จับตาทรัมป์-เซเลนสกี หารือเคาะหยุดยิง ผู้นำยุโรปร่วมวงแก้สงครามรัสเซีย
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครนพร้อมด้วยพันธมิตรจากยุโรปมุ่งหน้าสู่ทำเนียบขาวเพื่อเข้าร่วมการหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ โดยมีผู้นำคนสำคัญอย่าง นายมาร์ค รุตเต เลขาธิการนาโต และเซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ร่วมด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากการประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียที่เมืองแองเคอเรจ รัฐอะแลสกา ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทรัมป์ได้เปลี่ยนจุดยืนจากการเรียกร้องให้หยุดยิงเป็นการเรียกร้องให้มีข้อตกลงสันติภาพถาวรแทน นอกจากนี้ มีรายงานจากทูตพิเศษของสหรัฐฯ ว่า ปูตินตกลงที่จะพิจารณาข้อตกลงด้านความมั่นคงที่คล้ายกับ NATO ซึ่งเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญที่ทรัมป์ได้โพสต์ลงใน Truth Social ว่า “เจรจารัสเซียคืบหน้าครั้งใหญ่ รอติดตามได้เลย!”
ทั้งนี้ ผู้นำยุโรปคนอื่นๆ ที่เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ได้แก่ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส, นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนีของอิตาลี, นายกรัฐมนตรีฟรีดริช แมร์ซของเยอรมนี, ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ สตับบ์ของฟินแลนด์ และประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ ไลเยน
ทั่วโลกจับตาหารือครั้งใหญ่ ยูเครนจะเสียเปรียบหรือไม่
นักการทูตจากยุโรปหลายคนกังวลว่า ทรัมป์อาจพยายามกดดันให้เซเลนสกีตกลงในข้อตกลงบางอย่าง หลังจากการประชุมระหว่างทรัมป์-ปูตินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเซเลนสกีไม่ได้รับเชิญเข้าร่วม อย่างไรก็ตาม นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวนี้ว่าเป็น "เรื่องไร้สาระของสื่อ"
ก่อนหน้านี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และยูเครนเคยตึงเครียดขึ้นเมื่อต้นปี หลังจากเซเลนสกีมีปากเสียงกับทรัมป์และรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ แต่ผู้นำยุโรปได้พยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยมีการสนับสนุนให้ยูเครนใช้ภาษาที่เน้นเรื่องการเจรจาต่อรอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์ให้ความสำคัญ
ในเดือนเมษายน ยูเครนได้ลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับแร่ธาตุหายาก ที่ทำให้สหรัฐฯ มีส่วนได้ส่วนเสียทางการเงินในประเทศ และในเดือนกรกฎาคม ผู้นำทั้งสองก็ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ ซึ่งเซเลนสกีกล่าวว่าเป็น "การสนทนาที่ดีที่สุดที่เคยมีมา"
แม้จะมีความพยายามในการเจรจาอย่างต่อเนื่อง แต่สถานการณ์ในสนามรบยังคงตึงเครียด กองทัพรัสเซียยังคงรุกคืบและยึดครองพื้นที่เกือบหนึ่งในห้าของยูเครน เซเลนสกีและผู้นำของกลุ่ม "Coalition of the Willing" ซึ่งรวมถึงสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี ได้จัดการประชุมผ่านระบบวิดีโอในวันอาทิตย์เพื่อแสดงจุดยืนร่วมกันก่อนการประชุมกับทรัมป์ในวันจันทร์
ทั้งเซเลนสกีและผู้นำ NATO ต่างต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อตกลงด้านความมั่นคง โดยหวังว่าจะให้ความคุ้มครองยูเครนจากการถูกรุกรานในอนาคต โดยนายสตีฟ วิทคอฟฟ์ ทูตพิเศษของสหรัฐฯ กล่าวว่า รัสเซียได้ให้ "สัมปทานบางอย่าง" ในห้าภูมิภาคที่กำลังมีการสู้รบอย่างหนัก แต่ปูตินยังคงต้องการภูมิภาคโดเนตสค์และลูฮันสค์
เซเลนสกีได้ย้ำว่า รัฐธรรมนูญยูเครนไม่อนุญาตให้สละดินแดน และเรื่องนี้ควรหารือกันในที่ประชุมสุดยอดไตรภาคีระหว่างผู้นำยูเครน รัสเซีย และสหรัฐฯ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เตือนว่า อย่าเพิ่งคาดหวังว่าข้อตกลงสันติภาพจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ โดยระบุว่า "เส้นทางแห่งสันติภาพยังอีกยาวไกล"
ชาวยูเครนหวั่นใจต่อการประชุม
ความวิตกกังวลกำลังเพิ่มมากขึ้นในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ก่อนการประชุมในทำเนียบขาวซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อยุติสงครามกับรัสเซีย ด้านอิรินา เครเนตส์ หญิงชาวยูเครนวัย 36 ปี กล่าวว่า “เราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น เราไม่ไว้วางใจ (ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน)”
“เราเข้าใจว่าประธานาธิบดีของเรา (จะ) แสดงจุดยืนที่เข้มแข็งของเราเกี่ยวกับดินแดนของเรา เกี่ยวกับประเทศของเรา เราต้องการมีชีวิตอยู่ในประเทศเสรีของเรา ทั้งประเทศของเรา” เธอกล่าวเสริม
ความวิตกกังวลกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางเสียงปืนและความรุนแรงที่ยังเกิดขึ้นในยูเครน จากการโจมตีของรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีรายงานว่า เด็กชายวัย 15 ปีเสียชีวิตจากการโจมตีของรัสเซียในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในภูมิภาคซาโปริซเซีย
กระทรวงการต่างประเทศของยูเครนกล่าวว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีครั้งนี้อย่างน้อย 6 คน รวมถึงพ่อแม่ น้องชาย และน้องสาวของเด็กวัยรุ่นคนดังกล่าว และบ้านหลายหลังได้รับความเสียหายหรือถูกทำลาย นายอังเดรย์ เยอร์มัค หัวหน้าสำนักงานประธานาธิบดีของยูเครนกล่าวว่า “นี่คือวิธีที่รัสเซีย ‘ต้องการสันติภาพ’ พวกเขายังคงทำสงครามกับพลเรือน และฆ่าลูกหลานของเรา”
เงื่อนไขปูติน ผ่านปากทรัมป์
ก่อนการเจรจาครั้งสำคัญกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครน และคณะผู้นำยุโรปในวันนี้ (18 สิงหาคม 68) โดนัลด์ ทรัมป์โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ประธานาธิบดีเซเลนสกีแห่งยูเครนสามารถยุติสงครามกับรัสเซียได้เกือบจะในทันที หากเขาต้องการ หรือเขาอาจจะอยากสู้รบต่อ”
ทรัมป์ยังโพสต์เพิ่มเติมว่า “จำได้ไหมว่าสงครามนี้มันเริ่มอย่างไร ไม่มีการเรียกคืนไครเมียที่โอบามาให้ไป (เมื่อ 12 ปีก่อน โดยไม่มีการยิงแม้แต่นัดเดียว!) และยูเครนจะไม่เข้าร่วมนาโต บางสิ่งไม่เคยเปลี่ยน!!!”
การโพสต์ดังกล่าวเน้นย้ำถึงแรงกดดันที่เซเลนสกีจะเผชิญในวันจันทร์ ขณะที่ทรัมป์พยายามยุติความขัดแย้ง เงื่อนไขสองข้อที่เขาระบุ คือ ยูเครนต้องยกไครเมียที่รัสเซียผนวกอย่างผิดกฎหมายในปี 2014 และต้องตกลงว่าจะไม่เข้าร่วมนาโต ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่วลาดิเมียร์ ปูตินได้กำหนดไว้เพื่อยุติสงคราม
