นักการเมืองมาเลเซียอย่างน้อย 10 คน ต่างตื่นตกใจที่ได้รับอีเมลขู่ว่าจะเผยแพร่วิดีโออนาจารที่สร้างโดยระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ซึ่งมีภาพใบหน้าของพวกเขา และหากพวกเขาไม่จ่ายเงิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ วิดีโอปลอมดังกล่าวก็จะถูกเผยแพร่สู่สายตาสาธารณชน แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารเปรยว่า จะไม่ยอมถูกพรรคการเมืองใดข่มขู่
นายฟาห์มี ฟาดซิล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารมาเลเซีย เป็นหนึ่งในนักการเมืองที่ได้รับอีเมลข่มขู่ เขาออกมาเปิดเผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียกำลังเร่งสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนเดียวกัน เพราะภาพจาก AI เหล่านี้มีรูปแบบเดียวกัน แค่เปลี่ยนใบหน้าของนักการเมือง อีกทั้งข้อความข่มขู่ในอีเมลก็เขียนเหมือนกัน และรหัส QR สำหรับโอนเงินเป็นรหัสเดียวกันด้วย
เขาย้ำว่า รัฐบาลถือว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องร้ายแรง และได้สั่งให้คณะกรรมการการสื่อสารและมัลติมีเดียแห่งมาเลเซีย (MCMC) ทำงานอย่างใกล้ชิดกับตำรวจเพื่อติดตามอาชญากรที่อยู่เบื้องหลังอีเมลกรรโชกทรัพย์ซึ่งส่งมาผ่านแพลตฟอร์ม Gmail ของ Google
นายฟาห์มีกล่าวว่า สมาชิกรัฐสภาที่ตกเป็นเป้าแบล็คเมล ได้แก่ อดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจและ สมาชิกรัฐสภาปันดัน ราฟิซี รามลี , ส.ส. หว่อง เฉิน จากจังหวัดสุบัง, ส.ส. ตอฟิก โจฮารี จากจังหวัดซุงไกเปตานี และอดัม อัดลี รองรัฐมนตรีกระทรวงเยาวชนและกีฬา
นอกจากนี้ยังมี สมาชิกสภาบริหารรัฐสลังงอร์ นาจวัน ฮาลิมี และฟาห์มี หงาห์ รวมไปถึงวุฒิสมาชิกมาโนลัน โมฮัมหมัด และสมาชิกสภานิติบัญญัติรัฐกุลิม หว่อง เจีย เซน ก็อยู่ในกลุ่มผู้ที่ได้รับการข่มขู่เหล่านี้ด้วย
หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่านักการเมืองกลุ่มนี้ล้วนเป็นสมาชิกจากพรรค People Justice และผู้สนับสนุนนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย นี่จึงอาจเป็นเกมการเมืองสกปรกจากพรรคขั้วตรงข้ามหรือไม่ อย่างไรก็ตาม วัน ไซฟุล วันจัน สมาชิกพรรคฝ่ายค้าน ได้โพสต์เฟซบุ๊กเปิดเผยว่า เขาก็ได้รับคำขู่เช่นเดียวกัน พร้อมทั้งระบุด้วยว่า สมาชิกรัฐสภาคนอื่น ๆ หลายคนอาจได้รับอีเมลเดียวกันนี้ แต่ยังไม่รู้ตัว
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารกล่าวว่า “รัฐบาลมาดานีจะไม่ยอมประนีประนอมกับพรรคการเมืองใดๆ ที่ใช้เทคโนโลยีและเครือข่ายการสื่อสารในทางที่ผิดเพื่อข่มขู่หรือหลอกลวงประชาชน” พร้อมให้คำมั่นว่า “รัฐบาลจะใช้ความพยายามทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ก่อเหตุจะถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อปกป้องความปลอดภัยของสังคม”
รัฐบาลมาเลเซียออกมาเน้นย้ำว่า การส่งข้อความที่น่ารังเกียจโดยมีเจตนาข่มขู่ถือเป็นความผิดตามมาตรา 233 แห่งพระราชบัญญัติการสื่อสารและมัลติมีเดียปี 1998 ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 500,000 ริงกิต จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งปรับและจำคุก