
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานเหตุพายุไต้ฝุ่นพัดถล่มหมู่เกาะวิซายัส ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์อย่างต่อเนื่อง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของฟิลิปปินส์รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นเป็นอย่างน้อย 58 รายแล้ว ในจำนวนนี้ มีผู้เสียชีวิตที่เป็นทหาร 6 นาย หลังจากที่เฮลิคอปเตอร์ประสบอุบัติเหตุตกที่เมืองอากูซัน เดล ซูร์ บนเกาะมินดาเนา ระหว่างปฏิบัติภารกิจด้านมนุษยธรรม
ภาพความเสียหายปรากฏขึ้นในจังหวัดเซบู ซึ่งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญ หลังจากน้ำลดลง เผยให้เห็นบ้านเรือนที่ถูกทำลาย ยานพาหนะที่พลิกคว่ำ และซากปรักหักพังเป็นวงกว้าง หน่วยงานภัยพิบัติรายงานว่า มีผู้สูญหาย 13 คน ขณะที่ประชาชนมากกว่า 400,000 คนในพื้นที่เสี่ยงต้องอพยพล่วงหน้า รวมถึงบางส่วนของลูซอนทางใต้และมินดาเนาทางเหนือ ก่อนที่พายุจะพัดเข้าถล่มบ้านเรือนและทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้างและไฟฟ้าดับ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งให้ความช่วยเหลือเหยื่อผู้รอดชีวิต
อย่างไรก็ตาม สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติฟิลิปปินส์รายงานว่า ไต้ฝุ่นคัลแมกีอ่อนกำลังลงเล็กน้อย ด้วยความเร็วลม 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และลมกระโชกแรง 165 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคาดว่าจะมุ่งหน้าลงไปยังทะเลจีนใต้ กระทบประเทศเวียดนาม ซึ่งกำลังเตรียมการรับมือก่อนพายุคาดว่าจะขึ้นฝั่งในวันศุกร์ที่จะถึงนี้
ไต้ฝุ่นคัลแมกีนับเป็นพายุลูกที่ 20 แล้วที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศระบุว่า การมาถึงของไต้ฝุ่นคัลแมกี ถือเป็นสถิติที่เกินค่าเฉลี่ยรายปีแล้ว และคาดว่าจะมีพายุอีกอย่างน้อย 3-5 ลูก จนถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา พายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นรากาสะ (Super Typhoon Ragasa) ได้พัดถล่มทางตอนเหนือของลูซอน ทำให้โรงเรียนและสำนักงานรัฐบาลต้องปิดทำการ เนื่องจากพายุได้นำพามาซึ่งลมที่รุนแรงและฝนที่ตกหนัก
นอกจากนี้ พื้นที่ดังกล่าวกำลังฟื้นฟูจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.9 แมกนิจูด ได้พัดถล่มทางตอนเหนือของเกาะเซบูในคืนวันที่ 30 กันยายน แผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70 - 80 ราย และสร้างความเสียหายอย่างมากต่ออาคารบ้านเรือน โครงสร้างพื้นฐาน และโบสถ์เก่าแก่หลายแห่ง ผลกระทบจากแผ่นดินไหวทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องพลัดถิ่น ซึ่งส่งผลให้ความเสียหายจากไต้ฝุ่นคัลแมกีมีความรุนแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากบ้านเรือนหลายหลังยังเสียหายและผู้คนจำนวนมากต้องอพยพซ้ำอีกครั้ง