"ฟินแลนด์"แชมป์สุขที่สุด 5 ปีซ้อน ขณะที่คนไทยสุขลดลง

ฟินสมชื่อ "ฟินแลนด์" ครองแชมป์ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน เผยเคล็ดลับทำไมกลุ่มประเทศนอร์ดิก ถึงมีความสุข ขณะที่ "ประเทศไทย" สุขลดลง

เครือข่ายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ เปิดรายงานความสุขโลก (World Happiness Report) ประจำปี 2022 จากการสำรวจประชาชนใน 146 ประเทศ ซึ่งปีนี้พบว่า "ฟินแลนด์" ยังคงครองแชมป์อันดับหนึ่ง 5 ปีซ้อน ส่วนอัฟกานิสถานรั้งท้ายอยู่อันดับที่ 146

ขณะที่ประเทศไทย แม้อันดับจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 53 จากเดิม 54 แต่ดัชนีความสุขกลับลดลงอยู่ที่ 5.985 จากเดิม 5.999 ในรายงานปี 2021

การจัดอันดับความสุขทั่วโลกปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ 10 แล้ว เป็นการใช้ข้อมูลที่สำรวจจากแกลลัพ เวิลด์ โพลล์ โดยให้ประชาชนใน 146 ประเทศจัดอันดับความสุขในประเทศของตัวเอง รวมถึงมีปัจจัยพิจารณาอื่นๆ เช่น การได้รับการสนับสนุนทางสังคม เสรีภาพส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และระดับปัญหาคอร์รัปชันในประเทศ

ไฮไลต์ของรายงานความสุขโลกปีนี้ อยู่ตรงไหน?

จอห์น เฮลลิเวลล์ หนึ่งในคณะบรรณาธิการของรายงานฉบับนี้ เปิดเผยกับซีเอ็นเอ็น ว่า รายงานปีนี้เกิดความน่าประหลาดใจ 3 สิ่ง คือ การบริจาคให้การกุศล การช่วยเหลือคนแปลกหน้า และอาสาสมัครหรือจิตอาสา โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา มีการช่วยเหลือคนแปลกหน้าเพิ่มขึ้นในทุกส่วนของโลก เมื่อเทียบกับปี 2563 หรือช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19

ความวิตกกังวลและความเครียดจากโควิดในปีที่ 2 เริ่มลดลง โดยส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคนรู้แล้วว่าจะต้องรับมืออย่างไรในปีที่ 2 แม้ว่าจะมีเรื่องน่าประหลาดใจใหม่ๆ เกิดขึ้นด้วยก็ตาม

ข้อมูลนี้จึงบ่งชี้ว่า แม้เราจะเผชิญการสูญเสียจากโควิด แต่ท่ามกลางข่าวร้ายก็มีข่าวดี ที่ความมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ก็กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความสุขตามมาด้วย อย่างไรก็ตาม รายงานนี้มีขึ้นก่อนที่จะเกิดสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนขึ้น

ทำไมฟินแลนด์และกลุ่มนอร์ดิก ถึงติดท็อป 10 ทุกปี?

ปีนี้ฟินแลนด์ได้ที่ 1 (5 ปีซ้อน) เดนมาร์กที่ 2 สวีเดนที่ 7 และนอร์เวย์ที่ 8 ซึ่งกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่ 4 ประเทศในกลุ่มนอร์ดิกจะติดท็อป 10 อันดับความสุขโลกทุกปี เพราะมีคะแนนประเมินที่ดีมากในทุกด้าน

อันดับความสุขนี้ไม่ได้วัดกันแค่เรื่องตัวเลขทางเศรษฐกิจหรือจีดีพี หรือใครมีเงินมากกว่าใคร แต่ครอบคลุมทุกด้านทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง โดยนอกจากวัดที่จีดีพีต่อหัวแล้ว ก็ยังดูปัจจัยด้านอื่นๆ เช่น สุขภาพ อายุขัย กลไกการช่วยเหลือด้านสังคมเมื่อประสบปัญหา อัตราการคอร์รัปชัน ความเอื้ออาทรในชุมชน ไปจนถึงความมีเสรีภาพในการตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ในชีวิต

ส่วนสำคัญอย่างหนึ่ง เป็นเพราะพื้นฐานของการเป็นระบบรัฐสวัสดิการ ซึ่งไม่ได้ให้แค่คนจน แต่หมายถึงประชาชนทั้งหมด ทั้งในด้านการศึกษา สาธารณสุข โครงสร้างพื้นฐาน จึงไม่เกิดการแบ่งแยกชนชั้นระหว่างคนจนคนรวย หรือการแข่งขันแย่งชิงทรัพยากรมากเท่ากับตลาดทุนนิยมเสรีแบบสหรัฐ ในขณะที่สังคมก็ยังมีค่านิยมแบบอยู่ดีมีสุขในสไตล์ของตัวเอง เช่น "ฮุกกะ" (Hygge) ซึ่งเป็นภาษาเดนมาร์กที่หมายถึงความสุข (แบบสุขสบาย ไม่ใช่การอวดไลฟ์สไตล์หรูหรา)