ข่าวเศรษฐกิจ

หวั่น กระทบเปิดประเทศ เอเชีย-แปซิฟิก

6 ธ.ค. 64
หวั่น กระทบเปิดประเทศ เอเชีย-แปซิฟิก

"ประเทศไทย" พบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ "โอมิครอน" เป็นครั้งแรกแล้ว โดยพบในชาวอเมริกันที่เดินทางมาจากสเปน ทำให้ทั่วโลกพบโอมิครอนแล้วใน 47 ประเทศ/พื้นที่ทั่วโลก นำโดยสหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบันลามไปใน 17 รัฐทั่วประเทศแล้ว

 

ส่วนในภูมิภาค "เอเชีย-แปซิฟิก" พบไปแล้วใน 9 ประเทศ/พื้นที่ ได้แก่
 
  •  ไทย
  • มาเลเซีย
  • สิงคโปร์
  • ฮ่องกง
  • ญี่ปุ่น
  • เกาหลีใต้
  • อินเดีย
  • ออสเตรเลีย
  • สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (UAE)
 
CNN รายงานว่า การพบโควิดกลายพันธุ์โอมิครอนนั้น อาจส่งผลกระทบต่อนโยบายการกลับมาเปิดประเทศของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งการเดินทางและการท่องเที่ยวถือเป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ โดยปัจจุบัน มีการดำเนินการ 2 แนวทางหลักๆ คือ 1. เลื่อนแผนเปิดประเทศ และ 2. รอดูท่าทีก่อนจะประกาศแนวทางใหม่ออกมา
 
 
 กลุ่มเลื่อนเปิดประเทศ
 
 "ญี่ปุ่น" เป็นหนึ่งในประเทศที่ใช้มาตรการสกัดโอมิครอนรุนแรงที่สุด โดยปิดพรมแดนกับผู้ที่ไม่ได้ถือสัญชาติญี่ปุ่น แทบจะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน-นักศึกษา นักธุรกิจ หรือผู้ที่ต้องการมาเยี่ยมญาติและครอบครัวในญี่ปุ่นก็ตาม
ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นเพิ่งใช้มาตรการสกัดโอมิครอนแบบ "หว่านแห" ด้วยการขอให้ทุกสายการบินระงับการขายตั๋วขาเข้าประเทศ ซึ่งครอบคลุมถึงพลเมืองชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในต่างประเทศเองด้วย แต่ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจนต้องกลับลำยกเลิกแผนนี้ตามมา โดยญี่ปุ่นเปิดทางให้พลเมืองและชาวต่างชาติที่ได้สิทธิพำนักให้เข้าประเทศได้ ภายใต้มาตรการกักกันอย่างเข้มงวด
 
 
-"ออสเตรเลีย" ซึ่งเพิ่งจะทยอยเปิดประเทศบางส่วนเมื่อเดือนที่แล้ว ก็ได้ประกาศชะลอแผนการเปิดประเทศออกไปเช่นกัน โดยชะลอแผนที่จะรับนักเรียน-นักศึกษา และชาวต่างชาติที่จะเข้ามาทำงาน ออกไปอีก 2 สัปดาห์เพื่อประเมินสถานการณ์ใหม่อีกครั้ง และยังห้ามพลเมืองจากหลายประเทศในแอฟริกาเดินทางเข้าประเทศด้วย ส่วนผู้ที่ได้รับยกเว้น เช่น เจ้าหน้าที่รัฐที่มีกิจธุระ ก็จะต้องอยู่ภายใต้มาตรการกักตัวอย่างเข้มงวด
 
 
- "ฟิลิปปินส์" ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจพึ่งพาภาคการท่องเที่ยวอย่างหนัก ได้ระงับแผนเปิดประเทศออกไปก่อน หลังจากก่อนหน้านี้ในเดือน พ.ย. ฟิลิปปินส์เพิ่งประกาศเตรียมเปิดประเทศเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว
 
 
 กลุ่มรอดูท่าที (Wait and see)
 
- "สิงคโปร์" ซึ่งเคยเป็นต้นแบบการเปิดประเทศของภูมิภาคนี้ ด้วยการใช้มาตรการเลนพิเศษ Vaccinated Travel Lane (VTL) กับบางประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีน MRNA สูงนั้น ปัจจุบันยังไม่ได้ยกเลิกวิธีนี้ และยังขอรอดูท่าทีเพื่อประเมินสถานการณ์ก่อน โดยปัจจุบัน สิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนแล้ว 2 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งคู่ อย่างไรก็ดี แพทย์ในสิงคโปร์เคยแสดงความกังวลเอาไว้ว่า โอมิครอนเป็นโควิดสายพันธุ์ที่มีการแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าสายพันธุ์เดลตา และคาดว่าจะแพร่ระบาดไปทั่วโลกภายในช่วง 3 - 6 เดือนนี้
 
- แม้จะยังไม่เปลี่ยนท่าที แต่"จีน" ก็เป็นประเทศที่ใช้นโยบายคุมโควิดอย่างเข้มงวดอยู่แล้วแบบ Zero-Covid โดยแทบจะไม่เปิดรับชาวต่างชาติเข้าประเทศ และไม่เปิดให้ชาวจีนเองออกไปท่องเที่ยวในต่างประเทศเช่นกัน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อในเซี่ยงไฮ้ นพ. จาง เวินหง ประเมินว่าจีนมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวดอยู่แล้ว โอมิครอนจึงไม่น่าจะทำให้จีนเปลี่ยนแปลงนโยบายตามมาในเร็วๆ นี้

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT