ข่าวเศรษฐกิจ

ไฟป่าไหม้ 'ฮาวาย' คาดศก.เสียหาย 5.6 แสนล้านบาท มากกว่า GDP ของทั้งเกาะเมาวี

16 ส.ค. 66
ไฟป่าไหม้ 'ฮาวาย' คาดศก.เสียหาย 5.6 แสนล้านบาท มากกว่า GDP ของทั้งเกาะเมาวี

ผู้เชี่ยวชาญคาด ไฟป่า ‘ฮาวาย’ จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้ฮาวายถึง 1.4-1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4.9-5.6 แสนล้านบาท มากกว่า GDP ของเกาะเมาวี (Maui) ทั้งเกาะ และคิดเป็น 15% ของ GDP ของฮาวาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งกู้ซาก พบแล้ว 101 ศพ สูญหาย 1,300 คน 

เหตุไฟป่าไหม้ครั้งใหญ่ในเมือง ฮาไลนา (Halaina) บนเกาะเมาวี รัฐฮาวายในครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ไฟป่าที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรอบ 100 ปี ในสหรัฐฯ แซงหน้าเหตุการณ์ไฟไหม้ลุกลามจากถนน Camp Creek Road ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 2018 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 85 คน 

ไฟป่าในครั้งนี้กินอาณาเขตพื้นที่ถึง 2,200 เอเคอร์ สร้างความเสียหายแก่อาคารบ้านเรือนและธุรกิจในพื้นที่กว่า 3,500 อาคาร คิดเป็นมูลค่าเสียหายทางเศรษฐกิจจำนวนมหาศาล

100copy3

โดยจากข้อมูลของ Karen Clark & Company (KCC) บริษัทให้บริการโซลูชั่นด้านการจัดการภัยพิบัติ มูลค่าความเสียหายของทรัพย์สินที่มีการประกันในเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้นั้นสูงถึง 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.1 แสนล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของหมู่เกาะฮาวาย เป็นรองจากความเสียหายในเหตุพายุเฮอร์ริเคนอินิกิ (Iniki) ในปี 1992

อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นเพียงความเสียหายของทรัพย์สินที่มีการประกันเท่านั้น ยังไม่รวมถึงความเสียหายจากทรัพย์สินที่ไม่มีประกัน รวมไปถึงความเสียหายกับเศรษฐกิจในระยะยาวเช่น ความเสียหายของโครงสร้างพื้นฐาน ที่ต้องใช้เงินฟื้นฟูมากมาย และกระทบรายได้จากการท่องเที่ยวซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักในพื้นที่

55copy

 

เสียหายหนักถึง 5.6 แสนล้าน เสียโอกาสทางธุรกิจยาวนาน

จากการประเมินของ AccuWeather บริษัทให้บริการพยากรณ์อากาศ ไฟป่าฮาวายในครั้งนี้จะสร้างความเสียหาย และค่าเสียโอกาสทางธุรกิจในอนาคตให้กับฮาวายถึง 1.4-1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4.9-5.6 แสนล้านบาท 

โดยความเสียหายก่อนนี้ คิดมาจากทั้ง ความเสียหายกับทรัพย์สินที่มีการประกัน ความเสียหายกับทรัพย์สินที่ไม่มีการประกัน ความเสียหายในพื้นที่เพาะปลูก ความเสียหายในห่วงโซ่อุปทาน รายได้ที่เสียไปของคนในพื้นที่ ความเสียหายจากไฟลท์ที่ต้องแคนเซิล ค่าฟื้นฟูสถานที่ ค่าฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน ความเสียหายด้านสุขภาพ รวมไปถึงความเสียหายระยะยาวจากการเสียโอกาสในการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวซึ่งเป็นแหล่งที่มาของรายได้ถึง 75% ของเกาะเมาวี

AccuWeather คาดว่าการท่องเที่ยวของเมืองและเกาะน่าจะใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีกว่าจะฟื้นตัวขึ้นมาได้ถึงระดับปกติ เพราะไฟไหม้ทำให้โครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูโภคของเมืองเสียหายทั้งหมด ซึ่งใช้เวลาพอสมควรกว่าจะสร้างขึ้นมาให้เหมือนเดิมได้

223

55_3

 

ยังไม่รู้ต้นเหตุไฟ เจ้าหน้าที่เร่งกู้ร่างผู้เสียชีวิต

สำหรับต้นเหตุไฟป่าในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดมาจากสาเหตุอะไร และกำลังเร่งสอบสวนอยู่ แต่คาดว่าสาเหตุที่ทำให้ไฟรุนแรงมากจนไม่สามารถจัดการได้เป็นเพราะในพื้นที่มีหญ้าแห้งมากซึ่งเป็นเชื้อเพลิง รวมไปถึงมีลมแรงจากพายุเฮอร์ริเคนความเร็วถึง 1.6 กิโลเมตรต่อนาทีที่เพิ่งพัดผ่านเกาะไป

จากการรายงานของสื่อต่างประเทศ หน่วยงานบนเกาะไม่ได้เปิดเสียงไซเรนเพื่อแจ้งเตือนเหตุไฟไหม้ให้กับประชาชนรับรู้ แต่ใช้วิธีสื่อสารทางโซเชียลมีเดีย และอินเทอร์เน็ต แต่ไฟไหม้ทำให้เกิดไฟดับจนสัญญาณอินเทอร์เน็ตขาดไป จนทำให้ประชาชนไม่สามารถรับรู้ข่าวสารได้อย่างทันท่วงที

ในขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งกู้ร่างผู้เสียอยู่ โดยใช้สุนัขดมกลิ่นหาร่างมนุษย์ช่วย ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ค้นหาไปแล้ว 32% ของพื้นที่ทั้งหมด พบแล้วทั้งหมด 101 ศพ แต่คาดว่าผู้เสียชีวิตจริงจะมากกว่านี้ เพราะพบว่ามียอดผู้สูญหายถึงประมาณ 1,300 คน และการที่ศพถูกไฟเผาไหม้ทำให้ยากแก่การแยกร่างมนุษย์ออกจากเถ้าของสิ่งปลูกสร้างและข้าวของอื่นๆ และถึงพบก็ยากแก่การระบุตัวตนเพราะไฟจะทำลายรอยนิ้วมือ ร่องรอยชี้ตัวบนร่างกาย และเอกสารระบุตัวตนต่างๆ บนร่างของผู้เสียชีวิตไปด้วย

100copy6

777_3



อ้างอิง: BBCAccuWeather, Reuters 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT