
ในขณะที่กระแสฮัลยู (Hallyu) หรือคลื่นวัฒนธรรมเกาหลีได้แผ่ขยายไปทั่วโลกอย่างประสบความสำเร็จผ่าน K-Drama, K-Pop, K-Food และ K-Beauty จนสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งให้กับประเทศ จนกระทั่งในปี 2025 นี้ ที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านสู่การขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) รัฐบาลเกาหลีใต้จึงหันมาเอาจริงเอาจังกับการผลักดัน K-AI ให้ติดตลาดโลกอีกครั้งอย่างเป็นรูปธรรม
นายมุน ชินฮัก รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงาน กล่าวระหว่างพิธีเปิดงาน Invest Korea Summit 2025 ระบุว่า เกาหลีใต้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดสำหรับบริษัทระดับโลก และการลงทุนจากต่างประเทศมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันทางอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ แม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวน เกาหลีใต้ ยังคงมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างสถานะของตนในฐานะศูนย์กลางธุรกิจระดับโลกด้วยการปรับปรุงขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมขั้นสูงอย่างต่อเนื่อง กระจายตลาดส่งออก และสนับสนุนนักลงทุนต่างชาติ
 
ทั้งนี้ งานดังกล่าวจัดขึ้นร่วมกับการประชุมสุดยอดซีอีโอของกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ซึ่งสามารถดึงเงินจากนักลงทุนเข้าประเทศได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 1,210 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากบริษัทระดับโลกในหลากหลายภาคส่วน ตั้งแต่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เซมิคอนดักเตอร์และยานยนต์ ไปจนถึงพลังงาน สารเคมี อาหารและเครื่องดื่ม
ทีมข่าว Spotlight บินร่วมงาน Invest Korea Summit 2025 ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ พร้อมสรุปไฮไลต์น่าสนใจในงานนี้ ตั้งแต่การเปิดตัวโครงการเมกะโปรเจกต์ด้านปัญญาประดิษฐ์อย่าง M.ax Alliance (แม็กซ์ อไลแอนซ์) ไปจนถึงจุดเด่นด้านการลงทุนในแต่ละภูมิภาคท้องถิ่น
 
ดร. คิม แทฮยอง ประธาน Invest KOREA หน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของประเทศเกาหลีใต้ ภายใต้องค์การส่งเสริมการค้าและการลงทุนเกาหลี (KOTRA) ได้กล่าวถึงครงการเมกะโปรเจกต์ด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคปัญญาประดิษฐ์ในเกาหลีใต้ ภายใต้ชื่อ “M.AX Alliance” ย่อมาจาก ‘Manufacturing AX Alliance’ หรือ กลุ่มพันธมิตรแม็กซ์ ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มของกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานแห่งเกาหลีใต้ ผสาน "การผลิต" และ "AX" (การเปลี่ยนผ่านสู่ปัญญาประดิษฐ์) เพื่อเร่งการนำ AI มาใช้ในภาคการผลิต
 
กลุ่มพันธมิตรดังกล่าว มีเป้าหมายที่จะผลักดันให้เกาหลีใต้เป็นผู้นำระดับโลกด้าน โดยเปลี่ยนฐานการผลิตในภาคอุตสาหกรรมการผลิตทั้งหมด 30% ให้เป็นระบบ AI ภายในปี 2030 และหากทำได้สำเร็จจริง จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตลาดการลงทุนในประเทศได้สูงถึง 72,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยังไม่นับรวมการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการพัฒนามนุษย์ เนื่องจากส่วนหนึ่งจะมีการลงทุนสร้างผู้เชี่ยวชาญทางด้าน AI และสร้างศูนย์พัฒนาด้าน AI กับมหาวิทยาลัยชั้นนำในเกาหลีใต้
สำหรับบทบาทของรัฐบาลเกาหลีใต้ในโครงการดังกล่าว หน่วยงานต่าง ๆ จะเข้ามาเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางด้าน AI ให้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงช่วยสนับสนุนให้นักลงทุนดำเนินธุรกิจร่วมกับบริษัทในเกาหลีใต้ได้สะดวกขึ้น โดยให้ความช่วยเหลือด้านใบอนุญาต ลดขั้นตอนยุ่งยากทางด้านกฎหมาย ที่สำคัญ ยังสนับสนุนด้านการจัดหาเงินทุนสาธารณะอีกด้วย
นอกจากนี้ เวทีการเปิดงาน Invest Korea Summit 2025 ไม่ได้มีแค่ภาครัฐบาลเท่านั้น นักลงทุนและสื่อมวลชนทั่วโลกยังมีโอกาสได้ฟังวิสัยทัศน์จากซีอีโอของบริษัทชั้นนำด้าน AI ของเกาหลีใต้ อย่าง Naver Cloud แพลตฟอร์มผู้ให้บริการคลาวด์ และ ริษัทสตาร์ทอัพด้านเซมิคอนดักเตอร์ AI ซึ่งทั้งคู่ไม่ได้ดำเนินธุรกิจเพื่อหวังผลกำไรสูงสุดเท่านั้น แต่ยังพัฒนาให้ระบบบริการมีความล้ำหน้า ไปพร้อมกับนำ AI ให้เข้าถึงผู้คนทุกส่วนของสังคม (Inclusive Society) บนฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability)
 
