เฟสบุ๊กเพจกองทัพบก Royal Thai Army ได้โพสต์ภาพการจับกุมแรงงานกัมพูชาหลายสิบชีวิต ที่ลักลอบเข้ามายังจังหวัดสระแก้ว พร้อมแคปชั่นระบุว่า “จับแรงงานกัมพูชากว่าครึ่งร้อย! สภาพอิดโรย หิวโซ สารภาพสิ้นไร้หนทาง รัฐบาลไม่เหลียวแล ต้องกลับมาตายเอาดาบหน้าในไทย”
กองกำลังบูรพา กองทัพบทไทยได้เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณท้ายหมู่บ้านกุดหิน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวในพื้นที่ว่ามีการลักลอบข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวแรงงานชาวกัมพูชาจำนวน 50 คน เป็นชาย 33 คน และหญิงอีก 18 คน ขณะกำลังเดินเท้าเข้ามาในพื้นที่ สภาพของแรงงานทั้งหมดดูอิดโรยและหิวโหย
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม แรงงานจึงเปิดเผยว่า พวกเขาเคยทำงานในประเทศไทยมาก่อน แต่จำต้องเดินทางกลับประเทศกัมพูชาเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากมาตรการควบคุมการเข้าออกที่เข้มงวดของทั้งสองประเทศ แต่เมื่อกลับไปถึงภูมิลำเนาแล้ว กลับไม่มีงานทำและขาดรายได้ ประกอบกับรัฐบาลกัมพูชาไม่มีมาตรการช่วยเหลือใด ๆ จึงตัดสินใจยอมจ่ายเงินค่าเดินทางให้ผู้นำทางหัวละ 5,000-6,000 บาท เพื่อกลับมาตายเอาดาบหน้าในประเทศไทยอีกครั้ง
พวกเขายังเล่าอีกว่า ได้ติดต่อผู้นำทางชาวกัมพูชา 3 คน เพื่อนำพาข้ามแดนมาตามเส้นทางธรรมชาติเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ แต่ระหว่างทางก็ถูกเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบเสียก่อน โดยผู้นำทางทั้ง 3 คนอาศัยช่วงชุลมุนวิ่งหลบหนีไปในไร่อ้อย เหลือไว้แต่แรงงานชาวกัมพูชาที่ถูกจับกุมตัวไว้ได้ทั้งหมด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวแรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมดที่จับกุมได้ในครั้งนี้ ส่ง สภ.คลองน้ำใส เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ด้าน พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งปิดด่านชายแดน ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน ถึง 8 กันยายน 2568 ทางหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศสามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่ลักลอบเข้าเมืองได้รวม 84 ครั้ง เป็นจำนวนแรงงานชาวกัมพูชามากถึง 329 คน การจับกุมนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสิ้นหวังของประชาชนชาวกัมพูชาที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดด้วยตนเอง เนื่องจากขาดการดูแลจากรัฐบาลในประเทศบ้านเกิด ที่กดดันให้ประชาชนเดินทางกลับประเทศเเล้วไม่มีการช่วยเหลือใด ๆ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว สวนทางกับท่าทีของรัฐบาลกัมพูชา ที่แสดงความแข็งขันในการหางานรองรับชาวกัมพูชาที่คืนถิ่นในช่วงที่ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชาปะทุหนักในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 3 กันยายน สำนักข่าว Khmer Times รายงานว่ารัฐบาลกำลังสร้างงานให้ชาวกัมพูชาที่เดินทางกลับจากประเทศไทยเพิ่มอย่างเร่งด่วน
กระทรวงแรงงานและฝึกอบรมวิชาชีพกัมพูชา (MLVT) เปิดเผยว่า มีชาวกัมพูชาในไทยมากกว่า 920,000 คนได้ข้ามพรมแดนกลับบ้าน ในจำนวนนี้ ประมาณ 700,000 คนเป็นแรงงานข้ามชาติที่เคยทำงานในภาคส่วนต่าง ๆ ในประเทศไทย ขณะเดียวกัน รัฐบาลกำลังดำเนินการอย่างแข็งขันเพื่อสร้างโอกาสการจ้างงานให้กับแรงงานที่กลับมาทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
ด้านนายเฮง ซัวร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกัมพูชา ย้ำว่ารัฐบาลกัมพูชาไม่เคยมีนโยบายห้ามพลเมืองกัมพูชาทำงานในต่างประเทศ และเสริมว่า “แม้แต่พลเมืองไทยก็ยังไปทำงานในต่างประเทศ” นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่า นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เศรษฐกิจของกัมพูชาได้รองรับแรงงานชาวกัมพูชาที่เดินทางกลับบ้านแล้วประมาณ 150,000 คน และแม้ว่า 150,000 คนอาจดูเหมือนจำนวนน้อย แต่ความจริงที่ว่าภาคเอกชนสามารถรองรับแรงงานจำนวนมากเหล่านี้ได้ภายในเวลาเพียงสองเดือน ถือเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์
หากตัวเลขนี้ยังคงดำเนินต่อไปอีกหนึ่งปี หมายความว่ากัมพูชาาจะสามารถสร้างงานได้หนึ่งล้านตำแหน่ง ซึ่งต้องขอบคุณภาคเอกชนและภาคธุรกิจของเราที่ได้ช่วยเหลือประเทศชาติด้วยการขยายการดำเนินงาน เพื่อให้ตลาดแรงงานของเราสามารถรองรับแรงงานข้ามชาติที่กลับเข้ามาได้ ขณะที่อุตสาหกรรมการผลิตเป็นแหล่งจ้างงานหลักสำหรับผู้ที่กลับมาทำงาน รัฐบาลก็มองไปที่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในประเทศเพื่อขยายตลาดงานในประเทศด้วย