รถยนต์ไฮบริดยอดนิยม ราคาคุ้มค่าตัว ตอบโจทย์ทุกสไตล์ ในราคาที่เอื้อมถึง

ท่ามกลางกระแสการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและความต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รถยนต์ไฮบริดได้กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้รถยนต์ไฮบริดมอบอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้น ควบคู่ไปกับสมรรถนะที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น เราจะพาไปดู 5 รถยนต์ไฮบริดราคาไม่แพงที่มียอดขายโดดเด่นและเป็นที่นิยมในตลาดปัจจุบัน พร้อมรายละเอียดสเปคเบื้องต้น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฮบริดคันใหม่

1. Honda City e:HEV / City Hatchback e:HEV

Honda City e:HEV และ City Hatchback e:HEV ถือเป็นสองรุ่นย่อยที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มรถยนต์ไฮบริดขนาดซับคอมแพ็ค ด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวทั้งในแบบซีดานและแฮทช์แบ็ค ผสานเข้ากับเทคโนโลยี e:HEV อันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า ที่เน้นการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้มอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ

สเปค Honda City

• เครื่องยนต์ เบนซิน 1.5 ลิตร Atkinson Cycle i-VTEC + มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว (Integrated Motor Assist - IMA)
• กำลังรวมสูงสุด ประมาณ 109 แรงม้า
• แรงบิดรวมสูงสุด ประมาณ 253 นิวตันเมตร
• ระบบส่งกำลัง e-CVT (Electronic Continuously Variable Transmission)
• อัตราประหยัดน้ำมัน (เฉลี่ย) ประมาณ 27.8 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก Honda)
• เทคโนโลยีเด่น Honda SENSING (ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ), ระบบขับขี่ 3 โหมด (EV Drive, Hybrid Drive, Engine Drive), หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว, Apple CarPlay / Android Auto
• ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ) 729,000 - 839,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย)

จุดเด่น

• ประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ ระบบ e:HEV เน้นการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าในความเร็วต่ำและปานกลาง ทำให้ประหยัดน้ำมันได้อย่างโดดเด่นในการใช้งานในเมือง
• เทคโนโลยี Honda SENSING ระบบความปลอดภัยขั้นสูงที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ เช่น ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
• ดีไซน์สปอร์ตและทันสมัย ทั้งรุ่นซีดานและแฮทช์แบ็ค มาพร้อมดีไซน์ที่ลงตัวและดึงดูด
• ภายในกว้างขวาง แม้จะเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก แต่ภายในห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระถือว่ากว้างขวางเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

2. MG VS HEV

MG VS HEV เป็นรถยนต์ไฮบริดที่เข้ามาสร้างความฮือฮาในตลาด ด้วยราคาที่น่าดึงดูดใจ พร้อมออปชั่นและเทคโนโลยีที่จัดเต็มเกินราคา ทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยมาในรูปแบบ SUV ขนาดคอมแพ็ค ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย

สเปค MG VS HEV

• เครื่องยนต์ เบนซิน 1.5 ลิตร + มอเตอร์ไฟฟ้า
• กำลังรวมสูงสุด ประมาณ 177 แรงม้า
• แรงบิดรวมสูงสุด ประมาณ 304 นิวตันเมตร
• ระบบส่งกำลัง E-CVT
• อัตราประหยัดน้ำมัน (เฉลี่ย) ประมาณ 18.5 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก MG)
• เทคโนโลยีเด่น ระบบความปลอดภัย MG Pilot (ADAS), หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว, Digital Cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว, ระบบเชื่อมต่อ i-SMART, หลังคา Panoramic Sunroof
• ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ) 699,000 - 789,900 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย)

จุดเด่น

• ราคาที่เข้าถึงง่าย เป็นหนึ่งในรถยนต์ไฮบริดที่มีราคาเริ่มต้นที่น่าสนใจที่สุดในตลาด
• ออปชั่นและเทคโนโลยีครบครัน มาพร้อมฟังก์ชันอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยที่หลากหลาย เกินกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน
• ดีไซน์ทันสมัยและโดดเด่น รูปลักษณ์ภายนอกและภายในมีความสวยงามและทันสมัย
• สมรรถนะที่ดี ระบบไฮบริดให้พละกำลังที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน

3. Nissan Kicks e-POWER

Nissan Kicks e-POWER โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี e-POWER ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเครื่องยนต์เบนซินทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ และมอเตอร์ไฟฟ้าจะเป็นตัวขับเคลื่อนล้อ ทำให้ได้ความรู้สึกในการขับขี่เหมือนรถยนต์ไฟฟ้า แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จไฟจากภายนอก

สเปค Nissan Kicks e-POWER

• เครื่องยนต์ เบนซิน 1.2 ลิตร ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้า
• มอเตอร์ไฟฟ้า EM57
• กำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด ประมาณ 129 แรงม้า
• แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด ประมาณ 260 นิวตันเมตร
• ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ (Single Speed Reducer)
• อัตราประหยัดน้ำมัน (เฉลี่ย) ประมาณ 23.8 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก Nissan)
• เทคโนโลยีเด่น e-POWER Drive (คันเร่งเดียว), ระบบความปลอดภัย Nissan Safety Shield Technologies, หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว, Apple CarPlay / Android Auto
• ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ) 779,900 - 979,900 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย)

จุดเด่น

• เทคโนโลยี e-POWER ให้ความรู้สึกในการขับขี่เหมือนรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยอัตราเร่งที่ราบรื่นและเงียบ
• ประหยัดน้ำมัน ระบบ e-POWER ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• One-Pedal Operation ระบบ e-POWER Drive ช่วยให้สามารถควบคุมความเร็วและเบรกได้ด้วยคันเร่งเพียงอย่างเดียว
• ดีไซน์ Crossover ที่ลงตัว รูปลักษณ์ภายนอกมีความทันสมัยและใช้งานได้หลากหลาย

4. Toyota Yaris Cross HEV

Toyota Yaris Cross HEV เป็นรถยนต์ SUV ขนาดซับคอมแพ็ค ที่มาพร้อมระบบไฮบริดอันเป็นเอกลักษณ์ของโตโยต้า ผสานกับดีไซน์ที่แข็งแกร่งและทันสมัย พร้อมฟังก์ชันและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยที่ครบครัน ทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มรถยนต์ไฮบริดราคาเข้าถึงง่าย

สเปค Toyota Yaris Cross HEV

• เครื่องยนต์ เบนซิน 1.5 ลิตร + มอเตอร์ไฟฟ้า
• กำลังรวมสูงสุด ประมาณ 111 แรงม้า
• แรงบิดรวมสูงสุด: ประมาณ 141 นิวตันเมตร (เครื่องยนต์) + 163 นิวตันเมตร (มอเตอร์ไฟฟ้า)
• ระบบส่งกำลัง E-CVT
• อัตราประหยัดน้ำมัน (เฉลี่ย) ประมาณ 26.3 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก Toyota)
• เทคโนโลยีเด่น Toyota Safety Sense (ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ), หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว, Apple CarPlay / Android Auto, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
• ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ) 789,000 - 899,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย)

จุดเด่น

• ดีไซน์ SUV ขนาดกะทัดรัด รูปลักษณ์ภายนอกมีความแข็งแกร่งและทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง
• ประหยัดน้ำมัน ระบบไฮบริดของโตโยต้าขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดและทนทาน
• ฟังก์ชันและอุปกรณ์ความปลอดภัยครบครัน มาพร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐานและเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ที่ทันสมัย
• ภายในกว้างขวาง ห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระมีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน

5. Suzuki XL7 Hybrid

Suzuki XL7 Hybrid เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่มาพร้อมระบบไฮบริดในราคาที่จับต้องได้ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวที่ต้องการรถยนต์ขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมความประหยัดน้ำมัน

สเปค Suzuki XL7 Hybrid

• เครื่องยนต์ เบนซิน 1.5 ลิตร K15B + Integrated Starter Generator (ISG)
• กำลังรวมสูงสุด ประมาณ 105 แรงม้า
• แรงบิดรวมสูงสุด ประมาณ 138 นิวตันเมตร
• ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ 4 สปีด
• อัตราประหยัดน้ำมัน (เฉลี่ย) ประมาณ 17.9 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก Suzuki)
• เทคโนโลยีเด่น ไฟหน้า LED, หน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว, Apple CarPlay / Android Auto, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
• ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): 799,000 บาท (รุ่นเดียว)

จุดเด่น

• รถยนต์ 7 ที่นั่ง ตอบโจทย์ครอบครัวขนาดใหญ่หรือผู้ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น
• ระบบไฮบริด ช่วยเพิ่มความประหยัดน้ำมันเมื่อเทียบกับรถยนต์ 7 ที่นั่งทั่วไป
• ราคาคุ้มค่า เป็นรถยนต์ 7 ที่นั่งที่มีระบบไฮบริดในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย
• ดีไซน์ SUV ที่แข็งแกร่ง รูปลักษณ์ภายนอกมีความบึกบึนและพร้อมลุย

รถยนต์ไฮบริดราคาไม่แพงทั้ง 5 รุ่นที่กล่าวมานั้น ล้วนเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นความประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ เทคโนโลยีล้ำสมัย ออปชั่นครบครัน ดีไซน์สปอร์ต หรือความอเนกประสงค์ของรถยนต์ 7 ที่นั่ง การเลือกรถยนต์ไฮบริดที่เหมาะสมที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการ งบประมาณ และไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อเป็นหลัก การศึกษาข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม และการทดลองขับรถยนต์รุ่นที่สนใจ จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ไฮบริดที่ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัวที่สุด