รัฐบาลมุ่งผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) เตรียมนำวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่จัดซื้อมาจัดจำหน่ายให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่กำลังจะเดินทางเข้าไทยในปีนี้ คิดราคาเข็มละ 800-1,000 บาท พร้อมค่าบริการอีก 380 บาท
เมื่อวานนี้ (24 ม.ค.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ของหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า รัฐบาลจะจัดจำหน่ายวัคซีนโควิด-19 ให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทย และสั่งให้แต่ละจังหวัดตั้งจุดให้บริการวัคซีนแก่วัคซีนอย่างน้อย 1 จุด เพราะมองว่าปัจจุบันนักท่องเที่ยวไม่ได้อยู่ในเพียงกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวหลักๆ เพียงเท่านั้น
นพ. โอภาสระบุว่า วัคซีนที่จะจัดจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวมี 2 ยี่ห้อ คือ 1. แอสตราเซเนกา มูลค่าเข็มละ 800 บาท และ 2. ไฟเซอร์ มูลค่าเข็มละ 1,000 บาท ซึ่งเมื่อรวมกับค่าบริการทางการแพทย์มูลค่า 380 บาท แล้ว จะตกที่เข็มละ 1,180 และ 1,380 บาทต่อเข็มตามลำดับ
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า วัคซีนที่นำมาให้บริการนักท่องเที่ยวจะเป็นวัคซีนที่ทางรัฐบาลได้จัดซื้อมาเท่านั้น ไม่รวมกับวัคซีนที่รัฐบาลได้รับบริจาคมา และชาวต่างชาติที่พำนักอาศัยหรือทำงานอยู่ในประเทศไทยแบบระยะยาวจะได้รับบริการฉีดวัคซีนฟรีเหมือนเดิมตามหลักสากล
นพ. โอภาส ยังย้ำอีกว่าการแบ่งวัคซีนมาขายให้นักท่องเที่ยวในครั้งนี้จะไม่กระทบกับการฉีดวัคซีนของคนไทย เพราะกระทรวงสาธารณสุขได้ย้ำให้ทุกจังหวัดคำนึงถึงปริมาณวัคซีนคงคลังที่จะไม่กระทบกับการให้บริการประชาชนไทย และจัดสรรวัคซีนให้แก่ประชาชนไทยเป็นลำดับแรกแล้ว
ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้เตรียมความพร้อมในการบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในระยะนำร่องตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. 2023 โดยได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ทั้งกรมการแพทย์ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในเมืองท่องเที่ยว
สำหรับกรมควบคุมโรค ได้เตรียมพื้นที่ใน กทม. ไว้ 2 จุด คือ 1.ศูนย์การแพทย์บางรัก โดยเปิดให้บริการทุกวัน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว 2.สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) เขตบางเขน
โดยกรมควบคุมโรคยังให้เพิ่มจุดบริการในคลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว ในจังหวัดเชียงใหม่ ชลบุรี และสงขลา รวมทั้งยังมีหลายหน่วยงาน เช่น กรุงเทพมหานคร โรงเรียนแพทย์ ทยอยแจ้งความจำนงขอเป็นจุดบริการฉีดแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วย
ขณะที่ กรมการแพทย์ ได้ให้โรงพยาบาลในสังกัดร่วมเป็นจุดฉีดวัคซีนสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในระยะนำร่อง รวม 5 แห่ง ได้แก่ สถาบันโรคผิวหนัง รพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน รพ.นพรัตนราชธานี และรพ.ประสาทเชียงใหม่ โดยมีสถาบันโรคผิวหนัง และ รพ.ราชวิถี เป็นจุดฉีดหลัก
ส่วนการเปิดจุดบริการฉีดของภาคเอกชนนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ให้เริ่มดำเนินการ เนื่องจากต้องมีการวางแผนเรื่องแนวทางปฏิบัติและการกำกับติดตามที่แตกต่างจากโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งหากมีแนวทางชัดเจนแล้ว จะนัดประชุมชี้แจงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระยะถัดไป