มูลค่าหุ้นของ Nvidia เพิ่มขึ้นกว่า 9% ในช่วงซื้อขายหลังปิดตลาด หลังบริษัทออกมาเผยผลประกอบการไตรมาสล่าสุด พบรายได้เพิ่ม 265% ขณะที่กำไรเพิ่ม 769% ชนะทุกการคาดการณ์ของนักลงทุน อานิสงส์ยอดขายชิปสำหรับฝึก AI และบริการศูนย์ข้อมูล
Nvidia เป็นหนึ่งในบริษัทที่นักลงทุนจับตามองกันมากที่สุดในช่วง earning season นี้ เพราะปัจจุบัน Nvidia เป็นผู้นำในการผลิตชิประดับสูงสำหรับฝึก AI และบริการศูนย์ข้อมูลและแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับ AI ทำให้นักลงทุนคาดว่าผลประกอบการของ Nvidia จะเพิ่มขึ้นมากจากการที่บริษัทเทคโนโลยีทั้งกลางและใหญ่กำลังแข่งขันกันพัฒนา AI ของตัวเองกันอยู่ในขนาดนี้
เมื่อบริษัทเผยผลประกอบการออกมาจริงๆ เหล่านักลงทุนก็ไม่ผิดหวัง เมื่อ Nvidia รายงานว่าในไตรมาสที่ 4 บริษัททำรายได้ไปมากถึง 2.21 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 265% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และทำกำไรไปถึง 1.23 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 769% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
นอกจากนี้ Nvidia ยังเผยการคาดการณ์รายได้สำหรับไตรมาสที่ 1 ของปี 2024 ไว้ที่ 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 233% ซึ่งมากกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ให้ไว้ที่ 2.19 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ผลประกอบการและการคาดการณ์รายได้ที่ดีกว่าคาด ดันราคาหุ้นของ Nvidia ให้ดีดขึ้นถึง 9.02% ในช่วงการซื้อขายหลังตลาดปิด จาก 674.72 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ไปเป็น 735.94 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น โดยตั้งแต่ต้นปี มูลค่าหุ้นของ Nvidia เพิ่มขึ้นแล้ว 36% ขณะที่มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นมากกว่า 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว ทำให้ในปัจจุบัน Nvidia มีมูลค่าตลาดถึง 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
อานิสงส์ AI บูม รายได้จากศูนย์ข้อมูลพุ่ง 409%
Nvidia ถือเป็นบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการเข้ามาของ AI หรือปัญญาประดิษฐ์มากที่สุด เพราะในปัจจุบัน Nvidia เป็นผู้นำในการให้บริการศูนย์ข้อมูลและแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับ AI และเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาชิปสมรรถสูงสำหรับฝึกและพัฒนา AI ที่กำลังเป็นที่ต้องการของทุกบริษัทใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Microsoft, Google, Meta และ Amazon
ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2023 ที่ผ่านมา ธุรกิจที่ทำรายได้ให้กับ Nvidia มากที่สุดคือ ธุรกิจศูนย์ข้อมูล ที่ทำรายได้ไปทั้งหมด 1.84 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 409% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และกว่าครึ่งเป็นรายได้จากธุรกิจ Cloud ขณะที่ยอดขายชิปและการ์ดจอสำหรับเกม ซึ่งเป็นธุรกิจดั้งเดิมของ Nvidia ทำยอดไปได้ทั้งหมด 2.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 56% จากปีก่อนหน้า
ในการแถลงข่าวผลประกอบการ Jensen Huang ซีอีโอและผู้ก่อตั้งของ Nvidia กล่าวว่า ดีมานด์นำหรับสินค้าและบริการของ Nvidia นั้นมีมากกว่าซัพพลายสำหรับทั้งปี เพราะทุกอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ การเงิน และการแพทย์ ล้วนแต่ต้องการเทคโนโลยีสำหรับ AI ดังนั้นนักลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าทั้งรายได้และกำไรของ Nvidia มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ นาย Huang ยังมองอีกว่าการแข่งขันของบริษัทเทคโนโลยีในการสร้าง Generative AI จะทำให้เกิดการลงทุนในศูนย์ข้อมูลและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปีข้างหน้า และเปิดโอกาสให้มีการสร้างรายได้และกำไรอย่างมหาศาล
ทั้งนี้ แม้ผลประกอบการจะเรียกได้ว่าออกมาดีเกินความคาดหมาย นาย Huang กล่าวว่าในช่วงปี 2023 ที่ผ่านมา รายได้ของบริษัทได้รับผลกระทบไม่น้อยจากสงครามการค้าและเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีน เพราะสหรัฐฯ สั่งแบนไม่ให้มีการส่งออกชิประดับสูงไปให้จีน และบริษัทในจีนก็ถือว่าเป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ของ Nvidia
ดังนั้น แม้หนทางสำหรับ Nvidia จะดูสดใส นักลงทุนของ Nvidia ก็ยังคงต้องจับตามองความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ระดับดีมานด์ของ AI ในตลาด และแนวทางในการทำธุรกิจของ Nvidia ต่อไป โดยในขณะนี้ Nvidia กำลังเดินสายโปรโมตให้รัฐบาลและองค์กรต่างๆ สร้างระบบ AI ของตัวเองอยู่เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ซึ่งถ้าสำเร็จก็จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรม AI เป็นอย่างมาก