ข่าวเศรษฐกิจ

น้ำมันโลกพุ่งรอบ 8 ปี ใกล้แตะ 100 เหรียญ

22 ก.พ. 65
น้ำมันโลกพุ่งรอบ 8 ปี ใกล้แตะ 100 เหรียญ

น้ำมันพุ่ง 5% แตะ 99 ดอลลาร์! คาดน้ำมัน 100 เหรียญมาแน่เร็วๆ นี้ ดีดตัวแพงสุดในรอบ 8 ปี ! ขณะตลาดการลงทุนทั่วโลกระส่ำ หลังสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนร้อนระอุ

 
 
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส สหรัฐ พุ่งขึ้นทันทีเกือบ 5% โดยบวก 4.43 ดอลลาร์ ไปอยู่ที่ 95.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งขึ้น 4.13% หรือ 3.95 ดอลลาร์ ไปอยู่ที่ 99.34 ดอลลาร์/บาร์เรล แล้วเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ตามเวลาในไทย ซึ่งนับเป็นการดีดตัวขึ้นแพงสุดในรอบ 8 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา
 
 
ราคาน้ำมันโลกขยับขึ้นแรงทันทีหลังความตึงเครียดระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน ปะทุหนักสุดวันนี้ เมื่อประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน สั่งทหารเคลื่อนพลเข้าไปใน 2 เมืองทางตะวันออกของยูเครน คือ โดเนทสก์ (Donetsk) และ ลูฮันสก์ (Luhansk) โดยอ้างว่าเพื่อเข้าไปช่วยรักษาความสงบเรียบร้อย หลังจากที่เพิ่งลงนามรับรองเอกราชของ 2 เมืองดังกล่าว ซึ่งเป็นเมืองที่มีกลุ่มแบ่งแยกดินแดน(ฝักใฝ่รัสเซีย) ยึดครองอยู่
 
 
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เรียกประชุมฉุกเฉินทันที ขณะที่สหรัฐเตรียมพร้อมประกาศ "คว่ำบาตร" รัสเซีย เช่นเดียวกับที่ยุโรปกำลังพิจารณาว่าจะคว่ำบาตรรัสเซียด้วยหรือไม่
 
 
แต่ในขณะที่สถานการณ์ยัง "คลุมเครือ" ว่า การส่งทหารไป 2 เมืองชายแดนตะวันออกดังกล่าว จะถือว่าเป็นการส่งทหารโจมตียูเครน หรือไม่นั้น ความกังวลนี้ก็ได้สั่นสะเทือนการลงทุนทั่วโลกไปแล้ว โดยเฉพาะตลาดน้ำมัน ในฐานะที่รัสเซีย เป็นผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ "รายใหญ่ที่สุด" ไปยังยุโรปในปีที่แล้ว
 
 
แอนดี ลิโปว์ ประธานบริษัท Lipow Oil Associates คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันโลกอาจพุ่งทะลุไปถึง 110 ดอลลาร์/บาร์เรล หากวิกฤตการณ์รัสเซีย-ยูเครน รุนแรงขึ้น เพราะรัสเซียอาจตอบโต้ด้วยการระงับการส่งน้ำมันไปยุโรป ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่วันละ 3 ล้านบาร์เรล ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ ราคาน้ำมันโลกอาจขยับเพิ่มขึ้นอีก 10 - 15 ดอลลาร์ และทำให้เบรนท์ขึ้นไปแตะ 110 ดอลลาร์/บาร์เรลได้
 
 
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันโลกในปี 2022 ขยับขึ้นไปแล้วถึงกว่า 20% และหากนับตั้งแต่ต้นปี 2021 ราคาน้ำมันแพงขึ้นไปแล้วถึงกว่า 80%
 
 
แม้ในอีกด้านหนึ่ง จะได้น้ำมันจาก "อิหร่าน" มาชดเชย เพราะกำลังมีการพยายามฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านที่เคยถูกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ฉีกทิ้งไปกลับคืนมา แต่ก็คาดว่าจะช่วยด้านซัพพลายน้ำมันได้แค่วันละกว่า 1 ล้านบาร์เรล เท่านั้น ดังนั้น ตลาดจึงน่าจะหันไปหา ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ และคูเวต ซึ่งเป็น 3 ประเทศใหญ๋ในกลุ่มโอเปกแทน ซึ่งคาดว่าจะมีน้ำมันสำรองชดเชยแทนได้ประมาณ 3.5 - 4 ล้านบาร์เรล/วัน
 
 
 

สรุปภาวะตลาดทุนอื่นๆ  

 

ตลาดหุ้นเอเชีย

  • ดัชนีนิกเกอิ (NIKKEI) ปิดตลาดที่ระดับ 26,449.61 จุด ร่วงลง 461.26 จุด หรือ -1.71% ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.
  • ดัชนีฮั่งเส็ง (HSI) ปิดวันนี้ที่ 23,520 จุด ลดลง 650.07 จุด หรือ -2.69%
  • ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดวันนี้ที่ 2,706.79 จุด ลดลง 37.01 จุด หรือ -1.35%
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ปิดวันนี้ที่ 3,457.15 จุด ลดลง 33.47 จุด หรือ -0.96%
  • ดัชนี SET Index ปิดตลาด อยู่ที่ระดับ 1,691.12 จุด ปรับลง -3.2 จุด หรือคิดเป็น -0.19%

ทองคำในประเทศ


- ราคาทองวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงถึง 7 ครั้ง หลังจากเปิดตลาดเมื่อเช้าพุ่งขึ้น 350 บาท
- ราคาทองรูปพรรณ ขายออก 29,650 บาท
- ราคาทองคำแท่ง รับซื้อ 29,050 บาท ขายออก 29,150 บาท
 


ทองคำต่างประเทศ


- ราคาทองสปอตเมื่อช่วงเช้า พุ่งสูงสุดในรอบ 9 เดือน ไปอยู่ที่ 1,913.89 ดอลลาร์/ออนซ์ ก่อนที่ช่วงบ่ายจะลดลงมาอยู่ที่ 1,909.60 ดอลลาร์/ออนซ์
- ราคาทองฟิวเจอร์ส สหรัฐ ช่วงบ่าย บวก 0.6% ไปอยู่ที่ 1,911.50. ดอลลาร์/ออนซ์

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT