ข่าวเศรษฐกิจ

มหาเศรษฐีเอเชียครอง 5 อันดับเศรษฐีที่ 'รวยขึ้น' มากที่สุดในปี 2022

23 ธ.ค. 65
มหาเศรษฐีเอเชียครอง 5 อันดับเศรษฐีที่ 'รวยขึ้น' มากที่สุดในปี 2022

มหาเศรษฐีเอเชียมาแรง คว้าทั้ง 5 อันดับมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปี 2022 นำโดย ‘โกตัม อดานี’ (Gautam Adani) มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 3 ของโลก ที่มีทรัพย์สินมากขึ้นถึง 5.51 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.9 ล้านล้านบาทในปีเดียว

ปี 2022 เป็นปีที่เรียกได้ว่าปั่นป่วนที่สุดปีหนึ่งสำหรับเหล่ามหาเศรษฐี โดยเฉพาะเหล่าเจ้าของบริษัทเทคโนโลยีที่สูญเงินรวมกันถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34.7 ล้านล้านบาท ในปีนี้ หลังพบรายได้และราคาหุ้นตกลงถ้วนหน้าจากจุดสูงสุดในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อมีคนเสียก็ต้องมีคนได้ โดยเฉพาะเหล่ามหาเศรษฐีที่ทำธุรกิจด้านพลังงานที่ได้อานิสงค์อย่างมากจากวิกฤติพลังงานที่เกิดขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน 

จากข้อมูลของนิตยสาร Forbes มหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปีนี้ 5 อันดับแรก ได้แก่

188687

  • โกตัม อดานี (Gautam Adani)

สัญชาติ: อินเดีย

ธุรกิจ: Adani Group (ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและพลังงาน)

มูลค่าทรัพย์สิน: 1.34 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4.6 ล้านล้านบาท

รวยขึ้น: 5.51 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.9 ล้านล้านบาท

โกตัม อดานี ครองแชมป์มหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปีนี้ด้วยทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นถึง 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ทรัพย์สินของอดานีเพิ่มสูงขึ้นมากในปีนี้คือ เขาทำธุรกิจเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ท่าเรือ และสนามบิน และพลังงาน เช่น โรงผลิตไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน และก๊าซธรรมชาติ ที่้เติบโตอย่างมากจากวิกฤติพลังงาน รวมไปถึงมีการซื้อกิจการ หรือซื้อหุ้นจากบริษัทอื่น

โดยในเดือนพฤษภาคมปีนี้ โกตัม อดานี ได้เข้าซื้อกิจการในอินเดียของ Holcom บริษัทผลิตซีเมนต์จากสวิตเซอร์แลนด์ในดีลยักษ์มูลค่าถึง 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เขากลายเป็นผู้ผลิตซีเมนต์รายใหญ่ที่สุดอันดับที่ 2 ของอินเดีย  และเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ New Delhi Television หนึ่งในเครือข่ายสื่อโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย

 

  • โล ตั๊ก กวง (Low Tuck Kwong) 

สัญชาติ: อินโดนีเซีย

ธุรกิจ: Bayan Group (ธุรกิจเหมืองถ่านหิน)

มูลค่าทรัพย์สิน: 1.86 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6.8 แสนล้านบาท

รวยขึ้น: 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5.5 แสนล้านบาท

โล ตั๊ก กวง เป็นเจ้าของบริษัทเหมืองถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย Bayan Resources ที่ราคาหุ้นพุ่งขึ้นถึง 3 เท่าในปี 2022 เพราะเกิดวิกฤติพลังงานที่ทำให้อุปสงค์สำหรับถ่านหินสูงขึ้น ในปัจจุบัน โล ตั๊ก กวง เป็นมหาเศรษฐที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของอินโดนีเซีย ขึ้นจากอันดับที่ 18 ในปี 2021

 

  • โคลิน เจิง ฮวง (Colin Zheng Huang)

สัญชาติ: จีน

ธุรกิจ: Pindoudou (แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ)

มูลค่าทรัพย์สิน: 3.16 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1 ล้านล้านบาท

รวยขึ้น: 1.11 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.8 แสนล้านบาท

ถึงแม้เศรษฐกิจจีนในปีนี้จะอยู่ในขั้นย่ำแย่จากนโยบาย Zero-Covid หุ้นของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Pindoudou ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะแพลตฟอร์มค่าส่งของราคาถูกยังคงมีผลประกอบการที่ดีในปีนี้ โดยจากข้อมูลของ Forbes รายได้ของ Pindoudou โตถึง 65% ในไตรมาสที่สาม ในขณะที่ราคาหุ้นบนตลาด Nasdaq เพิ่มขึ้นถึง 35% ปีต่อปี

 

  • อู่ อิ้หลิง (Wu Yiling)

สัญชาติ: จีน

ธุรกิจ: Shijiazhuang Yiling Pharmaceutical (บริษัทสมุนไพรจีน)

มูลค่าทรัพย์สิน: 6.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.35 แสนล้านบาท

รวยขึ้น: 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.4 แสนล้านบาท

อู่ อิ้หลิง เป็นประธานบริษัท Shijiazhuang Yiling Pharmaceutical ซึ่งมีรายได้สูงขึ้นมากจากการจำหน่ายยา Lianhua Qingwen ซึ่งเป็นยาสมุนไพรจีนที่ใช้รักษาโควิด ราคาหุ้นของ Shijiazhuang Yiling Pharmaceutical เพิ่มขึ้นถึง 61% ในปีนี้หลังจากรัฐบาลจีนผ่อนปรนนโยบาย Zero-Covid ทำให้ประชาชนมีความกังวลจนแห่ไปซื้อยาดังกล่าวมาตุนไว้

 

  • รวี ไชปูเรีย (Ravi Jaipuria)

สัญชาติ: อินเดีย

ธุรกิจ: RJ Corp. (ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม)

มูลค่าทรัพย์สิน: 9.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.2 แสนล้านบาท

รวยขึ้น: 3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.35 แสนล้านบาท

รวี ไชปูเรีย เป็นประธานของ RJ Corp. ซึ่งเป็นเครือบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่ม โดยตัวอย่างบริษัทในเครือของ RJ Corp. คือ Varun Beverages ซึ่งเป็นบริษัทบรรจุขวดเครื่องดื่มเป๊บซี่ในอินเดีย และ Devyani International Limited ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของแฟรนไชส์อาหารฟาสต์ฟู้ด เช่น KFC และ Pizza Hut ในอินเดีย

 

ในด้านของเศรษฐีไทย ถึงแม้จะไม่มีใครติด 5 อันดับแรก เศรษฐีไทยที่มีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปีนี้ก็คือ ‘สารัชถ์ รัตนาวะดี’ ประธานกรรมการบริหารของกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ซึ่งมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นราว 1 แสนล้านบาท จากผลประกอบการธุรกิจด้านพลังงานที่สูงขึ้นมากในปีนี้

 

‘อีลอน มัสก์’ และมหาเศรษฐีบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ สูญทรัพย์สินมากที่สุดในปีนี้

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เหล่ามหาเศรษฐีด้านพลังงาน ยา และสินค้าอุปโภคบริโภค ต่างมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากในปีนี้ กลุ่มคนที่โชคไม่ดีนักในปีนี้ก็คือ มหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจเทคโนโลยีที่เสียทรัพย์สืนรวมกันมูลค่าถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ 

โดยจากข้อมูลของ Forbes ประเทศที่เหล่ามหาเศรษฐีมีทรัพย์สินลดลงมากที่สุดก็คือ ‘สหรัฐอเมริกา’ ที่เสียหายรวมกันถึง 6.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาเป็นมหาเศรษฐีจาก ‘จีน’ ที่มีทรัพย์สินลดลงรวมกัน 6.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และ ‘รัสเซีย’ ที่มีทรัพย์สินลดลงรวมกัน 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

และในหมู่ผู้เสียหายทั้งหลาย มหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินลดลงมากที่สุดในปีนี้ก็คือ ‘อีลอน มัสก์’ (Elon Musk) เจ้าของ Tesla, SpaceX และ Twitter ที่ทรัพย์สินหายไปถึง 1.15 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 หลังจากเอาเงินไปซื้อ Twitter จนนักลงทุนใน Tesla เสียความมั่นใจ กดราคาหุ้นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าดิ่งกว่า 60% ในปีนี้ จนต้องเสียตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกให้กับ 'เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์' (Bernard Arnault) และครอบครัว เจ้าของเครือแบรนด์แฟชั่นหรูจากฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา




ที่มา: Forbes (1), Forbes (2) 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT