
30 ตุลาคม 2568 แถลงการณ์สำนักพระราชวังบัคกิงแฮมระบุว่า เจ้าชายแอนดรูว์จะสูญเสียยศ ‘เจ้าชาย’ และต้องออกจากพระราชวังวินด์เซอร์ และต่อไปนี้จะได้ชื่อว่า แอนดรูว์ เมาท์แบทเทน วินด์เซอร์ แทน
เจ้าชายแอนดรูว์ (Andrew Mountbatten Windsor) เป็นพระราชโอรสของพระมหากษัตริย์อังกฤษ ผู้ได้สละยศดยุคแห่งยอร์กไปก่อนหน้านี้ หลังสาธารณชนตั้งคำถามเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว หลังมีการตีพิมพ์บันทึกความทรงจำหลังการเสียชีวิตของเวอร์จิเนีย จุฟเฟร (Virginia Giuffre) เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
 
เวอร์จิเนีย จุฟเฟร เป็นหญิงชาวอเมริกันผู้เสียชีวิตด้วยวัย 41 ด้วยการฆ่าตัวตายเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เธอเป็นนักเลื่อนไหวสนับสนุนเหยื่อการค้ามนุษย์ทางเพศ ตัวเธอเองยังเป็นหนึ่งในผู้ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวกระทำความผิดทางเพศต่อเด็กของเจฟฟรีย์ เอปสตีน นักธุรกิจผู้ถูกเปิดเผยว่า ค้ากามเด็ก
ระหว่างปี 2558-2560 จุฟเฟรให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษและอเมริกันเกี่ยวกับการถูกค้ามนุษย์โดยเอปสตีนและจิสเลน แม็กซ์เวล เธอดำเนินคดีอาญาต่อทั้งสอง พร้อมทั้งเรียกร้องต่อสาธารณชนเพื่อความยุติธรรมและสร้างความตระหนัก
ต่อมาธันวาคม 2019 จุฟเฟรให้สัมภาษรืกับ BBC เกี่ยวกับการถูกค้ามนุษย์โดยเอปสตีนอีกครั้ง และครั้งนี้เชื่อมโยงไปยังเจ้าชายแอนดรูว์ของอังกฤษ บทสัมภาษณ์ครั้งนั้เปลี่ยนมุมมองของสาธารณชนที่มีต่อแอนดรูว์อย่างมาก
หลังเสียชีวิตมีการตีพิมพ์บันทึกความทรงจำของเธอ ซึ่งสำนักข่าว BBC ได้สรุปประเด็นสำคัญเอาไว้ดังนี้
จุฟเฟรกลาวว่า เธอมีเพศสัมพันธ์กับเจ้าชายแอนดรูว์ทั้งหมดสามครั้ง โดยครั้งที่สามเกิดขึ้นใน “งานออร์กี” บนเกาะส่วนตัวของเอปสตีน ในงานออร์กี เธอกล่าวว่าเธอและ “เด็กผู้หญิงอีก 7 คนร่วมมีเพศสัมพันธ์กัน”
“เอปสตีน แอนดี้ และผู้หญิงอีกแปดคนรวมฉันมีเพศสัมพันธ์กัน [...] ผู้หญิงคนอื่น ๆ ดูเหมือนอายุต่ำกว่า 18 กันหมด และพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย เอปสตีนหัวเราะขำที่พวกเธอสื่อสารไม่ได้ บอกว่าเด็กพวกนี้คือกลุ่มที่จัดการง่ายที่สุด”
หลังงานออร์กีครั้งนั้น จุฟเฟรกล่าวว่า ร่างกายของเธอเปลี่ยนไป และมักมีเลือดออกไม่ปกติ อีกทั้งยังปวดท้องน้อยด้วย เอปสตีนพาเธอไปโรงพยาบาล และต้องเข้าห้องผ่าตัด
หลังจากเด็กผู้หญิงในบ้านเอปสตีนบอกเธอว่า แผลผ่าตัดใกล้สะดือของเธออาจเป็นผลจากการผ่าตัดตั้งครรภ์นอกมดลูก อย่างไรก็ตาม ตัวเอปสตีนกลับบอกว่าเธอแท้งลูก
เธอกล่าวว่า เอปสตีนและผู้ชายคนอื่น ๆ ที่เธอถูกส่งตัวไปให้ ต่างไม่มีใครใส่ถุงยางอนามัย ตัวเธอเองกล่าว่า เคยคิดว่าต้องตายในฐานะ “ทาสทางเพศ”
แม้เอปสตีนและอดีตแฟนสาว แม็กเวลล์กำลังรับโทษ 20 ปีในข้อหาค้ามนุษย์ทางเพศ แต่ความทรงจำเหล่านั้นของจุฟเฟรยังคอยทรมานเธอเสมอ
หนังสือเปดเผยว่า มีการใช้แส้, กุญแจมือ และเครื่องมือทรมานอื่น ๆ และรสนิยมทางเพศแบบ “ซาดิสม์-มาซอคิสม์” ที่เธอต้องเล่นบท “เหยื่อ” มีการใช้เครื่องทรมานซึ่งทำให้เธอกลัวจนเป็นลม แต่เมื่อฟื้นคืนสติก็พบกับภาพตนเองกำลังถูกล่วงละเมิดต่อ
เธอยังเปิดเผยการเจอกันครั้งแรกของเธอกับแม็กเวล์ เอปสตีน และวันที่เธอถูกปลุก ด้วยการบอกว่าเป็นวันพิเศษ เพราะเธอจะได้พบกับเจ้าชายรูปหล่อเหมือนในนิทานซินเดอเรลลา
แม้เจ้าชายปฏิเสธข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตามแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังก็ยังชี้ว่า “การลงโทษเป็นสิ่งจำเป็น”
 
สำนักพระราชวังระบุว่า พระมหากษัตริย์ทรงเริ่มกระบวนการอย่างเป็นทางการในการถอดยศและสิทธิพิเศษทั้งหมดของเจ้าชายแอนดรูว์ นอกจากนี้ ได้แจ้งให้สละสัญญาเช่าพระราชวัง Royal Lodge ซึ่งเจ้าชายแอนดรูว์ได้อาศัยมาตั้งแต่ปี 2004 โดยการลงโทษและถอดยศครั้งน้ผ่านการปรึกษากับรัฐบาลอังกฤษมาแล้ว
เจ้าชายแอนดรูว์จะย้ายไปอยู่ที่พักส่วนตัวใน Sandringham Estate ซึ่งเข้าใจว่า ใช้เงินส่วนตัวของพระมหากษัตริย์ชาร์ลส์ในการสนับสนุน
สำนักพระราชวังระบุว่า การประกาศครั้งนี้ถือเป็นความพยายาม “ตัดเส้นแบ่ง” ปัญหาสำคัญที่เกิดกับเจ้าชายแอนดรูว์ และเพื่อให้ราชวงศ์ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
ส่วนลูกสาวทั้งสองของเจ้าชายยังคงมีตำแหน่งเป็นเจ้าหญิง ขณะที่อดีตภริยา ซาราห์ เฟอร์กูสัน ก็ต้องย้ายออกจาก Royal Lodge และใช้ชีวิตตามลำพัง หลังจากที่เธอได้สละยศ Duchess of York และกลับมาใช้ชื่อสกุลเดิม Ferguson