นายกฯ เรียกทีมเศรษฐกิจ- รมว.พลังงาน หารือด่วนหลังราคาน้ำมันพุ่งทะลุ 100 เหรียญ ขณะที่ราคาน้ำมันโลกวันนี้พุ่งแตะ 116 เหรียญ! ทุบสถิติสูงสุดในรอบ 11 ปี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้เรียกประชุมทีมเศรษฐกิจประชุมด่วนที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงเช้าวันนี้ โดยคาดว่าจะเป็นประเด็นหารือแนวทางรับมือกับสถานการณ์ด้านพลังงาน หลังจากที่เกิดการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนยืดเยื้อ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นทะลุ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
สำหรับทีมเศรษฐกิจที่เข้าประชุมดังกล่าว ประกอบด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน, นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี, นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย คณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี, นายประสัณห์ เชื้อพานิช คณะที่ปรึกษานายกฯ, นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร คณะที่ปรึกษานายกฯ , นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายพรชัย ฐีระเวชผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โดยคาดว่าจะมีการแถลงความคืบหน้าออกมาให้ทราบภายในวันนี้
ก่อนหน้านี้ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ทางกระทรวงได้ติดตามสถานการณ์พลังงานอย่างใกล้ชิด และยืนยันว่าไม่กระทบกับการจัดหาน้ำมันและ LNG เนื่องจากประเทศไทยนำเข้าน้ำมันดิบจากประเทศกลุ่มตะวันออกกลางประมาณ 55% และนำเข้าจากรัสเซียเพื่อกลั่นเพียง 5.22 ล้านลิตร/วัน หรือคิดเป็น 3% ของปริมาณนำเข้าน้ำมันดิบทั้งหมด และในส่วนของ LNG ไทยนำเข้าจากต่างประเทศประมาณ 18% จากหลากหลายแหล่ง ซึ่งทางกระทรวงพลังงานก็ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินและเตรียมความพร้อมหากเกิดสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้น
ขณะที่สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) รายงานความคืบหน้าการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก้อนแรก 20,000 ล้านบาท เพื่อให้กองทุนพยุงราคาดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท โดยมีธนาคารสนใจและยื่นข้อเสนอหลายราย และคาดว่าจะได้เงินในเดือน เม.ย. 2565
สำหรับความคืบหน้าราคาน้ำมันในตลาดโลกล่าสุดวันนี้ (3 มี.ค.) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส สหรัฐ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวานอีก 2.41 ดอลลาร์ ไปแตะระดับ 113.01 ดอลลาร์/บารืเรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งขึ้นอีก 3.67 ดอลลาร์ ทะยานขึ้นไปแตะระดับ 116.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากตลาดกังวลว่ามาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกจะกระทบต่อการค้าน้ำมันของรัสเซีย และฉุดปริมาณซัพพลายน้ำมันโลก
ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก หรือ Opec พร้อมพันธมิตรนอกโอเปกอย่าง รัสเซีย (โอเปกพลัส) ได้เสร็จสิ้นการประชุมเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมมีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิม โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันสำหรับเดือนเม.ย.