
ผลจากพายุไซโคลนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มใน 3 จังหวัดของประเทศอินโดนีเซีย ได้แก่ สุมาตราตะวันตก สุมาตราเหนือ และอาเจะฮ์ ล่าสุด (5 ธ.ค. 68) รัฐบาลอินโดนีเซียรายงานยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 836 ราย และยังมีอีกหลายร้อยคนที่สูญหาย
การเข้าช่วยเหลือในพื้นที่ดังกล่าวเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากดินที่ถล่มลงมาทำให้กระแสไฟฟ้าถูกตัดขาดและเส้นทางสัญจรเสียหาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเรียกร้องให้รัฐบาลกลางอินโดนีเซียเร่งช่วยเหลือเป็นการด่วน เนื่องจากงบประมาณ อาหาร และเชื้อเพลิงในพื้นที่กำลังขาดแคลนอย่างหนัก
นายอิสมาอิล เอ จาลิล ผู้นำของอาเจะห์เหนือ เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือสำหรับการกู้ภัย เนื่องจากขณะนี้ผู้สูญหายมีจำนวนมากเกินกว่าที่หน่วยงานท้องถิ่นจะรับมือไหว โดยเขาเรียกร้องให้รัฐบาลกลางของอินโดนีเซียประกาศให้ภัยพิบัติครั้งนี้เป็น ‘ภาวะฉุกเฉินระดับชาติ’ ซึ่งจะเป็นการปลดล็อกงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับการกู้ภัยและบรรเทาทุกข์
ทางด้านเมืองอาเจะห์ ตะเมียง ซึ่งปรากฏภาพของรถขุดที่กำลังทำงานเสียงดัง และผู้คนที่กำลังคุ้ยหาข้าวของท่ามกลางโคลนและซากปรักหักพังที่เคยเป็นบ้าน นายอาดี เฮอร์มาวัน วัย 45 ปี กล่าวว่าทั้งหมู่บ้านถูกทำลายลงราบคาบ ทุกสิ่งหายไปราวกับถูกสึนามิซัด ตอนนี้ประชาชนต้องการน้ำสะอาดและอาหาร มากพอ ๆ กับการช่วยเหลือผู้คนที่สูญหาย
เสียงเรียกร้องจากบรรดาผู้นำท้องถิ่นถูกส่งถึงรัฐบาลกลางอินโดนีเซีย โดยรัฐบาลกลางกล่าวว่าพร้อมให้การสนับสนุนรัฐบาลท้องถิ่นเสมอ และยืนยันว่างบประมาณ 500,000 ล้านรูเปียห์ (ประมาณ 960 ล้านบาท) ที่จัดสรรไว้สำหรับการบรรเทาภัยพิบัตินั้นเพียงพอแล้ว อย่างไรก็ตาม งบประมาณดังกล่าวสามารถเพิ่มได้หากจำเป็น
ทั้งนี้ เมื่อถูกถามถึงการประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีปราโบโว ซูบิอันโต ของอินโดนีเซียกล่าวว่าสถานการณ์กำลังดีขึ้นและการจัดการในปัจจุบันนั้นเพียงพอแล้ว