
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยเมื่อค่ำวันที่ 12 ธันวาคมตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ ว่า ผู้นำไทยและกัมพูชาตกลงที่จะกลับมารื้อฟื้นข้อตกลงหยุดยิงใหม่ หลังจากที่มีการปะทะกันอย่างดุเดือดหลายวันที่ผ่านมา
โดยทรัมป์ประกาศข้อความดังกล่าวผ่านทางโซเชียลมีเดีย หลังโทรศัพท์หารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ ไทย และฮุน มาเนต นายกฯ ของกัมพูชา
“ผมมีบทสนทนาที่ดีมากในเช้านี้ (เช้าวันที่ 12 ธันวาคม ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ ) กับนายกรัฐมนตรีของไทย อนุทิน ชาญวีรกูล และนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ฮุน มาเนต กังวลเกี่ยวกับเรื่องสงครามที่ยืดเยื้อของทั้งสองฝ่ายที่ปะทุขึ้นมาอีก พวกเขาตกลงที่จะหยุดยิงมีผลค่ำวันนี้ และกลับไปสู่ข้อตกลงสันติภาพดั้งเดิมที่ทำขึ้นร่วมกับผม และพวกเขา โดยเราได้รับความช่วยเหลือจากอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย”
“เหตุการณ์ระเบิดตามถนน ซึ่งทำให้ทหารไทยบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากถือเป็นอุบัติเหตุ แต่ถึงกระนั้นประเทศไทยก็ตอบโต้อย่างแข็งกร้าว ทั้งสองชาติพร้อมแล้วที่จะเกิดสันติภาพ และเดินหน้าการค้ากับสหรัฐอเมริกาต่อไป ถือเป็นเกียรติของผมมากที่ได้ทำงานร่วมกับท่านอนุทินและท่านฮุน ในการแก้ไขสิ่งที่นำไปสู่สงครามครั้งใหญ่ระหว่างสองประเทศที่ยอดเยี่ยมและมีความรุ่งเรือง ผมเองอยากขอขอบคุณนายกฯ มาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม สำหรับการช่วยเหลือของเขาในเหตุการณ์ที่สำคัญยิ่งนี้”
อย่างไรก็ตาม Channalnewsasia รายงานว่า ข้อความของโดนัลด์ ทรัมป์ นั้นดูแตกต่างจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งกล่าวก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมงว่า การหารือเป็นไปด้วยดี แต่ไม่ได้กล่าวถึงข้อตกลงใด ๆ ระหว่างประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการยุติการสู้รบ
ความไม่สงบตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน และบาดเจ็บมากกว่า 260 คน ตามตัวเลขที่ทั้งสองประเทศรายงาน โดยต่างฝ่ายต่างกล่าวโทษกันว่าเป็นผู้จุดชนวนความขัดแย้งขึ้นมาอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีประชาชนหลายแสนคนต้องอพยพออกจากพื้นที่ทั้งสองฝั่งชายแดน
นายอนุทินกล่าวว่า เขาได้ขอให้โดนัลด์ ทรัมป์ กดดันกัมพูชาให้ยุติการสู้รบ ถอนกำลังทหาร และเก็บกู้ทุ่นระเบิด “ผมอธิบายให้ประธานาธิบดีทรัมป์ฟังว่า ไทยไม่ใช่ฝ่ายรุกรานกัมพูชา แต่เป็นการตอบโต้” นายอนุทินกล่าวกับผู้สื่อข่าว
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้มีการหยุดยิง แต่ตนได้ขอให้สหรัฐฯ และนานาชาติไม่เพียงเรียกร้องให้หยุดยิงเท่านั้น หากกัมพูชาจะต้องแสดงให้โลกเห็นก่อนว่า จะยุติการยิง ถอนกำลังทหาร และรื้อถอนทุ่นระเบิดทั้งหมดที่ได้วางไว้
ในเวลาต่อมาหลังทรัมป์โพสต์ข้อความล่าสุด อนุทินก็ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "แน่นอนว่านั่นไม่ใช่อุบัติเหตุ ประเทศไทยจะใช้ความเคลื่อนไหวทางทหารต่อ จนกว่าจะไม่มีการทำร้ายและภัยคุกคามต่อแผ่นดินและประชาชนของเราแล้ว"
อย่างไรก็ตาม นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ส่งข้อความตอบคำถามสื้อมวลชนว่า โพสต์ของทรัมป์คือเป้าหมายของทุกฝ่ายอยากให้เกิดการหยุดยิง แต่ยังไม่มีการตกลง และตอนนี้กำลังคุยกันต่อ โดยจะมีการแถลงจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ในเวลา 15.00 น. วันนี้ (13 ธันวาคม 68)
ส่วนฮุน มาเนต ซึ่งเคยเสนอชื่อทรัมป์เข้าชิงรางวัลโนเบลสันติภาพเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โพสต์ข้อความล่าสุดว่า ฉันได้มีการหารือทางโทรศัพท์กับอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียในวันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคมและเมื่อคืนวันที่ 12 ธันวาคม 2025 กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อหาวิธีการหยุดยิงระหว่างกัมพูชา - ประเทศไทย และเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายกลับไปใช้ข้อตกลงกัวลาลัมเปอร์
โดยเรียกร้องให้กองทัพสหรัฐฯ และมาเลเซีย ไปรวบรวมข่าวกรองในช่วงบ่ายของวันที่ 7 ธันวาคม 2025 ที่นําไปสู่การต่อสู้รอบล่าสุดระหว่างสองประเทศ เช่น ภาพถ่ายดาวเทียมที่ถ่ายระหว่างและหลังจากนั้น เป็นเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อตรวจสอบว่าฝ่ายไหนถูกยิงก่อน
และเขาขอขอบคุณผู้นําทั้งสองสําหรับความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุสันติภาพที่ยาวนานระหว่างกัมพูชาและ ประเทศไทย กัมพูชาได้ยึดมั่นในวิธีการสันติสุขสําหรับการแก้ปัญหาข้อพิพาทเสมอ