ข่าวเศรษฐกิจ

ค่าเงินบาท ยังผันผวนสูง หลัง FED ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

8 มี.ค. 66
ค่าเงินบาท ยังผันผวนสูง หลัง FED ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

หลังการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่อคณะกรรมาธิการประจำวุฒิสภาในช่วงข้ามคืนเป็นการส่งสัญญาณว่า FED อาจขึ้นดอกเบี้ยได้เร็วและมากกว่าคาด หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังสะท้อนความแข็งแกร่งและเงินเฟ้อยังทรงตัวในระดับสูง ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า FED อาจกลับมาดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น และทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับแข็งค่าขึ้น 1.2% ขณะที่เงินบาทปรับอ่อนค่าลง 1.5% ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของเงินสกุลภูมิภาคที่อ่อนค่าระหว่าง 0.3% - 1.7%

.

เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ 35.07 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

เจอโรม พาวเวล

นางสาวพิมพ์พันธ์ เจริญขวัญ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา เงินบาทและสกุลเงินภูมิภาคเคลื่อนไหวผันผวนทั้ง 2 ทิศทางตามภาวะตลาดการเงินโลก จากปัจจัยความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นในการดำเนินนโยบายการเงินสหรัฐฯ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนหลังการเปิดประเทศ 

ขณะที่เงินทุนเคลื่อนย้ายโดยรวมตั้งแต่ต้นปี 2566 นักลงทุนต่างชาติมีฐานะขายสุทธิในสินทรัพย์ไทยประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ โดยเป็นการขายสุทธิในตลาดพันธบัตรที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์ และตลาดหุ้น 0.8 พันล้านดอลลาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 3 มี.ค. 2566) แบงก์ชาติมองว่า ในระยะข้างหน้า ตลาดการเงินโลกและค่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มผันผวนสูงโดยเคลื่อนไหวได้ทั้ง 2 ทิศทาง จากการปรับเปลี่ยนการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ทั้งนี้ ภาคเอกชนจึงควรพิจารณาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดการเงินที่ยังคงอยู่ในระดับสูง

นางสาวพิมพ์พันธ์ เจริญขวัญ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เ
นางสาวพิมพ์พันธ์ เจริญขวัญ
ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย 

เช่นเดียวกับมุมมองของ นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า บรรดาผู้เล่นในตลาดการเงินสหรัฐฯ ต่างกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟดมากขึ้น สะท้อนจากการปรับเพิ่มโอกาสที่เฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ย +0.50% ในการประชุมเดือนมีนาคมนี้สู่ระดับเกือบ 70% (จากเพียง 30% ในวันก่อนหน้า) และผู้เล่นในตลาดก็มองว่าเฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยจนแตะระดับ 5.75% ภายในการประชุมเดือนมิถุนายน

ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หนุนโดยมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เชื่อว่าเฟดอาจใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ อาทิ ยอดการจ้างงานภาคเอกชนที่สำรวจโดย ADP รวมถึงข้อมูลสำคัญ อย่าง ยอดตำแหน่งงานเปิดรับ (JOLTS Job Openings) ที่ช่วยสะท้อนถึงความต้องการแรงงานในสหรัฐฯ ได้

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า การแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ รวมถึงการย่อตัวลงของราคาทองคำใกล้โซนแนวรับ คือ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็วทะลุ โซนแนวต้านระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์

อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินบาทอาจไม่รุนแรงมาก เนื่องจากผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจทยอยขายทำกำไรสถานะ Long USDTHB (มองเงินบาทอ่อนค่า) ได้บ้าง ทว่า ต้องจับตาทิศทางฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติ ว่าจะกลับมาขายสินทรัพย์ไทยมากขึ้น หรือไม่

ความผันผวนของตลาดการเงินยังอยู่ในระดับสูง (ค่าเงินบาทผันผวนในระดับ 9%-10% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมาที่ระดับ 5% เป็นอย่างมาก) ทำให้เรามองว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT