ทองไทยพุ่งไม่หยุด ทองแท่งแตะบาทละ 57,000 JP Morgan เตือนอาจเป็นฟองสบู่
ราคาทองคำไทยวันนี้ (23 ก.ย. 68) เคลื่อนไหวผันผวน 15 ครั้ง โดยแม้จะราคาจะปรับลดลง 2 รอบระหว่างวัน แต่กระแสแรงซื้อที่หนาแน่นกลับหนุนให้ราคาทะยานขึ้นต่อเนื่องจนปิดในแดนบวกอย่างแข็งแกร่ง ทองคำแท่งปิดขายออกที่ 57,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่ทองรูปพรรณพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุด 57,800 บาท ทั้งนี้ JP Morgan ได้ออกมาเตือนว่า ราคาทองคำโลกอาจกำลังเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ เนื่องจากแรงขับเคลื่อนหลักมาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนมากกว่าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตลาดเปิดเช้าวันนี้ด้วยราคาทองแท่งรับซื้อ 56,400 บาท ขายออก 56,500 บาท และทองรูปพรรณขายออก 57,300 บาท ก่อนที่แรงซื้อจะเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาค่อย ๆ ขยับขึ้น ในช่วงบ่ายราคาทองแท่งขยับอยู่ที่ราว 56,600-56,950 บาท ส่วนทองรูปพรรณขายออกเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 57,400-57,750 บาท สะท้อนถึงความต้องการลงทุนที่ยังคงแข็งแกร่ง
จนกระทั่งปิดตลาดช่วงเย็น ราคาทองแท่งแตะรับซื้อ 56,900 บาท ขายออก 57,000 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณขายออกขึ้นไปถึง 57,800 บาท เทียบกับช่วงเช้าที่เปิดตลาด สะท้อนกระแสการเก็งกำไรและแรงซื้อที่เข้มข้นอย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจัยหนุนจากต่างประเทศ
บทวิเคราะห์จากฮั่วเซ่งเฮง ระบุว่า ราคาทองคำในตลาดโลกวันนี้ดีดตัวขึ้นตามแรงหนุนจากความกังวลทางการเมืองสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่ามีความเป็นไปได้สูงที่หน่วยงานรัฐบาลอาจเผชิญกับภาวะ Shut Down เนื่องจากยังไร้ข้อสรุปด้านงบประมาณ แม้ว่าทรัมป์จะมีการนัดหารือกับพรรคเดโมแครตในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ แต่ยังคงเป็นไปได้ยากที่จะได้ข้อตกลงที่ชัดเจน
สาเหตุหลักมาจากร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว (stopgap/CR) ที่พรรครีพับลิกันผลักดันเพื่อคงการเปิดหน่วยงานรัฐไปจนถึงวันที่ 21 พ.ย. แต่กลับถูกพรรคเดโมแครตระงับไว้ สถานการณ์นี้สร้างแรงกดดันต่อตลาดการเงิน และหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ในเวลาเดียวกัน ประธานเฟดสาขา เซนต์หลุยส์ แอตแลนตา และคลีฟแลนด์ ต่างเตือนว่าเฟดจำเป็นต้องระมัดระวังอย่างมากในการดำเนินนโยบายการเงิน โดยเฉพาะการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงและยังไม่ลดลงต่ำกว่า 2% ตามเป้าหมาย
ขณะที่ฝั่งสถาบันการเงิน Jamie Dimon ซีอีโอของ JP Morgan ได้ออกมาเตือนอย่างชัดเจนว่า ราคาทองคำในรอบนี้อาจกำลังเข้าสู่ “ฟองสบู่” เพราะการปรับขึ้นร้อนแรงเป็นผลจากแรงหนุนด้านความเชื่อมั่นและการเก็งกำไรมากกว่าพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่รองรับ
ตัวเลขเศรษฐกิจและแนวโน้มราคา
สำหรับปัจจัยที่อาจส่งผลต่อราคาทองในระยะถัดไป ฮั่วเซ่งเฮงระบุว่า นักลงทุนยังต้องจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะประกาศในคืนนี้อย่างใกล้ชิด ได้แก่
- เวลา 20.45 น. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและบริการ เดือนก.ย.
- เวลา 21.00 น. ดัชนีภาคการผลิตสาขาริชมอนด์ เดือนก.ย.
- เวลา 23.35 น. การแถลงของ เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด
ตัวเลขเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางค่าเงินดอลลาร์และราคาทองคำโลก ซึ่งจะส่งผลต่อราคาทองคำไทยโดยตรง
ด้านการวิเคราะห์เชิงเทคนิค ราคาทองคำโลกยังยืนเหนือแนวรับที่ 3,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยังรักษาระดับนี้ไว้ได้ มีโอกาสขยับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3,770 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดลงต่ำกว่าแนวรับถัดไปที่ 3,715 ดอลลาร์ ก็มีความเสี่ยงที่ราคาจะเข้าสู่ขาลง และอาจสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำไทยในระยะถัดไป
