คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เดินทางไปตรวจเยี่ยมการผลิตกระสุน ที่โรงงานอาวุธ พร้อมประกาศว่า การเร่งผลิตกระสุนจะช่วยเพิ่มอำนาจทางการทหารให้แก่เกาหลีเหนือ
สำนักข่าวกลางของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า คิมได้ไปตรวจเยี่ยมการผลิตกระสุน และอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องยนต์ของรัฐ ซึ่งเขาได้แสดงความพึงพอใจอย่างยิ่ง และระบุว่า การพัฒนาให้โรงงานมีความทันสมัยขึ้นได้แตะระดับสูงสุดแล้ว และศักยภาพการผลิตกระสุนก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
สื่อของทางการเกาหลีเหนือยังระบุด้วยว่า การผลิตกระสุนของเกาหลีเหนือได้เพิ่มขึ้น 4 เท่าจากระดับค่าเฉลี่ยที่ผลิตได้ในหนึ่งปี และเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า เมื่อเทียบกับปีที่ผลิตได้มากที่สุด
คิม จองอึนยังได้แสดงความหวังว่า เกาหลีเหนือจะสามารถผลิตกระสุนได้มากกว่านี้เพื่อส่งเสริมการขยายอำนาจการสู้รบของกองกำลังติดอาวุธเกาหลีเหนือ
ผู้นำเกาหลีเหนือยังเรียกร้องให้โรงงานมุ่งเน้นการพัฒนาและผลิตเครื่องจักรที่ชาญฉลาดขึ้น มีความเร็วสูง มีความแม่นยำ และมีฟังก์ชันหลากหลาย เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการผลิตและเทคนิคของอุตสาหกรรมยุทโธปกรณ์ รวมถึงภาคส่วนอื่น ๆ ของเศรษฐกิจประเทศ
คำเรียกร้องของคิมในการเพิ่มกำลังการผลิตกระสุนเกิดขึ้นในช่วงที่มีรายงานว่าเกาหลีเหนือได้ส่งกระสุนและอุปกรณ์ทางทหารหลายล้านชิ้นให้กับรัสเซียเพื่อสนับสนุนสงครามในยูเครน
การเน้นย้ำของเขาในเรื่องการผลิตกระสุนอาจบ่งชี้ถึงความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าจัดหาอาวุธให้กับรัสเซียต่อไป เพื่อแลกกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีทางทหารที่เกาหลีเหนือต้องการอย่างยิ่ง
มีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังหารือกับผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการรื้อฟื้นการเจรจากับเปียงยาง
โดยสถาบันวิจัยด้านนโยบาย Quincy Institute for Responsible Statecraft ในสหรัฐฯ เสนอแนะว่า สหรัฐฯ ควรใช้แนวทางที่ยืดหยุ่นและเน้นความเป็นจริงในการจัดการกับเกาหลีเหนือ โดยดำเนินการด้านการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่าง “ค่อยเป็นค่อยไป” และมีการมีส่วนร่วมกับผู้มีบทบาทในภูมิภาค เช่น จีน
ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดครั้งแรกในปี 2018 ที่สิงคโปร์ ลงเอยด้วยแถลงการณ์ร่วมที่มีพันธะสัญญาเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งมีความคลุมเครือ ส่วนการประชุมครั้งที่สองในปีต่อมา ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม สิ้นสุดลงอย่างกะทันหันโดยไม่มีข้อตกลง