positioning

ชาวไร่อ้อยบุกพรรคเพื่อไทยวันนี้ทวงเงินตัดอ้อยสด-ถอดน้ำตาลจากสินค้าควบคุม

26 มี.ค. 67
ชาวไร่อ้อยบุกพรรคเพื่อไทยวันนี้ทวงเงินตัดอ้อยสด-ถอดน้ำตาลจากสินค้าควบคุม
วันนี้(26 มี.ค.)เวลา 10.00 -13.00น. เครือข่าย 4 องค์กรชาวไร่อ้อยราว 350 คนจะเดินทางมาพรรคเพื่อไทยหลังประสานงานแล้วเพื่อเข้าพบหารือคณะผู้บริหารและรมว.ที่เกี่ยวข้อง 2 ประเด็นหลัก 1. ขอความชัดเจนเงินช่วยเหลือตัดอ้อยสดปี 2566/67 ที่กำลังจะปิดหีบแต่ยังไร้วี่แววว่าจะได้รับหรือไม่ 2. ขอให้กระทรวงพาณิชย์เลิกถอดน้ำตาลออกจากสินค้้าควบคุมด้วยการกำหนดราคาหน้าโรงงานและให้การบริหารไปยังกระทรวงอุตฯเช่นเดิมเพราะทำให้ไม่สามารถปรับตามกลไกปกติที่ควรจะได้เป็นและพบส่วนต่างราคาขายตจว.พุ่งสูงถึง 30-32 บาท/กก.

นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วันนี้(26 มี.ค.) เครือข่าย 4 องค์กรชาวไร่อ้อยประมาณ 350 คนจะเข้าพบกับคณะผู้บริหารและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องที่พรรคเพื่อไทยหลังจากที่ประสานงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อขอความชัดเจนใน 2 เรื่องหลักได้แก่ 1. เงินช่วยเหลือการตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ของปีการผลิต 2566/67 ซึ่งขณะนี้โรงงานน้ำตาลทราย 57 แห่งคาดว่าจะปิดหีบอ้อยในสิ้นมี.ค.นี้ แต่กลับไม่มีความชัดเจนถึงนโยบายดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรมซึ่งชาวไร่อ้อยส่วนใหญ่ต่างคาดว่าจะดำเนินการเช่นที่ผ่านๆมา

“ ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี(ครม.)จะอนุมัติการสนับสนุนตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่น PM2.5 วงเงิน 120 บาท/ตันผ่านการสนับสนุนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)เพราะตัดอ้อยสดใช้เงินลงทุนสูงซึ่งในฤดูการผลิตปี 2566/67 ก็ได้จนกระทั่งปิดหีบ แต่ฤดูหีบปี 66/67 กลับไม่มีนโยบายที่จะเห็นเป็นรูปธรรมว่าจะได้รับหรือไม่ทั้งที่คนตัดอ้อยสดได้ทำตามนโยบายรัฐและลงทุนสูง” นายนราธิปกล่าว

2. กรณีกระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดให้ราคาน้ำตาลทรายเป็นสินค้าควบคุม โดยกำหนดให้จำหน่ายหน้าโรงงานน้ำตาลทรายขาวธรรมดา 21 บาท/กิโลกรัม (กก.) น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ 22 บาท/กก. นั้นทำให้ไม่สามารถปรับตามกลไกการตลาดได้ ทั้งที่ข้อเท็จจริงขณะนี้ราคาหน้าโรงงานเมื่อบวกค่าขนส่งต่างๆ แล้วราคาขายปลีกเฉลี่ยจะอยู่ราว 24-25 บาท/กก. แต่เมื่อไปถึงปลายทางยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ในต่างจังหวัดเฉลี่ยขายกันอยู่ที่ 30-32 บาท/กก.ซึ่งส่วนต่างนี้เห็นว่าควรจะเป็นประโยชน์ต่อระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลที่ควรจะได้รับเพิ่ม ดังนั้นจึงเห็นว่ากลไกการควบคุมและกำหนดราคาหน้าโรงงานควรจะให้ทางกระทรวงอุตสาหรรมเป็นฝ่ายบริหารแบบปกติเช่นเดิมไม่ใช่มาควบคุม ส่วนกรณีกลัวการขาดแคลนน้ำตาลเมื่อราคาสูงรัฐก็สามารถเก็บภาษีฯส่งออกและนำเงินมามาส่งเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลไว้เพื่อดูแลเสถียรภาพราคาน้ำตาลในอนาคต

“ พร้อมกันนี้จะฝากนโยบายไว้กับพรรคเพื่อไทยถึงความชัดเจนในเรื่องของนโยบายการสนันสนุนการตัดอ้อยสดที่ชัดเจนล่วงหน้าว่าจะสนับสนุนการตัดอ้อยสดอย่างไร ที่เป็นรูปธรรมซึ่งไม่ใช่ให้ชาวไร่อ้อยมารอลุ้นแต่ละปี ทำเช่นนี้ไม่ถูกเหมือนเราจะให้รางวัลคนทำดีก็ต้องประกาศล่วงหน้าเกษตรกรจะได้มีกำลังใจที่จะดำเนินการ”นายนราธิปกล่าว

Powered By : Positioning

advertisement

SPOTLIGHT