สงครามแก๊งค้ายาเม็กซิโกรุนแรงหนัก พบ 20 ศพบนทางด่วน 4 ร่างในนั้นไร้หัว
สำนักงานอัยการรัฐซีนาโลอารายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 ว่า เจ้าหน้าที่เม็กซิโกพบศพจำนวน 20 ร่างบนทางด่วนทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐซีนาโลอา ประเทศเม็กซิโก ซึ่งในรัฐดังกล่าวกำลังมีการปะทะกันระหว่างกลุ่มค้ายา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การค้นพบสะเทือนขวัญ
เจ้าหน้าที่พบร่างไร้หัว 4 ร่างแขวนอยู่บนถนนสายหลักใกล้เมืองกูลิอากัน เมืองหลวงรัฐซีนาโลอา ใกล้กันนั้นพบอีก 16 ร่าง ซึ่งถูกตัดศีรษะเช่นกัน อยู่ในรถที่ถูกทิ้งไว้ และในรถยังพบถุงบรรจุศีรษะมนุษย์อีก 5 ศีรษะ
เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เป็นเดือนที่ระดับความรุนแรงของสงครามภายในกลุ่มพันธมิตรค้ายาซีนาโลอา (Factions of the Sinaloa cartel) ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรค้ายาเสพติดที่ทรงอิทธิพลที่สุดของเม็กซิโก เพิ่มสูงที่สุดตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มต้นขึ้น และมีรายงานว่ากลุ่มค้ายาคู่แข่ง กลุ่มพันธมิตรฆาลิสโก เจเนอเรชันใหม่ (The Jalisco New Generation) ได้เข้าร่วมความขัดแย้งครั้งนี้ด้วย
เริ่มต้นสงครามค้ายา
สงครามเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 หกสัปดาห์หลังการจับกุมหัวหน้าอาชญากรรมที่ทรงอิทธิพลที่สุดของกลุ่มค้ายารัฐซีนาโลอา 2 รายในเมืองเอลพาโซ รัฐเท็กซัส อิสมาเอล ซัมบาดา การ์เซีย (Ismael Zambada García) วัย 76 ปี หรือที่รู้จักในชื่อ “เอล มาโย” หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มซีนาโลอา และโฆอาคีน กุซมาน โลเปซ (Joaquin Guzmán Lopez) ลูกชายของโฆอาคีน “เอล ชาโป” กุซมัน ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม
ทั้ง 2 ถูกจับกุมในข้อหาเป็นผู้นำเครือข่ายการผลิตและลักลอบขนเฟนทานิล ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตจำนวนมาก และอีกหลายกระทงจากบทบาทในการนำปฏิบัติการอาชญากรรมของกลุ่มพันธมิตร
ความขัดแย้งในกลุ่มเกิดจาก เอล มาโย กล่าวหาว่า ลูกชายทั้ง 2 คนของ เอล ชาโป เป็นผู้ทรยศและมอบตัวเขาให้กับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ สมาชิกกลุ่มที่สนับสนุน เอล มาโย จึงเริ่มก่อสงครามกับกลุ่มผู้สนับสนุนลูกชายของ เอล ชาโป
เจ้าหน้าที่เม็กซิโกส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปปราบปรามความรุนแรงระหว่างกลุ่มค้ายานี้ แต่ยังไม่สามารถระงับความรุนแรงไว้ได้ และแม้ว่าสงครามจะดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปีก่อน แต่สองเดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ความรุนแรงปะทะสูงสุด มีผู้เสียชีวิตจากความขัดแย้งครั้งนี้แล้วกว่า 3,000 คน
ที่จุดเกิดเหตุน่าสยองครั้งนี้ มีข้อความเขียนอยู่ใต้สะพานระบุว่า เหตุครั้งนี้ก่อขึ้นจากฝ่าย “ลา มายิซา” หรือกลุ่มที่นำโดยลูกชายของ เอล มาโย
ด้านลูกชายทั้ง 2 ของ เอล ชาโป รู้จักกันในชื่อ “ลอส ชาปิโตส” มีรายงานว่า ได้ตกลงร่วมมือกับคู่อริของกลุ่ม หรือกลุ่มพันธมิตรฆาลิสโก ซึ่งคาดกันว่าการร่วมมือครั้งนี้จะส่งผลต่อการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางโครงสร้างของกลุ่มค้ายาในเม็กซิโก
แรงกดดันปราบการค้ายาจากสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ ทางการสหรัฐฯ ได้ระบุว่า “ชาปิโตส” คือผู้มีบทบาทหลักในการลักลอบขนเฟนทานิล ซึ่งเป็นโอปิออยด์สังเคราะห์ที่มีฤทธิ์รุนแรง และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดในสหรัฐนับแสนรายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
รัฐบาลเม็กซิโกได้รับแรงกดดันจากรัฐบาลทรัมป์ในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ทรัมป์ประกาศจัดให้กลุ่มพันธมิตรค้ายาเหล่านี้เป็นองค์กรก่อการร้ายต่างชาติ ขู่ว่าจะใช้ปฏิบัติการทางทหารฝ่ายเดียวในดินแดนเม็กซิโก และตัดธนาคารเม็กซิโก 3 แห่งออกจากระบบการเงินของสหรัฐฯ เนื่องจากชี้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินจากยาเสพติด
ความกดดันเหล่านี้ทำให้รัฐบาลพยายามแสดงให้เห็นถึงความเข้มงวดในการปราบปรามการลักลอบขนเฟนทานิล โดยเฉพาะในรัฐซีนาโลอา ทั้งการบุกจับห้องแล็บ การจับกุม และการยึดยาเสพติด ข้อมูลจากศุลกากรและป้องกันชายแดนของสหรัฐระบุว่า การยึดเฟนทานิลตามแนวชายแดนเม็กซิโกลดลงเกือบ 30% ในปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
