เมื่อวันที่ 21-25 เมษายนที่ผ่านมา ทีม อมรินทร์ออนไลน์ ได้รับคำเชิญจาก LG เพื่อไปเยี่ยมชมนวัตกรรมและสถานที่ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับบริษัท LG บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของ เกาหลีใต้ ที่ก่อตั้งมาแล้วเกือบ 70 ปี
เมื่อถึงเกาหลีใต้ เราได้ไปที่ สำนักงานใหญ่ของ LG ที่ตั้งอยู่ในกรุงโซล
ที่นี่พวกเราได้ทำความรู้จักกลุ่มธุรกิจโซลูชันเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และเปิดตัวไลน์อัปผลิตภัณฑ์ใหม่
ก่อนที่จะไปดู ร้าน LG Best Shop ซึ่งเป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในกรุงโซล
โดยโมเดลการขายของ LG จากเดิมที่มีเพียงขายขาดแก่ผู้บริโภค มาในวันนี้ LG ได้มีการพัฒนาและขยายธุรกิจในรูปแบบ Subscription Model ผ่านการให้บริการภายใต้ชื่อ LG Subscribe ด้วยการส่งมอบสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมบริการดูแลลูกค้าตลอดทั้งสัญญา โดยลูกค้าสามารถจ่ายเป็นรายเดือน ทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องจ่ายเงินก้อนโตในคราวเดียว และยังได้รับการดูแลบำรุงรักษาเครื่องอีกด้วย และในขณะนี้มีรูปแบบนี้ในประเทศไทยที่ ให้บริการครอบคลุม 33 จังหวัด พร้อมร้านค้าที่ร่วมรายการทั้งสิ้น 26 สาขา แล้ว
โดยโรงงานแห่งนี้ถูกเรียกว่า Lighthouse Factory เป็นโรงงานแห่งอนาคต ที่กระบวนการผลิตมีการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยจัดการ
และการผลลัพธ์สำหรับการพัฒนาในครั้งนี้ ส่งผลให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในกระบวนการผลิต ทำให้สามารถผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ามากถึง 58 รุ่น บนสายพานการผลิตเดียว
นอกจากนี้ยังนำระบบ Digital Twin หรือการจำลองการผลิตในแบบเสมือนจริงเพื่อให้พนักงานในโรงงานสามารถแก้ปัญหาแบบล่วงหน้าได้ รวมถึงการคาดการณ์และแจ้งเตือนถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเพื่อให้เตรียมการรับมือ
โรงงานบอกว่าระบบนี้สามารถแจ้งเตือนปัญหาล่วงหน้าที่จะเกิดขึ้นในอีก 10 นาทีข้างหน้า ได้อย่างแม่นยำ
ขณะที่มีการใช้ระบบนำทางที่เชื่อมต่อแบบ 5G มาใช้ในระบบโลจิสติกส์ด้วย
ต่อมาก็ได้ไปดู LG Heritage Lounge ซึ่งเป็นพื้นที่การจัดแสดงเทคโนโลยีหลัก ที่อยู่ที่โรงงานในชางวอน
ที่นี่จะเป็นพื้นที่จัดแสดงวิวัฒนาการกว่า 6 ทศวรรษของ LG เราจะสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ที่ผลิตโดย LG ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนและก้าวเข้าสู่โลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI
ในทีนี่เราจะได้รู้จักกับบริษัท LG ที่ชื่อเดิมคือ Luckey Goldstar ก่อนที่จะพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จนเป็น LG ในทุกวันนี้
การจัดแสดงแบ่งเป็น 5 โซน เมื่อก้าวผ่านทางเข้าที่ดีไซน์เป็นประตูห้องนิรภัย จะได้พบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่บุกเบิกโดยบริษัทในโซน Intro
เมื่อเข้าสู่โซน History จะพบกับคอลเลกชันเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของ LG ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ต่อมาเป็น โซน Core-Tech ที่นำพาผู้เข้าชมสู่การเดินทางผ่านวิวัฒนาการของ AI Core-Tech ภายในเครื่องซักผ้า ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศ
จากนั้น โซน Inverter Direct Drive จะบอกกล่าวเกี่ยวกับเครื่องซักผ้า ซึ่งเป็นสินค้าดั้งเดิมของบริษัท โดยเป็นเรื่องราวของเทคโนโลยี Inverter Direct Drive ที่ไม่จำเป็นต้องใช้สายพานและคลัตช์ แต่เป็นการเชื่อมต่อมอเตอร์เข้ากับถังซักโดยตรง ส่งผลให้การซักผ้ามีประสิทธิภาพและทนทานมากขึ้น และมอเตอร์รุ่นล่าสุดที่ขับเคลื่อนด้วย AI วิเคราะห์น้ำหนักและเนื้อผ้าเพื่อปรับรอบการซักและอบให้เหมาะสมที่สุด
และโซนสุดท้าย Inverter Linear ผู้เข้าชมสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับ Inverter Linear Compressor ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลักของตู้เย็น LG โดยมีการใช้ AI เพื่อลดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิภายในตู้เย็นให้น้อยที่สุด ช่วยทั้งเรื่องการประหยัดพลังงาน และรักษาความสดใหม่ของอาหารในตู้เย็น
ต่อมาเราก็ได้ไปชม Smart Cottage ตัวอย่างบ้านอัจฉริยะจาก LG เมื่อไปถึงภายนอกที่เราได้เห็นคือบ้านทรงโมเดิร์น ที่สวยงามและเรียบหรู แต่เมื่อได้เข้าไปแล้วก็ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่อยู่ข้างใน
ต้องบอกว่าบ้านหลังนี้มีคอนเซปท์คือ การนำเสนอที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ โดยผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยทั้งด้านเครื่องใช้ไฟฟ้า และการผลิตพลังงานแบบยั่งยืน เข้ากับเทคโนโลยี AI
ต้องบอกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้นภายในบ้านเชื่อมต่อกับ แอปพลิเคชัน LG ThinQ ที่เจ้าของบ้านสามารถสั่งการผ่านสมาร์ทโฟนได้แบบง่ายๆ
นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับระบบความปลอดภัย Internet of Things ที่จะตรวจสอบสภาพแวดล้อมของบ้านด้วยเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่นเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ ความชื้น การตรวจจับความเคลื่อนไหว เซ็นเซอร์ประตู แสงสว่าง
ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าก็จะปรับการทำงานตามความต้องการของผู้ใช้ และ สภาพแวดล้อม เช่นถ้าอากาศร้อนหรือเย็นเกินไป ระบบปรับอากาศก็จะทำให้อุณหภูมิภายในบ้านเหมาะสม
นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดโหมดรูทีนอัจฉริยะ เช่นโหมดต้อนรับ โดยจะมีการจับตำแหน่ง GPS ของเรา และตั้งค่าสภาพแวดล้อมให้พร้อมก่อนที่เราจะมาถึงบ้าน และปรับเป็นโหมดประหยัดพลังงานเมื่อเราออกจากบ้านไปแล้ว
ส่วนระบบพลังงานก็มีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 4 กิโลวัตต์ บนหลังคาเพื่อประหยัดไฟฟ้าอีกด้วย
ที่สำคัญคือบ้านนี้ หากเราสั่งซื้อแล้วก็สามารถเคลื่อนย้ายนำไปติดตั้งในสถานที่ที่ต้องการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
เรียกได้ว่าครบโจทก์ และเปลี่ยนวิธีคิดมองบ้านให้เหมือนเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าหนึ่งชิ้นที่สามารถซื้อหาและติดตั้งโดยง่าย
วันต่อมาเราได้ไปเยี่ยมชม Goldstar Refreshment Center ที่ LG ร่วมมือกับตลาดกยองดง และสตาร์บัคส์ เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น
โดยภายในพื้นที่ก็มีหลายมุมที่น่าประทับใจ และบอกเล่าเรื่องราวอย่างสอดคล้อง
โซนแรกใครที่โหยหาอดีตน่าจะชื่นชอบ คือ Heritage Corner ซึ่งจะแสดงตู้เย็น โทรทัศน์ขาวดำ และเครื่องซักผ้าที่ผลิตในเกาหลีใต้เป็นรุ่นแรก จากยุคของ Lucky Goldstar
ก่อนจะมาสู่มุม gram GO Service Corner ที่สามารถทดลองใช้แล็ปท็อปรุ่นใหม่ของ LG และยังสามารถเลือกยืมรุ่นที่ตอบสนองความต้องการในการใช้งานมากที่สุดไปใช้ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ก็มีมุม Personalization Corner มีบริการสติกเกอร์แบบกำหนดเอง ให้ผู้เข้าชมนำไปใช้ตกแต่งแล็ปท็อป โทรศัพท์ และไดอารี่
ทุกสิ่งที่จัดแสดงในบริเวณนี้ ผลิตมาจากเครื่องใช้ไฟฟ้าแอลจีที่ผ่านการรีไซเคิลมาแล้ว และรายได้จากการขายทั้งหมดจะบริจาคให้กับกองทุนเพื่อความเจริญร่วมกันในท้องถิ่นเพื่อใช้ในการสนับสนุนตลาดกยองดง
และยังมี Mood Refresh Corner ติดตั้งจอมอนิเตอร์เกมมิ่ง LG UltraGear ให้ได้ลองเล่นเกมที่คมชัดสมจริงและรู้สึกเหมือนกับเข้าไปอยู่ในเกมได้มากที่สุดในปัจจุบัน
หลังจากที่ไปดูโรงงาน ดูบ้าน ดูตลาด ก่อนกลับ LG ก็พาเรามาดูมหาวิทยาลัย ภายใต้ชื่อ LG Another Campus โดยเปิดที่มหาวิทยาลัย4 แห่ง ในเกาหลีใต้ โดยเราได้มาดูที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล ที่นี่เปิดให้นักศึกษาทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ เนื่องจากทาง LG มองว่านักศึกษาคือฐานลูกค้าในอนาคต
ซี่งในพื้นที่ก็มีทั้งเครื่องใช้ในครัว ตู้เย็น เตาอบ เครื่องทำน้ำแข็ง เครื่องปลูกพืชในร่ม
เป็นยังไงกันบ้างครับ กับ 5 สถานที่ของ LG ในเกาหลีใต้ที่เราพาไปชม หวังว่าผู้ชมคงได้ไอเดียใหม่ๆ ที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับบ้านเรา และเป็นแรงบันดาลใจสู่อนาคต และหากใครได้มีโอกาสไปเกาหลีใต้ก็ลองแวะไปเยี่ยมชมกัน แล้วจะพบว่า เมื่อคิดอย่างเป็นระบบร้อยเรียงกัน อดีตก็จะกลายเป็นพื้นฐานที่มั่นคงให้อนาคตใช้ต่อยอด
Advertisement