ในช่วงบ่ายของงานประชุมสุดยอดด้านการลงทุน มีเวทีเล็กที่จัดขึ้นในชื่อ Local Governments IR (IR - Investment Relations) หากให้เปรียบเทียบคงเป็นเหมือนเวทีที่ให้นักลงทุนเลือกชอปปิ้ง “เมืองท้องถิ่นที่น่าลงทุนในเกาหลีใต้” เพราะเจ้าหน้าที่ด้านการลงทุนและผู้นำจากแต่ละเมืองในเกาหลีใต้จะมีเวลาคนละประมาณ 15-20 นาที อธิบายอย่างตรงไปตรงมาว่า ทำไมเมืองของพวกเขาจึงน่าลงทุน? ซึ่งทีมข่าว Spotlight ขอนำเนื้อหาบางส่วนที่น่าสนใจดังนี้
ปูซาน-จินแฮ โปรโมทตนเองในฐานะ ศูนย์กลางโลจิสติกส์ระดับโลกและคลัสเตอร์อุตสาหกรรมไฮเทคในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ โดยนำเสนอการสร้าง ท่าเรือปูซานใหม่ (Busan New Port) ให้เป็นท่าเรือขนถ่ายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดอันดับที่ 2 ของโลก และจะเป็นประตูสู่ตลาดขนาดใหญ่ในจีนและญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญของโลจิสติกส์ทางทะเล ทางบก (เส้นทางรถไฟ) และทางอากาศ (สนามบินกิมแฮ) ทำให้เป็น "Tri-Port" ที่มีประสิทธิภาพ
จอนบุก (Jeonbuk State) ได้กำหนดอุตสาหกรรมหลักหลายด้านเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต ชวนนักลงทุนทำธุรกิจหลากหลายด้าน ตั้งแต่พลังงานหมุนเวียน ภายใต้จุดมุ่งหมายที่จะสร้างเขตอุตสาหกรรม RE100 ที่จะใช้พลังงานหมุนเวียน 100% แห่งแรกของเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าเป็นฐานการผลิตยานยนต์เชิงพาณิชย์ไฮโดรเจน (Hydrogen Commercial Vehicles) เนื่องจากที่นี่มีโรงงานฮุนไดมอเตอร์ที่ชอนจูอยู่แล้ว จึงนับว่ามีโครงสร้างที่แข็งแกร่งพร้อมขยายการเติบโตด้านยานยนต์
ปัจจุบัน เมืองอินชอนและสนามบินนานาชาติอินชอน มีบริการรถไฟที่เชื่อมต่อกับระบบรถไฟความเร็วสูงอยู่แล้ว แต่การเชื่อมต่อดังกล่าวยังมีข้อจำกัด จึงเกิดแนวคิดที่จะทำโครงการ "รถไฟความเร็วสูงใหม่" มีการผลักดันให้มีการกลับมาหรือเพิ่มความถี่ของบริการ KTX โดยตรงจากสนามบินอินชอน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับนักเดินทางต่างชาติที่ต้องการเดินทางไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ของเกาหลี
ทั้งนี้ จุดแข็งสำคัญที่ช่วยโน้มน้าวใจบรรดาซีอีโอชั้นนำที่เข้าร่วมงานการลงทุนนั้น ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่โครงการที่น่าดึงดูดใจและการเสนอสิทธิประโยชน์ของแต่ละเมืองเท่านั้น แต่ยังรวมถึง บทบาทการสนับสนุนและการอำนวยความสะดวกอย่างแข็งขันของรัฐบาลกลาง ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับโลก โดยมีการปรับปรุงกฎระเบียบอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะ การจัดตั้งองค์กรสำคัญอย่าง Invest KOREA (ภายใต้ KOTRA) ให้เป็นศูนย์บริการแบบ One-Stop Service ตลอดจนการมีผู้ตรวจการด้านการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อทำหน้าที่คลี่คลายปัญหาและอุปสรรคทางธุรกิจโดยเฉพาะ สิ่งเหล่านี้เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการต่างชาติว่า การดำเนินธุรกิจในประเทศจะเป็นไปอย่างสะดวกและราบรื่น เป็นรากฐานที่มั่นคงยิ่งกว่าแรงจูงใจทางการเงินใด ๆ