นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ตามที่กรมสรรพากร ได้เปิดรับฟังมุมมอง ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ จากหน่วยงานและผู้เชี่ยวชาญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง กรณีแนวทางการจัดเก็บภาษีสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น กรมสรรพากรจะมีการปรับเปลี่ยนในบางประเด็น เพื่อรองรับกับรูปแบบธุรกรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น โดยจะมีการกำหนด "รูปแบบของภาษีเงินได้ภายใต้กฎหมายปัจจุบัน" และมีการดำเนินการ "ผ่อนปรน" หลายประการภายใต้กฎหมายปัจจุบัน
ทีมข่าว SPOTLIGHT สรุปรายละเอียดเบื้องต้นมาให้ ดังนี้
การ "ผ่อนปรน" เรื่องวิธีการคำนวณภาษีฯ
กรมสรรพากรจะดำเนินการผ่อนปรนภายใต้กฎหมายปัจจุบัน และยังอยู่ภายในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของกรมสรรพากรที่สามารถดำเนินการได้ โดยแบ่งออกเป็น ภาษีเงินได้, ภาษีหัก ณ ที่จ่าย, และภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามรายละเอียด ดังนี้
การกำหนดรูปแบบของภาษีเงินได้ภายใต้กฎหมายปัจจุบัน ตามแนวทางดังนี้
ทั้งนี้ รายละเอียดต่างๆ จะมีอยู่ในคู่มือการชำระภาษีของผู้มีเงินได้จากการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งทางกรมสรรพากรกำลังพิจารณาร่วมกับ สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย และสมาคมการค้าผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย และจะดำเนินการเผยแพร่ในวันที่ 31 มกราคม 2565
นายเอกนิติ กล่าวว่า กรมสรรพากร จะพิจารณาหารือร่วมกับชุมชนสินทรัพย์ดิจิทัล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาความเป็นไปได้เชิงนโยบายในอนาคต เพื่อแก้ไขกฎหมายที่จำเป็นและเหมาะสม อาทิ
1. การแก้ประมวลรัษฎากร มาตรา 50 ที่เกี่ยวกับภาษีหัก ณ ที่จ่าย โดยให้ผ่านผู้ประกอบธุรกิจ หรือ Exchange เป็นผู้หัก และนำส่งกรมสรรพากร
2. การเปลี่ยนประเภทการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นภาษีธุรกิจเฉพาะ (Financial Transaction Tax) สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีลักษณะเป็นหลักทรัพย์ เป็นต้น
ทั้งนี้ต้องดูความเหมาะสมและบริบทต่าง ๆ โดยรอบอีกครั้ง
"การทำงานร่วมกับชุมชนธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งภาครัฐและเอกชน ทำให้กรมสรรพากรได้มีโอกาสรับฟังความคิดเห็น และนำผลของข้อมูลต่างๆ มาพิจารณาการบริหารการจัดเก็บภาษีที่ตอบสนองต่อความต้องการของทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการร่วมกันที่จะทำให้กฎหมายภาษีอากร ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย และยังคงรักษาหลักการจัดเก็บภาษีอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม โดยยึดถือประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ" อธิบดีกรมสรรพากร ระบุ
ทั้งนี้ สำหรับการจัดส่งแบบสอบถามให้ทุกฝ่ายที่อยู่ในชุมชนสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ในเรื่องการจัดเก็บภาษีจากสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น มีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามกว่า 3,000 ราย โดย 82% เป็นผู้มีเงินได้จากธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่มีเงินได้จากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ซื้อมาเพื่อเก็งกำไร โดยเกือบ 90% ทราบมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเองอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ดี การประกอบธุรกิจและการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก โดยเฉพาะในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นจาก 240 ล้านบาท เป็น 4,839 ล้านบาท
ขณะที่มูลค่าทรัพย์สินของลูกค้า เพิ่มขึ้นจาก 9,600 ล้านบาท เป็น 114,539 ล้านบาท และมีจำนวนบัญชีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นจาก 1.7 แสนราย เป็น 1.98 ล้านราย รวมถึงวิวัฒนาการเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และรูปแบบการทำธุรกรรมต่างๆ มีความหลากหลายและปรับเปลี่ยนรวดเร็วมากตลอดเวลา
ทั้งนี้ กรมสรรพากร ระบุว่า ดำเนินการต่างๆ ยึดแนวทางการถือเอาผู้เสียภาษีเป็นศูนย์กลาง (Taxpayer - Centric)