สื่อต่างประเทศรายงานว่า กองทัพอิสราเอลใช้รถถัง โดรนและอาวุธอื่น ยิงใส่ชาวปาเลสไตน์ที่เข้ามาขอความช่วยเหลือและอาหารในกาซาเมื่อวานนี้ (17 มิถุนายน) ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70 ราย
ขณะที่กองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอล หรือ IDF ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า เกิดการรวมตัวของประชาชนใกล้กับรถบรรทุกความช่วยเหลือที่ติดอยู่ในพื้นที่ข่านยูนิส ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับหน่วยทหารอิสราเอลที่กำลังปฏิบัติการอยู่
IDF ได้รับทราบรายงานเกี่ยวกับผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่งจากการยิงของกองทัพอิสราเอล หลังจากที่ฝูงชนเข้าใกล้พื้นที่ดังกล่าว โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดของเหตุการณ์ และขอแสดงความเสียใจต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับพลเรือนผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ยืนยันว่า จะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อลดความเสี่ยง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาความปลอดภัยของทหารของเราด้วย
รายงานระบุว่า ฝูงชนจำนวนมากเข้ามาขอความช่วยเหลือเมื่อช่วงเช้าวานนี้ และทหารอิสราเอลยิงใส่ผู้คนเหล่านั้นขณะเข้ามารวมตัวกันบนถนนสายหลักในเมืองข่านยูนิส ทางตอนใต้ของกาซา
นับเป็นกรณีสลดล่าสุดที่เกิดขึ้น หลังจากที่อิสราเอลและกองทุนมนุษยธรรมกาซา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ เปิดปฏิบัติการแบ่งปันอาหารในดินแดนดังกล่าวเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน
ด้านมาห์มูด บัสซัล โฆษกการป้องกันพลเรือนกาซาเปิดเผยว่า มีประชาชนกว่า 200 คนได้รับบาดเจ็บ โดยโดรนของอิสราเอลได้ยิงเข้าใส่ประชาชน และไม่กี่นาทีถัดมา รถถังของอิสราเอลก็ยิงปืนเข้าใส่ฝูงชน
สื่อต่างประเทศยังรายงานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ยังเป็นเหตุความรุนแรงบริเวณจุดรับความช่วยเหลือที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด นับตั้งแต่ปฏิบัติการช่วยเหลือกลับมาเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน และมีรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากกลุ่มคนที่พยายามเข้าไปรับความช่วยเหลือรวมทั้งหมดมีกว่า 300 ราย และบาดเจ็บกว่า 2,000 คน
แอนโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องหาความรับผิดชอบ หลังเกิดเหตุการณ์ล่าสุดขึ้นที่จุดรับความช่วยเหลือ
ซาอีด อาบู ลีบา วัย 38 ปี ผู้อยู่ในเหตุการณ์ให้สัมภาษณ์กับอัลจาซีราว่า มีพลเรือนหลายสิบคน รวมถึงเด็ก ถูกสังหาร และไม่มีใครให้ความช่วยเหลือหรือเข้าช่วยชีวิตเลย
ส่วนยูเซฟ โนฟัล เล่าว่า เขาเห็นคนมากมายนอนนิ่งและเลือดไหลอยู่บนพื้น ขณะที่ทหารยังคงยิงเข้าใส่ประชาชนขณะที่พวกเขากำลังหลบหนี