ท้องถนนในเมืองใหญ่มักเต็มไปด้วยภาพความเร่งรีบของผู้คน และหนึ่งในภาพที่คุ้นตาคือภาพของนักขับขี่จักรยานยนต์ที่คล่องแคล่ว แหวกว่ายไปตามกระแสจราจร แต่ในบางครั้ง ภาพที่คุ้นเคยนี้กลับมาพร้อมกับ "แขกไม่ได้รับเชิญ" ที่สร้างความไม่สบายใจให้กับผู้ร่วมทาง นั่นคือ "ควันบุหรี่" ที่ถูกพ่นออกมาจากนักบิด หรือผู้ขับขี่รถยนต์เองก็ตามที่เปิดกระจกพ่นควัน เขี่ยขี้บุหรี่ลงบนพื้นถนน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการสูบบุหรี่เป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่เมื่อสิทธินั้นส่งผลกระทบต่อผู้อื่นในพื้นที่สาธารณะ เช่น บนท้องถนน ความขัดแย้งทางความรู้สึกจึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ กลิ่นควันบุหรี่นั้นไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่น่ารำคาญ ชวนให้แสบจมูก หรือรู้สึกคลื่นไส้เท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่พวกเขาพยายามหลีกเลี่ยงเพื่อสุขภาพของตนเองอีกด้วย การต้องเผชิญกับควันบุหรี่ที่ลอยมาตามลมจากผู้ขับขี่จักรยานยนต์ หรือรถยนต์ที่อยู่ใกล้เคียง จึงเป็นประสบการณ์ที่ไม่พึงประสงค์และอาจสร้างความหงุดหงิดอย่างมาก
ลองจินตนาการถึงสถานการณ์ที่คุณกำลังขับรถยนต์ หรือขี่จักรยานยนต์ไฟฟ้า สูดอากาศบริสุทธิ์บนท้องถนน แต่แล้วจู่ๆ ก็มีกลุ่มควันสีขาวลอยเข้ามาปะทะใบหน้า สร้างความรู้สึกเหม็นฉุนจนต้องรีบปิดกระจก หรือเบือนหน้าหนี ความรู้สึกไม่สบอารมณ์และความขุ่นเคืองใจย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น หากผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ผลกระทบจากควันบุหรี่อาจรุนแรงกว่าที่คิด
แน่นอนว่าผู้ขับขี่จักรยานยนต์ รถยนต์บางท่านอาจไม่ได้ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ร่วมทาง พวกเขาอาจมองว่าการสูบบุหรี่ขณะขับขี่เป็นเพียงความเคยชิน หรือเป็นวิธีคลายเครียดส่วนตัว แต่ในความเป็นจริงแล้ว การกระทำดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นเท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลเสียต่อความปลอดภัยในการขับขี่ของตัวผู้สูบเองด้วย การที่มือข้างหนึ่งต้องถือบุหรี่และจุดไฟแช็ก อาจทำให้เสียสมาธิในการควบคุมรถ และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
การสูบบุหรี่ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์และรถยนต์ รวมถึงการเขี่ยขี้บุหรี่ลงบนถนน ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและอาจก่อให้เกิดอันตรายและความเดือดร้อนต่อผู้อื่นได้ ซึ่งมีบทลงโทษตามกฎหมายดังนี้
1. การสูบบุหรี่ขณะขับขี่ยานพาหนะ
2. การเขี่ยขี้บุหรี่ลงบนถนน
อำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อพบเห็นผู้กระทำผิดกฎหมายดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจดำเนินการดังนี้
สิ่งที่ต้องระมัดระวัง
ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่น่าคิดและหาทางออกร่วมกัน สังคมควรตระหนักถึงสิทธิของผู้ไม่สูบบุหรี่ที่จะได้รับอากาศที่สะอาดบนพื้นที่สาธารณะ ในขณะเดียวกัน ผู้ขับขี่จักรยานยนต์ รถยนต์ที่สูบบุหรี่ก็ควรพิจารณาถึงผลกระทบจากการกระทำของตนเองต่อผู้อื่น การมีจิตสำนึกและความเห็นอกเห็นใจเพื่อนร่วมทางเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความขัดแย้งและความไม่พอใจบนท้องถนนได้
อาจถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของควันบุหรี่ในที่สาธารณะ หรือการพิจารณาถึงมาตรการที่เหมาะสมเพื่อลดปัญหาดังกล่าว เพื่อให้ท้องถนนเป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างมีความสุขและปราศจากมลภาวะทางกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
ดังนั้น ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และรถยนต์ควรตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ขณะขับขี่และการทิ้งก้นบุหรี่ลงบนถนน เพื่อความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมที่ดีของทุกคน
ท้ายที่สุดแล้ว การอยู่ร่วมกันในสังคมต้องอาศัยความเข้าใจและการเคารพซึ่งกันและกัน การตระหนักถึงผลกระทบของการกระทำของตนเองต่อผู้อื่น คือก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างสังคมที่น่าอยู่และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ซึ่งรวมถึงการแบ่งปันอากาศที่บริสุทธิ์บนท้องถนนให้กับทุกคนด้วยเช่นกัน