หลังจากนานาชาติประกาศตัดธนาคารรัสเซียบางแห่งออกจาก SWIFT และมีการพูดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจรัสเซีย ทีมงาน SPOLIGHT สรุปความสำคัญของ SWIFT ว่ามีผลต่อเศรษฐกิจรัสเซียอย่างไรทำใมจึงถูกนำมาใช้เป็นมาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้
.
ผ่านมา 4 วันแล้วสำหรับปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย ที่บุกยึดยูเครน และเริ่มกินพื้นที่มากขึ้น นอกจากแคว้นดอนบาส ซึ่งมีเมืองฝักใฝ่รัสเซียอย่างโดเนสตก์ และ ลูฮันสก์แล้ว กองทัพรัสเซียยังบุกยึดเมืองหลวงอย่างเคียฟ อย่างหนักในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา บรรดานักรัฐศาสตร์อ่านใจปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ก็เชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่รัสเซีย จะพยามบุกยึดทั้งยูเครน และตราบใดที่สนามรบ ยังยืดเยื้อรุนแรง สิ่งที่รัสเซียอาจต้องเผชิญก็จะหนักขึ้นตามไปด้วย
.
ก่อนหน้านี้มีการวิเคราะห์กันว่า เหตุผลนึงที่ทำให้ ปธน.ปูติน ยังคงเดินหน้าบุกยูเครนต่อ เพราะมาตรการคว่ำบาตร จากนานาชาติ ไม่ได้รุนแรงมากนัก และรัสเซีย ยังสามารถรับมือกับมาตรการเหล่านั้นได้ แต่ยิ่งบุกหนักขึ้น ท่าทีของยุโรป สหรัฐฯ เริ่มเปลี่ยนไป การใช้มาตรการคว่ำบาตรอาจจะรุนแรงขึ้นอีก และหนึ่งในมาตรการที่ถูกพูดถึงกันก็คือ สิ่งที่เรียกว่า SWIFT นั่นคือ จะมีการตัดขาดธนาคารของรัสเซียบางแห่งออกจาก SWIFT
.
SWIFT คืออะไร ทำไมจึงเป็นมาตรการคว่ำบาตรที่สำคัญ
.
SWIFT ย่อมาจาก Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication หรือ สมาคมโทรคมนาคมทางการเงินระหว่างธนาคาร ก่อตั้งขึ้นมาในปี 1973 และตั้งอยู่ในเบลเยียม มันคือตัวกลางที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อธุรกรรมของธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ ถึง 11,000 แห่ง มีประเทศสมาชิกกว่า 200 ประเทศทั่วโลก และมีการทำธุรกรรมต่อวันสูงถึงกว่า 40-42 ล้านธุรกรรม
.
หากรัสเซียถูกตัดออก SWIFT จะส่งผลต่อระบบการค้า การชำระเงินของรัสเซีย และกระทบกับเศรษฐกิจอย่างมาก ซึ่งผลกระทบจะหนักแค่ไหน ขึ้นอยู่กับจำนวนธนาคารรัสเซียที่จะถูกตัดออกจากระบบ SWIFT หากเป็นธนาคารใหญ่ เชื่อมโยงกับต่างประเทศมาก ก็จะยิ่งกระทบมาก ซึ่งที่ผ่านมารัสเซีย เคยสร้าง ระบบการชำระเงินเป็นของตัวเอง ในสมัยบุกยึดไครเมียมาแล้ว ระบบนี้ ชื่อว่า System For Transfer of Financial Messenger แต่ปรากฏว่า ระบบดังกล่าวยังไม่เป็นที่แพร่หลาย ส่วนใหญ่เป็นการใช้ภายในประเทศเท่านั้น ใช้กับธุรกรรมในประเทศเพียง 20 % มันจึงยังไม่สามารถทดแทน SWIFT ได้
.
พูดง่ายๆ ผลในทางปฏิบัติ คือ จะทำให้รัสเซีย ซื้อของ ขายของ สั่งของได้ยากขึ้น อาจจและมีผลต่อ ราคาสินค้าในรัสเซียที่จะปรับสูง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรัสเซียอย่างมาก อัตราเงินเฟ้อของรัสเซียจะพุ่งสูงมากขึ้น เคยมีการประเมินว่า หากรัสเซียถูกตัดออกจากระบบ SWIFT อาจจะทำให้ GDP รัสเซีย หายไปได้ถึง 5%ทีเดียว ซึ่งในอดีตประเทศที่เคยเจอมาตรการถูกตัดจาก SWIFT มาแล้วคือ อิหร่าน ซึ่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจค่อนข้างรุนแรง
.
และอีกหนึ่งมาตรการคว่ำบาตร นอกจากตัดรัสเซียออกจาก SWIFT แล้ว คือการคว่ำบาตรธนาคารกลาง หรือแบงค์ชาติรัสเซีย ประเด็นนี้ ดร. ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยภัทร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร มองว่า เป็นมิติใหม่ในการคว่ำบาตรที่ถือว่า รุนแรงและน่าจับตามองว่า รัสเซียจะโดนแบบนั้นหรือไม่ เพราะธนาคารกลางรัสเซีย สะสมทุนสำรองสูงถึง 630,000 ล้านเหรียญสหรัฐถือว่าสูงมาก คิดเป็น 30-40% ของ GDP รัสเซีย และนี่คือสิ่งที่จะใช้ดูแลเศรษฐกิจ เงินหล่อเลี้ยงที่สำคัญ หากไม่สามารถใช้ได้ เศรษฐกิจรัสเซียกระทบอย่างหนัก
.
ดังนั้น ในสัปดาห์นี้ จึงน่าจับตามองสถานการณ์สงครามรัสเซีย ยูเครน และปฏิกิริยา นานชาติที่จะคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่ม จะส่งผลให้ตลาดการลงทุนปั่นป่วนได้อีกไม่น้อย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกมพลิก น้ำมันโลกพุ่งเฉียด 5 ดอลลาร์!
คว่ำบาตรรอบใหม่จะได้ผลมั้ย? เศรษฐกิจรัสเซีย หรือ ประเทศยูเครน จะพังก่อนกัน?
หรือ "บิตคอยน์" จะเป็นฮีโร่ช่วยรัสเซียพ้นโลกรุมคว่ำบาตร