สมาคมการค้ายาสูบไทย ได้เปิดเผยผลสำรวจออนไลน์ พบว่า มีการกล่าวถึง และสนทนาถามซื้อ รวมการเสนอขายผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เกี่ยวกับ “บุหรี่เถื่อน” ในระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม สิงหาคม และกันยายน 2565  มีความเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 97% โดยช่องทางที่ถูกใช้เพื่อพูดถึงเรื่องบุหรี่เถื่อนมากที่สุด คือ 

• ทวิตเตอร์ 91% 
•  เฟซบุ๊ก9% 
• เว็บบอร์ด 1% 

ทั้งนี้พบว่า คีย์เวิร์ดที่มีการใช้พูดคุย หรือค้นหามากที่สุดคือ ได้แก่ บุหรี่นอก และบุหรี่ต่างประเทศ

โดยนางสาวธัญญศรัณ แสงทอง ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการค้ายาสูบไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัญหาบุหรี่เถื่อนในช่องทางออนไลน์เป็นภัยออนไลน์ใกล้ตัวที่ระบาดหนักมาก เพราะต้นทุนต่ำ ไม่ต้องมีหน้าร้านให้ถูกเจ้าหน้าที่ได้เพ่งเล็ง และสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ตรงตามความต้องการ ทำให้การจับกุมปราบปรามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศุลกากร และสรรพสามิต เป็นไปได้ยาก เพราะส่วนใหญ่จะเน้นการจับกุมร้านค้ารายย่อยทั่วไป

อย่างไรก็ตาม จากการที่ได้เก็บข้อมูลการที่มีการโพสต์หรือพูดคุยกันในซื้อขายบุหรี่เถื่อน ทำให้ทราบว่าสาเหตุหลัก 3 ประการที่ทำให้บุหรี่เถื่อนเป็นที่นิยมสำหรับลูกค้าในโลกออนไลน์ คือ

• ราคาที่ถูกกว่าบุหรี่ที่ขายแบบถูกกฎหมาย รสชาติ 
• ช่องทางซื้อขายที่ง่าย และสะดวก
• ภาษีบุหรี่ที่สูงขึ้นทำให้บุหรี่ถูกกฎหมาย ราคาแพงขึ้นจากประมาณ 50 บาท เป็นขั้นต่ำอยู่ที่ราคา 66 บาท

“บุหรี่เถื่อนออนไลน์มีทั้งที่เป็นแพลตฟอร์มเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และทวิตเตอร์ ยังไม่รวมร้านค้าบนแอปพลิเคชันไลน์ที่มีจำนวนมาก เป็นรูปแบบการขายที่ท้าทายการควบคุมของภาครัฐ แม้ว่าจะมีกฎหมายห้ามโชว์บุหรี่หรือห้ามลดราคาเพื่อเป็นการป้องกันการโฆษณาสินค้าเพื่อจูงใจ แต่การขายออนไลน์สามารถทำได้ทุกอย่าง อีกทั้งยังไม่สามารถตรวจสอบอายุผู้ซื้อผู้ขายได้ มีทั้งที่ไม่ติดแสตมป์สรรพสามิตและติดแสตมป์ปลอม ทำให้ระบบการควบคุมของรัฐไม่เป็นผล เพราะมุ่งแต่ควบคุมผู้ประกอบการที่ถูกกฎหมาย ส่วนผู้ประกอบการที่ผิดกฎหมายไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการติดภาพคำเตือน การติดแสตมป์ หรือการจะติดระบบติดตามและแกะรอยใดๆ เพราะสินค้าเหล่านี้ไม่อยู่ในระบบ และมีต้นกำเนิดมาจากประเทศเพื่อนบ้านลักลอบนำเข้ามาทางชายแดนทั้งสิ้น” นางสาวธัญญศรัณ กล่าว

อย่างไรก็ตามสมาคมฯ ต้องการให้กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง กองบังคับการปรามปรามเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) กรมทรัพย์สินทางปัญญา และ กอ.รมน. ให้ความสำคัญการปราบปรามการขายบุหรี่เถื่อนผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น เพราะการจำหน่ายบุหรี่ออนไลน์ลักษณะนี้เป็นสิ่งผิดกฎหมายและถือเป็นภัยออนไลน์อีกรูปแบบหนึ่งที่ต้องเร่งจัดการโดยด่วน เพื่อป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ของเยาวชน และปกป้องรายได้ให้กับร้านค้ายาสูบที่ถูกกฎหมาย และรายได้ภาษีสรรพสามิตและภาษีอื่นๆ เช่น ภาษีเพื่อมหาดไทย และภาษีบำรุงท้องถิ่นจำนวนมหาศาลของภาครัฐ