ข่าวเศรษฐกิจ

ยอดจัดตั้งธุรกิจใหม่ ม.ค. '65 พุ่งสุดรอบ 10 ปี

26 ก.พ. 65
ยอดจัดตั้งธุรกิจใหม่ ม.ค. '65 พุ่งสุดรอบ 10 ปี

ยอดขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ ม.ค '65 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี เฉียด 8,000 ราย เป็นธุรกิจก่อสร้างมากที่สุด ขณะที่ธุรกิจปลูกพืชสมุนไพรก็มาแรง

 

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยผลการจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือน ม.ค. 2565 พบว่า มีจำนวน 7,972 ราย หรือเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และยังนับเป็นการจดทะเบียนสูงสุดในรอบ 10 ปี ตั้งแต่ปี 2556 แต่หากเทียบกับเดือนก่อนหน้า หรือในเดือน ธ.ค. 2564 จะพบว่า มีอัตราเพิ่มขึ้นถึง 115%

 

ในบรรดาธุรกิจที่ขอจดทะเบียนจัดตั้งใหม่นั้น เป็นประเภทธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไปมากที่สุด ในสัดส่วนประมาณ 11.5% หรือ 914 ราย ซึ่งยังส่งผลในภาพรวมต่อการเพิ่มขึ้นของการจดทะเบียนถึง 5% อีกด้วย รองลงมา คือธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 318 ราย คิดเป็น 4% และธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึงคนโดยสาร จำนวน 244 ราย คิดเป็น 3%

 

นอกจากนี้ยังพบว่า ธุรกิจประเภทที่ได้รับ "ผลเชิงบวก" จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั่นคือ ธุรกิจเกี่ยวกับการปลูกพืชสมุนไพร ก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการจัดตั้งเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของการจดทะเบียนประมาณ 2% และตามด้วยธุรกิจขายส่งสินค้าทั่วไป 1.5% โดยธุรกิจทั้งหมดที่จัดตั้งขึ้นใหม่ มีมูลค่าทุนจดทะเบียนรวมกันทั้งหมด 29,081.96 ล้านบาท

 

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนที่แล้วซึ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี เป็นผลมาจากปัจจัยการเพิ่มขึ้นของประเภทธุรกิจ เช่น ธุรกิจก่อสร้างที่มีการจัดตั้งเพิ่มที่สุด และมีสัดส่วนผลกระทบต่อการจดทะเบียนธุรกิจเช่นกัน

 

นอกจากนี้ จากปัญหาโควิดยังทำให้ธุรกิจปลูกพืชสมุนไพรมีการเติบโต ก็ทำให้จดทะเบียนธุรกิจเพิ่มขึ้น ธุรกิจขายส่ง และจากแนวโน้มเศรษฐกิจ การผ่อนคลายมาตรการจะส่งผลให้การจดทะเบียนธุรกิจในครึ่งปี 2565 มีจำนวน 40,000-42,000 ราย ทั้งปีคาดว่ามีจำนวน 70,000-75,000 ราย

 

สำหรับจำนวนธุรกิจ "เลิกประกอบกิจการ" ประจำเดือน ม.ค. 2565 มีจำนวน 999 ราย ลดลง10% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 1,105 ราย และยังลดลงถึง 83% เมื่อเทียบเดือน ธ.ค. 2564 ซึ่งมีการเลิกกิจการสูงถึง 5,709 ราย โดยสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

 

ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 89 ราย คิดเป็น 9% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 47 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 27 ราย คิดเป็น 3%

 

ขณะที่การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว เดือน ม.ค. 2565 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น จำนวน 49 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 18 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 31 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 9,767 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 14 ราย เงินลงทุน 2,787 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จำนวน 6 ราย เงินลงทุน 57 ล้านบาท และฮ่องกง จำนวน 5 ราย เงินลงทุน 5,819 ล้านบาท

advertisement

SPOTLIGHT