ข่าวเศรษฐกิจ

ธปท.หนุนทำธุรกิจแบบดิจิทัล ร่วมมือหลายฝ่ายพัฒนาระบบ

9 ธ.ค. 64
ธปท.หนุนทำธุรกิจแบบดิจิทัล ร่วมมือหลายฝ่ายพัฒนาระบบ
ไฮไลท์ Highlight
ปัจจุบัน การทำธุรกรรมทางการค้าส่วนใหญ่ยังใช้เอกสารกระดาษในกระบวนการซื้อ-ขายระหว่างภาคธุรกิจจำนวนมาก ซึ่งมีต้นทุนสูง และใช้เวลา เช่น ต้นทุนในการนำส่งและจัดเก็บเอกสาร ความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาด และสูญหายของเอกสาร ระยะเวลาในการดำเนินงานของกระบวนการต่าง ๆ รวมถึงการชำระเงินข้ามธนาคาร การตรวจสอบข้อมูลการชำระ (reconcile) เพื่อบันทึกบัญชี การส่งมอบใบเสร็จรับเงิน และการเชื่อมต่อกับระบบของภาครัฐ โดยเฉพาะด้านภาษี ซึ่งโครงการนี้จะช่วยลดข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจแบบเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมมือภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคการเงิน ทำโครงการสนับสนันให้ธุรกิจ ทำการค้าแบบดิจิทัลได้ ทั้งการส่ง-รับใบแจ้งหนี้  การชำระเงิน การตรวจสอบธุรกรรมการค้า เชื่อมโยงระบบภาษี เพื่อลดต้นทุน ประหยัดเวลา ยกระดับการแข่งขันธูรกิจไทย

 

10 ธ.ค.64 น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย บอกว่า ขณะนี้ ธปท. อยู่ระหว่างการร่วมมือกับภาคธุรกิจ ภาคการเงิน ภาครัฐ อาทิ สมาคมธนาคารไทย กรมสรรพากร สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นต้น พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินและการชำระเงินสำหรับภาคธุรกิจ เรียกว่า โครงการ Smart Financial and Payment Infrastructure for Business เพื่อสนับสนุนให้ภาคธุรกิจทำธุรกรรมการค้าในรูปแบบดิจิทัลได้อย่างครบวงจร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และยกระดับการแข่งขันของภาคธุรกิจไทย

ปัจจุบัน การทำธุรกรรมทางการค้าส่วนใหญ่ยังใช้เอกสารกระดาษในกระบวนการซื้อ-ขายระหว่างภาคธุรกิจจำนวนมาก ซึ่งมีต้นทุนสูง และใช้เวลา เช่น ต้นทุนในการนำส่งและจัดเก็บเอกสาร ความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาด และสูญหายของเอกสาร ระยะเวลาในการดำเนินงานของกระบวนการต่าง ๆ รวมถึงการชำระเงินข้ามธนาคาร การตรวจสอบข้อมูลการชำระ (reconcile) เพื่อบันทึกบัญชี การส่งมอบใบเสร็จรับเงิน และการเชื่อมต่อกับระบบของภาครัฐ โดยเฉพาะด้านภาษี ซึ่งโครงการนี้จะช่วยลดข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจแบบเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

น.ส.สิริธิดา บอกว่า  โครงการนี้ ได้รับการออกแบบโดยใช้ประโยชน์จากมาตรฐานข้อความการชำระเงิน ISO 20022 ที่เป็นมาตรฐานสากล ซึ่งเอื้อให้สามารถส่งข้อมูลทางการเงิน ไปพร้อมกับการชำระเงิน ช่วยให้ภาคธุรกิจทำรายการซื้อขายสินค้าและชำระเงินทางดิจิทัลพร้อมได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างครบวงจร โดยผู้ขายสินค้าสามารถเรียกเก็บเงินตามใบแจ้งหนี้ (invoice) ทางอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ซื้อสามารถชำระเงินตามใบแจ้งหนี้ได้สะดวกทางอิเล็กทรอนิกส์ และชำระเงินข้ามธนาคาร ผู้ขายสามารถตรวจสอบข้อมูลการชำระเงินกับรายการเรียกเก็บเงินได้รวดเร็ว ถูกต้อง และเชื่อมโยงกับการส่งข้อมูลใบกำกับภาษี (e-Tax Invoice) และใบเสร็จรับเงิน (e-Receipt) ทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ เป็นการเชื่อมโยงข้อมูลการค้า การชำระเงิน และภาษีได้แบบครบวงจรทางดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อมูลล่าสุด ณ เดือน ก.ย.64 พบว่าการใช้บริการพร้อมเพย์ได้รับความนิยม และมีการใช้งานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการลงทะเบียนแล้วประมาณ 67 ล้านหมายเลข และมีการใช้งานเฉลี่ยต่อวันเกือบ 30 ล้านรายการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 9.4 หมื่นล้านบาทต่อวัน

 ด้านนายณพงศ์ธวัช โพธิกิจ ผู้อำนวยการ ฝ่ายนโยบายระบบการชำระเงิน ธปท. บอกว่า การพัฒนาโครงการ Smart Financial and Payment Infrastructure for Business ในระยะแรก ประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่

 

ส่วนแรก คือ โครงสร้างพื้นฐานกลางที่ให้ผู้ใช้บริการส่งข้อมูลทางการซื้อขายสินค้า การชำระเงินและภาษี โดยในเบื้องต้นจะมี 3 บริการ คือ 1) บริการส่ง-รับใบแจ้งหนี้ทางดิจิทัล ที่จะช่วยให้การวางบิลเรียกเก็บเงินสะดวกขึ้น รวมถึงการนำส่งใบกำกับภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax invoice) 2) บริการการชำระเงินพร้อมข้อมูลการค้า ที่จะช่วยให้ภาคธุรกิจมีข้อมูลในการตรวจสอบกระทบยอด (reconcile) ที่รวดเร็ว และ 3) บริการการชำระเงินที่เชื่อมโยงกับการออกใบเสร็จรับเงิน ที่ช่วยกระบวนการทำงานของภาคธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น   ทั้งนี้ ภาคธุรกิจสามารถเลือกใช้บริการจากบริการที่เหมาะสมกับความต้องการของภาคธุรกิจได้ ปัจจุบันระบบอยู่ในระหว่างการพัฒนา โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในครึ่งหลังปี 65

 

ส่วนที่สอง คือ บริการให้สินเชื่อ หรือ digital supply chain financing ที่จะช่วยสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และเสริมสภาพคล่องให้กับภาคธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลที่จำเป็นของภาคธุรกิจที่ช่วยตรวจสอบ invoice รวมทั้งการให้สินเชื่อซ้ำซ้อน (double financing) ช่วยลดเวลาในการพิจารณาให้สินเชื่อ ซึ่งจะเริ่มเปิดในบริการภายในเดือนธ.ค. 64

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT