางลง ประสิทธิภาพในการป้องกันก็จะลดลงตามไปด้วย
ยึดคู่มือ เน้นค่า W ต่ำ และ Coolant ไม่ขาด
การเตรียมของเหลวในรถยนต์สำหรับฤดูหนาวสรุปได้ง่าย ๆ คือ
- น้ำมันเครื่อง เลือกเกรดรวมที่มี ตัวเลขหน้า W ต่ำ (เช่น 5W-30 หรือ 0W-20 ตามที่คู่มือรถแนะนำ) เพื่อให้การหล่อลื่นเกิดขึ้นเร็วที่สุดในช่วงสตาร์ทเครื่องยนต์ ลดการสึกหรอที่เกิดจากความหนืดของน้ำมันเครื่องในอุณหภูมิต่ำ
- น้ำยาหล่อเย็น ตรวจสอบ ระดับและคุณภาพ ของน้ำยาหล่อเย็นให้มั่นใจว่ายังคงมีคุณสมบัติในการป้องกันสนิมและรักษาเสถียรภาพของอุณหภูมิได้อย่างสมบูรณ์
การใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ จะช่วยให้รถของคุณพร้อมเผชิญกับความท้าทายของความเย็นได้อย่างเต็มที่ และทำให้ทุกการเดินทางในฤดูหนาวเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยไร้กังวล
