ความยั่งยืน

นิวซีแลนด์ จ่อเก็บภาษีปล่อยมลพิษภาคปศุสัตว์ ทั้งเรอ ปัสสาวะ มูลสัตว์

14 ต.ค. 65
นิวซีแลนด์ จ่อเก็บภาษีปล่อยมลพิษภาคปศุสัตว์ ทั้งเรอ ปัสสาวะ มูลสัตว์
ไฮไลท์ Highlight
“นี่เป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนผ่านของนิวซีแลนด์ไปสู่อนาคตของการปล่อยมลพิษต่ำ และเป็นไปตามคำมั่นสัญญาของเราในการกำหนดอัตราการปล่อยมลพิษทางการเกษตรจากปี 2025” “ยังไม่มีประเทศใดในโลกที่พัฒนาระบบ สำหรับการกำหนดอัตราและลดการปล่อยก๊าซทางการเกษตร ดังนั้นเกษตรกรของเราจึงเป็นกลุ่มแรกที่พร้อมจะได้รับประโยชน์จากการที่เราดำเนินการเป็นประเทศแรก ”

เพิ่งเป็นข่าวไปไม่กี่วันว่า “ประเทศนิวซีแลนด์มีแผนที่จะเก็บภาษีการปล่อยมลพิษในภาคการเกษตร โดยจะเก็บภาษีจาก เรอ  ปัสสาวะ และมูลสัตว์ ของวัวและแกะ" เป็นต้น แต่ปรากฏว่าบรรดากลุ่มเกษตรกรในประเทศยังไม่เห็นด้วยเพราะแนวทางและอัตราภาษียังไม่ชัดเจนหวั่นว่า จะกระทบกับเกษตรกรที่ต้องรับภาระจากอัตราภาษีนี้

นิวซีแลนด์ จะกลายเป็นประเทศแรกของโลก หากว่าสามารถจัดเก็บภาษีจากการปล่อยมลพิษในภาคการเกษตรได้จริง เพราะในระบบการเลี้ยงสัตว์ เป็นต้นเหตุของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมามหาศาลทั้งก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ และยังมีการปล่อยก๊าซมีเทน 

ในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นของนิวซีแลนด์สนับสนุนแผนดังกล่าวนี้อย่างมาก โดยบอกว่า

“นี่เป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนผ่านของนิวซีแลนด์ไปสู่อนาคตของการปล่อยมลพิษต่ำ และเป็นไปตามคำมั่นสัญญาของเราในการกำหนดอัตราการปล่อยมลพิษทางการเกษตรจากปี 2025”

“ยังไม่มีประเทศใดในโลกที่พัฒนาระบบ สำหรับการกำหนดอัตราและลดการปล่อยก๊าซทางการเกษตร ดังนั้นเกษตรกรของเราจึงเป็นกลุ่มแรกที่พร้อมจะได้รับประโยชน์จากการที่เราดำเนินการเป็นประเทศแรก ”


รัฐบาลระบุว่า หากมีการเก็บภาษีจริงๆ รายได้จากการเก็บภาษีจะถูก“นำกลับมาใช้ใหม่ในภาคเกษตร” ผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัยใหม่มากขึ้น  การวิจัยพัฒนา และการจ่ายเงินจูงใจให้กับเกษตรกร  แนวคิดในการนำระบบดังกล่าวมาใช้ถูก บรรจุอยู่ในแผนลดการปล่อยมลพิษที่เผยแพร่ในเดือนพฤษภาคม 2022

การเลี้ยงแกะในนิวซีแลนด์

เป้าหมายของนิวซีแลนด์ คือ ต้องการดูแลปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ จึงเตรียมกำกนดอัตราภาษีการปล่อยมลพิษในภาคเกษตร เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ.2568  หรืออีก 3ปีข้างหน้า  ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของการศีกษาเกี่ยวกับการกำหนดการจัดเก็บภาษี ,ความช่วยเหลือในการเปลี่ยนแปลง และวิธีการกักเก็บมลพิษต่างๆ

ทั้งนี้เพราะภาคการเกษตรมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์มาก  รวมถึงการส่งออก แต่มันก็มีส่วนสำคัญต่อการปล่อยมลพิษของประเทศด้วยเช่นเดียวกัน โดยนิวซีแลนด์ที่มีผู้อยู่อาศัยราว 5 ล้านคน แต่มีวัวประมาณ 10 ล้านตัว และแกะถึง 26 ล้านตัว 

ฟาร์มวัวในนิวซีแลนด์

ขณะที่รัฐบาลให้คำมั่นสัญญาว่า จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ให้ได้ภายในพ.ศ. 2593  หรือ ปี  2050 ซึ่งส่วนหนึ่งของแผนดังกล่าว รวมถึงความมุ่งมั่นในการลดก๊าซมีเทนในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ให้ได้ 10% ภายในปี 2573 และลดให้ได้ถึง 47% ภายในปี 2593

เจ้าหน้าที่ในนิวซีแลนด์ระบุว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเกษตร เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ ไนตรัสออกไซด์ และมีเทน มีส่วนต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยรวมของนิวซีแลนด์มากกว่าครึ่งหนึ่ง ตามรายงานระบุว่า ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิดจากยูเรีย ในขณะที่ไนตรัสออกไซด์มาจากมูลปศุสัตว์และปัสสาวะ ส่วนมีเทนถูกปล่อยออกมาจากการเรอ 

อย่างไรก็ตามว่า แม้ว่าแผนดังกล่าวจะได้รับการสนับสนุนจากบุคคลสำคัญ อย่างนายกรัฐมนตรีของประเทศ แต่แผนการนี้ของนิวซีแลนด์ยังไม่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สมาพันธ์เกษตรกรรัฐนิวซีแลนด์ ได้ตอบโต้นโยบายนี้อย่างรุนแรง ว่าจะสร้างผลกระทบต่อเกษตรกร และอาจทำให้เกิดการย้ายฐานการเลี้ยงสัตว์ 

นอกเหนือจากนี้ แอนดรูว์ มอร์ริสัน ประธานของกลุ่มผู้เลี้ยง ทั้งเนื้อวัวและแกะ ของนิวซีแลนด์บอกว่า เราจำเป็นต้องวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่ประเด็นที่น่ากังวลอย่างหนึ่ง คือการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้มีความสำคัญอย่างมากต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงแกะและเนื้อวัว”  โดยหากเกษตรกรต้องเผชิญกับอัตราภาษีสำหรับการปล่อยมลพิษทางการเกษตรตั้งแต่ปี 2568 เป็นสิ่งสำคัญที่พวกเขาจะต้องได้รับการยอมรับด้วย รวมไปถึงวิธีการบริหารจัดการการกักเก็บมลพิษภายในฟาร์มของพวกเขาด้วย 

เลี้ยงวัว นิวซีแลนด์


advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT