วันนี้ (27 ธ.ค. 65) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน พฤศจิกายน 2565 ว่า การส่งออกไทยในเดือน พ.ย. 2565 มีมูลค่า 22,308 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว -6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นับเป็นตัวเลขการส่งออกที่หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 นับจากเดือน ต.ค. 2565 ที่การส่งออกของไทยหดตัว -4.4% ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 19 เดือน
สำหรับปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกในเดือน พ.ย. และในปี 2566 ได้แก่
- ภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยมีการคาดการณ์ว่าปี 2566 เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 2.7% จากปี 2565 ที่คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.2%
- สถานการณ์เงินเฟ้อทั่วโลกที่สูงกว่าระดับเป้าหมาย และการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความต้องการบริโภคสินค้า
- ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยังคงมีอยู่ เช่น สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และอื่นๆ ที่ยังคงไม่มีแนวโน้มยุติ ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น จากราคาพลังงานและอาหารสัตว์ที่เพิ่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ดี ยังคงมีปัจจัยบวกที่สนับสนุนการส่งออกในเดือน พ.ย. และในช่วงถัดไปจากนี้ ได้แก่
- การดำเนินการร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์และเอกชนในการผลักดันการส่งออก
- ตลาดโลกยังมีความต้องการนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหาร โดยองค์การอาหารโลกคาดว่าในปี 2565 โลกจะนำเข้าอาหารเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งส่งดีต่อการส่งออกอาหารของไทย
- การเติบโตของ 5G และเศรษฐกิจดิจิทัล และสถานการณ์การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์คลี่คลายและดีขึ้นตามลำดับ เป็นต้น
ด้านการนำเข้าในเดือนพ.ย. มีมูลค่า 23,650.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 5.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ในเดือน พ.ย. 2565 ไทยขาดดุลการค้าคิดเป็นมูลค่า 1,342.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ย.2565) การส่งออกของไทย มีมูลค่า 265,349.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 7.6% และหากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย การส่งออกไทยในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ย.2565) ขยายตัวได้ 6.5% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 280,438 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 16.3% ส่งผลให้ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ไทยขาดดุลการค้า 15,088.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