positioning

ชาวไร่อ้อย”เตรียมบุกพรรคเพื่อไทยทวงเงินอ้อยสด-ส่วนต่างน้ำตาล5พันล.เอื้อใคร?

13 มี.ค. 67
ชาวไร่อ้อย”เตรียมบุกพรรคเพื่อไทยทวงเงินอ้อยสด-ส่วนต่างน้ำตาล5พันล.เอื้อใคร?
4 องค์กรชาวไร่อ้อยเตรียมเข้าหารือพรรคเพื่อไทยเร็วๆ นี้ทวงถาม 2 เรื่อง 1. เงินช่วยเหลือตัดอ้อยสดลดฝุ่นPM2.5 ปี 2566/67 ที่นโยบายยังไม่ชัดเจนว่าจะช่วยหรือไม่ 2. กระทรวงพาณิชย์ควบคุมราคาน้ำตาลหน้าโรงงาน21-22บ./กก.แต่ราคาตลาดจริง26-28 บาท/กก.มีส่วนต่างอยู่ถึง 5,000 ล้านบาทอยากถามว่ารัฐเอื้อประโยชน์ให้กับใครแน่ 57 โรงงาน หีบอ้อยปี 66/67 ล่าสุดปริมาณอ้อยทะลุ 80 ล้านตันอาจมีลุ้นที่ 81 ล้านตัน

นายวีระศักดิ์ ขวัญเมือง ผู้แทนชาวไร่อ้อยในคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.) เปิดเผยว่า วานนี้(12 มี.ค.) 4 องค์กรชาวไร่อ้อย ประกอบด้วย สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน สหสมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทยได้มีมติร่วมกันว่าจะไปทวงถามที่พรรคเพื่อไทยซึ่งอยู่ระหว่างการขอวันนัดเพื่อ เสนอ 2 เรื่องได้แก่ 1.เงินช่วยเหลือตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ของปีการผลิต2566/67 ซึ่งขณะนี้ใกล้สิ้นสุดฤดูการหีบอ้อยแล้วแต่กลับไม่มีความชัดเจนนโยบายรัฐบาลว่าจะช่วยเหลือหรือไม่ในขณะที่ชาวไร่ตอบสนองในเรื่องของการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม

“ ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลจะอนุมัติงบประมาณในการสนับสนุนตัดอ้อยสด ตันละ 120 บาท แก้ปัญหาเผาอ้อยไฟไหม้เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 แต่ปีนี้กลับไม่มีคำตอบที่ชัดเจนทั้งที่ชาวไร่มีต้นทุนจากการดูแลอ้อยไฟไหม้ที่เพิ่มขึ้น”นายวีระศักดิ์กล่าว

2. ตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดให้ราคาน้ำตาลทรายเป็นสินค้าควบคุมโดยกำหนดให้จำหน่ายหน้าโรงงานน้ำตาลทรายขาวธรรมดา 21 บาท/กิโลกรัม(กก.) น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ 22 บาท/กก.และราคานี้ใช้ในการคำนวณราคาอ้อยแบ่งให้กับชาวไร่อ้อยในขณะที่ราคาในท้องตลาดอยู่ที่ 26-28 บาท/กก.และราคานี้ซึ่งมีส่วนต่างอยู่ถึง 5-6 บาท/กก.เป็นเงินมากกว่า 5.000 ล้านบาทการกระทำของรัฐแบบนี้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับใคร และเงินก้อนนี้อยู่ที่ใคร

สำหรับการเปิดหีบโรงงานน้ำตาล 57 แห่งทั่วประเทศฤดูการผลิตปี 2566/67 ตั้งแต่ 10 ธ.ค.66 จนถึง 10 มี.ค. 67 ปริมาณอ้อยเข้าหีบรวมสะสมแล้วประมาณ 80,278,852 ตัน น้ำตาลทรายรวม 85,083,060.706 กระสอบ(100 กิโลกรัม.)หรือ8.508 ล้านตัน ทั้งนี้โรงงานน้ำตาลหยุดรับคิวและปิดหีบอ้อยแล้วราว 39 แห่งและได้กำหนดทยอยปิดหีบไม่เกินกลางมี.ค.นี้ทำให้ อ้อยเข้าหีบประจำวันลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือ 205,309 ตันต่อวัน อย่างไรก็ตามคาดการณ์เบื้องต้นปริมาณอ้อยเข้าหีบจะอยู่ราว 81,000,000 ตัน

“ ปริมาณอ้อยปี 2565/66 อยู่ที่ 93.88 ล้านตันปริมาณอ้อยปีนี้ก็ยังคงปรับลดลงประมาณกว่า 12 ล้านตันเนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้งในช่วงฤดูเพาะปลูก และในฤดูใหม่ปัญหาอากาศที่ร้อนจัดก็ยังคงต้องติดตามใกล้ชิดว่าจะกระทบมากน้อยเพียงใด”นายวีระศักดิ์กล่าว

สำหรับการหีบอ้อยฤดูหีบปี 2566/67 ณ 10 มี.ค. รวม 9 เขตมีปริมาณอ้อยสดอยู่ที่ 56,435,158 ตันคิดเป็น 70.30% ขณะที่อ้อยไฟไหม้อยู่ที่ 23,843,692 ตันคิดเป็น 29.70% ค่าเฉลี่ย Commercial Cane Sugar หรือ CCS อยู่ที่ 1.31 น้ำตาลต่อตันอ้อยอยู่ที่ 105.98 กิโลกรัม(กก.)

ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบปริมาณอ้อยเข้าหีบและผลผลิตน้ำตาลปี 2565/66 กับ ปี2566/67 ในจำนวนเดินเครื่องเท่ากัน ณ 10 มีนาคม 2567 ปริมาณอ้อยปี 2566/67 ลดลง 5,848,173.94 ตันหรือคิดเป็นการลดลง 6.79% CCS อยู่ที่ 12.31 ลดลง 0.92 CCS คิดเป็นการลดลง 6.93% ผลผลิตน้ำตาลต่ออ้อย 1 ตันลดลง 9.10 กิโลกรัมหรือคิดเป็นการลดลง 7.91%

“แนวโน้มราคาน้ำตาลตลาดเคลื่อนไหวในช่วง 11 มี.ค. ถึงระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ครึ่งตามการเข้ามาฃืัอน้ำตาลคืนเพื่อปิดตั๋วขาย (Short covering) หลังจากสัปดาห์ก่อนราคาลดลงถึงระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ซึ่งยังคงต้องติดตามใกล้ชิดเนื่องจากพบว่าบราซิล และอินเดียประสบปัญหาภัยแล้งซึ่งอาจทำให้ระดับราคาน้ำตาลเพิ่มขึ้นได้แต่ก็ต้องดูเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกด้วยเช่นกัน”นายวีระศักดิ์กล่าว

Powered By : Positioning

advertisement

SPOTLIGHT