ยังมีหวัง จีนเปิดประเทศปีหน้า! โกลด์แมน แซคส์ คาด หุ้นจีนพุ่งแน่ 20%

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวลือเรื่องการผ่อนคลายมาตรการโควิดรวมถึงข่าวการเปิดประเทศของจีนส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนอย่างมาก ข่าวลือดังกล่าวระบุว่า ขณะนี้ทางการจีนมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุดเพื่อพิจารณา และ ศึกษาเปรีบเทียบกรณีการผ่อนคลายมาตรการโควิดของประเทศต่างๆในโลก และเป็นไปได้ว่าจีนอาจจะค่อยๆผ่อนคลายและเปิดประเทศในช่วงต้นปีหน้า  ทั้งราคาหุ้น และราคาน้ำมัน ต่างปรับขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะนักลงทุนต่างมีความหวังว่า ประเทศเศรษฐกิจใหญ่เบอร์ 2 ของโลกกำลังจะกลับกอบกู้เศรษฐกิจโลกอีกครั้ง

แต่ความหวังเป็นอันต้องดับลง เมื่อโฆษกคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) ออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลปักกิ่งจะยึดมั่นในการบังคับใช้นโยบาย ‘โควิดเป็นศูนย์’ ต่อไป ซึ่งหมายรวมถึง การบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ กักตัวและการปูพรมตรวจหาเชื้ออย่างเข้มงวด เนื่องจากในตอนนี้ยังคงเผชิญภัยคุกคาม 2 ด้าน ทั้งจากผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้าจีนและจากการแพร่ระบาดในประเทศนั่นเอง 

มุมมองจากนักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ มองว่า อาจจะต้องรออีกหลายเดือนกว่าที่จีนจะเปิดเมืองอย่างแท้จริง เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในกลุ่มคนสูงอายุนั้นยังคงอยู่ในระดับต่ำ และอัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ของผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนก็อยู่ในระดับสูง โดยอิงตามข้อมูลอย่างเป็นทางการของฮ่องกง

‘Kinger Lau’ หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านหุ้นจีน ยังคาดการณ์ว่า จีนจะกลับมาเปิดเมืองอีกครั้งในช่วงไตรมาส 2/2566 โดยการเปิดเมืองของจีนจะถือเป็นข่าวดีสำหรับตลาดหุ้น โดยหุ้นอาจจะพุ่งขึ้นก่อนที่จะมีการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการสกัดโควิด-19 จริง

"เราประเมินว่าการเปิดเมืองอย่างเต็มรูปแบบของจีนจะช่วยหนุนให้หุ้นจีนปรับตัวขึ้น 20%" นักกลยุทธ์ของโกลด์แมน แซคส์ ซึ่งรวมถึงนายคิงเกอร์ เหล่า กล่าว นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์เชื่อว่า จีนจะยึดมั่นต่อนโยบายโควิดเป็นศูนย์ไปจนกว่ามีความพร้อมทางการแพทย์แล้ว 

ปัจจัยบวกเหล่านี้ เชื่อว่า อาจส่งผลให้นักลงทุนจะเข้าซื้อขายล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน ก่อนการเปิดประเทศจริง โดยแรงผลักดันเชิงบวกดังกล่าวจะคงอยู่เป็นเวลา 2 - 3 เดือน และอาจส่งผลเพิ่มขึ้นอีก หากแรงผลักดันด้านการเปิดประเทศเพิ่มสูงขึ้น

อย่างไรก็ตามคงต้องตามดูสถานการณ์ผู้ติดเชื้อกันต่อไป เพราะล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ของจีน ยังอยู่ที่ระดับราว 3,500 คน และก่อนหน้านี้ทางการยังคงมีคำสั่งล็อคดาวน์หลายพื้นที่ในประเทศต่อไป 

 

ที่มา : Bloomberg, Yahoo Finance, CNBC, Xinhua